‘หนุ่ม กรรชัย’ โพสต์เดือด “ถลอกแล้ว ถลอกอีก” หลัง ‘หมอบี’ โฟนอินในรายการแฉ
หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย โพสต์ถึงใคร? “ถลอกแล้ว ถลอกอีก” บิ๊กสอบสวนกลางลั่นคดี “หมอบี” อาจเป็นอาญาแผ่นดิน
ดูเหมือนว่ามหากาพย์ดราม่าของ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ จะยังไม่จบลงง่าย ๆ และกำลังขยายวงกว้างไปสู่การตรวจสอบในระดับโครงสร้าง ล่าสุดวันนี้ (8 ส.ค. 68) หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดังรายการ โหนกระแส ได้ออกมาโพสต์ข้อความสั้น ๆ แต่สุดสะเทือนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ถลอกแล้ว ถลอกอีก” พร้อมอิโมจิปิดปากเงียบ ซึ่งสร้างความฮือฮาและทำให้ชาวเน็ตคาดเดาไปต่าง ๆ นานา จนเพจดังอย่าง ท่านเปา ถึงกับเข้ามาคอมเมนต์ว่า “คงแสบสีข้างน่าดู”
ความเคลื่อนไหวของหนุ่ม กรรชัย เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ (7 ส.ค. 68) หมอบี หรือ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลและแสดงความบริสุทธิ์ใจในกรณีเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ โดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ระบุว่าการเข้าพบครั้งนี้เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ขณะเดียวกันสื่อมวลชนได้รายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับการประสานงานจากคุณหนุ่ม กรรชัย ว่าเลขาฯ ของหมอบีต้องการขอเข้าพบ ซึ่งแม้ตอนนี้จะยังไม่เป็นคดีความอย่างเป็นทางการ แต่ทางกองปราบฯ ได้ดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้ไปไกลพอสมควรแล้ว และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยยึดตามพยานหลักฐานเป็นหลัก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่าแม้ทางวัดพระบาทน้ำพุจะยังไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ แต่หากการสืบสวนพบว่าเป็นความผิดจริงและเข้าข่าย “อาญาแผ่นดิน” เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ร้องทุกข์
นอกจากประเด็นของตัวบุคคลแล้ว การสืบสวนครั้งนี้ยังได้ส่องสว่างไปยังปัญหาเชิงโครงสร้าง โดย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) และ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ได้ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการที่วัดจัดตั้ง “มูลนิธิ” ซ้อนขึ้นมา ซึ่งมูลนิธิมีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกจากวัด ทำให้การบริหารจัดการเงินบริจาคอาจขาดความโปร่งใส
เลขาธิการ ป.ป.ท. ระบุว่า ได้ตรวจพบเส้นทางการเงินจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่มูลนิธิเหล่านี้ และกิจกรรมที่ทำก็มักจะซ้อนทับกับกิจกรรมของวัด ซึ่งถือเป็นช่องว่างทางกฎหมายที่ต้องมีการแก้ไข พร้อมยืนยันว่าทรัพย์สินของมูลนิธิที่ได้มาจากการบริจาคนั้น ไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนไปสู่ญาติพี่น้องของผู้เกี่ยวข้องได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในระดับประเทศต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา หมอบี ได้โฟนอินเข้ามาชี้แจงประเด็นดราม่าเรื่องเงินบริจาควัดพระบาทนำพุในรายการ แฉ
หมอบี ยืนยันความบริสุทธิ์ว่า ตนไม่ได้ยักยอกเงิน และได้ถวายเงิน 3 ล้านบาท ให้กับหลวงพ่อวัดพระบาทน้ำพุ ครบถ้วนเป็นเงินสด ส่วนเหตุผลที่ถวายเป็นเงินสดเพราะ เป็นไปตามดำริของหลวงพ่อ เพื่อให้หลวงพ่อสามารถนำไปใช้จ่ายได้สะดวก และเป็นการ ทำบุญกับหลวงพ่อโดยตรง ไม่ใช่ถวายวัด
หมอบี แจงว่า บัญชีเงินที่ใช้ถวายหลวงพ่อซึ่งเป็นชื่อของหมอบี (นายเสกสรรค์) เปิดขึ้นตามคำอนุมัติของหลวงพ่อ พร้อมทั้งปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าวัดได้ 70% และหมอบีได้ 30% โดยระบุว่าไม่เป็นความจริงและขอให้ผู้กล่าวหานำหลักฐานมาแสดง
เอกสารที่ใช้ยืนยันกับกองปราบได้นำไปมอบให้ตั้งแต่ปี 2562 หมอบีปฏิเสธว่าไม่ได้สารภาพกับหลวงพ่อว่านำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ แต่เป็นการไปชี้แจง รวมถึงชี้แจงถึงบัญชีธนาคาร “ใจฟ้า” ว่าเป็นตัวแทนสำหรับผู้ศรัทธาที่ต้องการถวายเงินให้หลวงพ่อโดยตรง เพราะหมอบีมีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีดังกล่าว แต่ไม่ได้เป็นคนเบิกด้วยตัวเอง โดยอดีตเลขานุการเป็นผู้เบิก
ดังนั้น การเปิดซองเงินต่อหน้าหลวงพ่อก่อนถวายเป็นไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เรื่องที่หลวงพ่อให้ปิดบัญชีใจฟ้านั้น หมอบีระบุว่าตนเองเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในวันที่ 1 สิงหาคม หลังวันที่ 30 กรกฎาคมที่หลวงพ่อให้ปิดบัญชี
สรุปก็คือในส่วนของทรัพย์สินและรายได้ หมอบี ปฏิเสธการซื้อบ้านเงินสด 50 ล้าน แต่ยอมรับว่าบ้านหลังสีดำเป็นของตนเอง มูลค่า 30 ล้านบาท รายได้มาจากการที่ผู้อื่นมอบให้เป็น “สินน้ำใจ” ไม่เคยเรียกเงิน และปฏิเสธว่าได้เงินปราบผีครั้งละ 10 ล้าน แต่เคยได้หลักล้านในอดีต ชี้แจงว่าครอบครัวทำธุรกิจค้าคนกลางมานานกว่า 50 ปีแบบเงินกงสี และที่บ้านมีฐานะอยู่แล้ว รถหรูที่ถูกกล่าวถึงส่วนใหญ่เป็นของครอบครัว ส่วนตนเองมีรถส่วนตัวเพียงคันเดียว
ผู้ที่ออกมาแฉไม่ใช่ทีมงานแต่เป็นแค่อาสาสมัคร ยืนยันว่าตนเอง ไม่ใช่หมอดู และไม่ได้สร้างสถานปฏิบัติธรรมให้กลายเป็นบ้าน ส่วนกรณีทัวร์ญี่ปุ่น ตนเองเป็นหนึ่งในผู้เสียหายและเรื่องได้เคลียร์ถึงชั้นศาลแล้ว
หมอบีทิ้งท้ายว่า เจตนาของตนและหลวงพ่อบริสุทธิ์ เป็นเพียงความเข้าใจผิดของคนบางกลุ่ม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง