ไม่จริง! ทรัมป์ปฏิเสธข่าว ยันไม่ได้คิดส่งอาวุธให้เคียฟถล่มมอสโก ทางด้านวงในเครมลินระบุ ปูตินพร้อมลุยทำศึกต่อ คำขู่แซงก์ชันมะกันไร้ความหมาย

ทรัมป์บอกปัดความเป็นไปได้ในการส่งอาวุธพิสัยทำการไกลๆ ให้เคียฟโจมตีมอสโก แต่ขู่แซงก์ชันเพิ่ม หากปูตินไม่ทำข้อตกลงหยุดยิงภายใน 50 วัน ขณะที่แหล่งข่าวคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงครมลินระบุว่า ผู้นำรัสเซียไม่ได้สะดุ้งสะเทือนกับคำขู่ล่าสุดของประมุขทำเนียบขาว ซ้ำมีแผนทำสงครามต่อจนกว่าตะวันตกจะยอมรับเงื่อนไขสันติภาพของแดนหมีขาว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแถลงเมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน ไม่ควรโจมตีกรุงมอสโก คำพูดนี้เป็นการตอบโต้รายงานของไฟแนนเชียลไทม์ ก่อนหน้านั้นที่อ้างแหล่งข่าววงในว่า ทรัมป์เคยถามเซเลนสกี้ว่า สามารถโจมตีมอสโกได้หรือไม่ถ้าอเมริกาส่งอาวุธพิสัยทำการไกลๆ ไปให้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ (14) ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศส่งอาวุธเพิ่มให้ยูเครนภายใต้สัญญาที่ระบุว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะจัดส่งอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้เคียฟ แล้วสั่งซื้อจากอเมริกามาทดแทน

นอกจากนั้น ทรัมป์ยังขู่ใช้มาตรการแซงก์ชันและรีดภาษีศุลกากร 100% กับพวกประเทศคู่ค้าที่ซื้อพลังงานจากรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่ยอมเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนภายใน 50 วัน

ทั้งนี้ ทรัมป์ระบุตั้งแต่ช่วงรณรงค์หาเสียงว่า ความขัดแย้งในยูเครนเป็นความสิ้นเปลืองเนื่องจากอเมริกาต้องนำภาษีของประชาชนไปให้การสนับสนุนเคียฟ และประกาศทำให้สงครามนี้จบลงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง

ในวันอังคาร เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า การขู่ปูตินแข็งกร้าวขึ้นหมายความว่า ตอนนี้เขาอยู่ข้างยูเครนใช่หรือไม่ ทรัมป์บ่ายเบี่ยงโดยตอบว่า ตนไม่ได้อยู่ข้างฝ่ายใด แต่กังวลกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม

นอกจากนั้นระหว่างให้สัมภาษณ์แก่บีบีซีในวันเดียวกัน และถูกถามว่า ไว้ใจปูตินหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า เขาแทบไม่ไว้ใจใครเลย และแม้ผิดหวังกับปูติน แต่ยังไม่ถอดใจ

อย่างไรก็ดี สมาชิกรัฐสภาอเมริกันบางคน อาทิ โทมัส ทิลลิส วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน และจีน ชาฮีน วุฒิสมาชิกเดโมแครต ออกมาแสดงความกังวลว่า การที่ทรัมป์ให้เวลา 50 วันก่อนบังคับใช้มาตรการแซงก์ชันรัสเซีย อาจทำให้ปูตินมีเวลาเข้ายึดดินแดนในยูเครนเพิ่ม และพยายามเอาชนะในสงคราม หรือทำให้รัสเซียมีสถานะได้เปรียบมากขึ้นในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพ

ทว่า ทรัมป์ตอบโต้ว่า ถ้าเห็นสัญญาณว่า ปูตินไม่เดินหน้ามาตรการเพื่อยุติความขัดแย้ง ตนสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วและไม่จำเป็นต้องรอถึง 50 วัน

ในอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในรัสเซีย 3 คนที่คุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบเครมลิน กล่าวตรงกันว่า ปูตินไม่ได้สะดุ้งสะเทือนกับคำขู่ล่าสุดของทรัมป์ ซ้ำมีแผนทำสงครามต่อจนกว่าตะวันตกจะยอมรับเงื่อนไขสันติภาพของรัสเซีย และข้อเรียกร้องด้านดินแดนในยูเครนอาจขยายออกไปเนื่องจากกองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบลึกขึ้น

แหล่งข่าวชี้ว่า ปูตินจะไม่ยอมยุติสงคราม เนื่องจากเชื่อว่า เศรษฐกิจและกองทัพรัสเซียที่อยู่รอดมาได้แม้เผชิญมาตรการแซงก์ชันรุนแรงที่สุดของตะวันตก ยังคงแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต้านทานมาตรการใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการขู่รีดภาษีประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียยังมีลู่ทางขายน้ำมันดิบในตลาดโลกได้

แหล่งข่าวคนหนึ่งระบุว่า แม้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับทรัมป์มาหลายครั้ง หรือกระทั่งกับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของอเมริกา ซึ่งเดินทางเยือนรัสเซียหลายรอบแล้ว แต่ปูตินเชื่อว่า ไม่มีประเทศใดหารือรายละเอียดข้อตกลงสันติภาพในยูเครนอย่างจริงจัง เขาจึงจะทำสงครามต่อไปจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ และถึงแม้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับทรัมป์ และมีการพูดคุยที่ราบรื่นกับวิตคอฟฟ์ แต่สุดท้ายแล้วในความคิดของปูตินนั้น ผลประโยชน์ของรัสเซียต้องมาก่อนเสมอ

เงื่อนสำหรับสันติภาพของปูตินนั้น มีตั้งแต่คำสัญญาที่มีผลตามกฎหมายว่า นาโตจะไม่ขยายเครือข่ายสมาชิกออกไปทางด้านตะวันออกอีก ขณะที่ยูเครนต้องมีความเป็นกลางและจำกัดขนาดกองทัพ รวมทั้งปกป้องพลเมืองที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน และยอมรับสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป ทั้งนี้ปูตินยินดีหารือเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงให้แก่ยูเครน แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่า กลไกรับประกันนี้จะทำงานอย่างไร

สำหรับเซเลนสกี้นั้น ยังคงยืนกรานว่า ยูเครนไม่มีวันยอมรับอธิปไตยของรัสเซียเหนือดินแดนของตน และเคียฟมีสิทธิ์ตัดสินใจว่า จะเข้าเป็นสมาชิกนาโตหรือไม่

แหล่งข่าวคนที่สองชี้ว่า รัสเซียมีสถานะที่ดีกว่ายูเครน ทั้งในสนามรบและทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังสามารถผลิตกระสุนสำคัญ เช่น กระสุนปืนใหญ่ ได้มากกว่าพวกสมาชิกนาโต

ปัจจุบัน รัสเซียควบคุมดินแดนเกือบ 1 ใน 5 ของยูเครน ซึ่งครอบคลุมทั้งแหลมไครเมียและอีก 4 แคว้นทางตะวันออกของยูเครน และรุกคืบไกลถึง 1,415 ตารางกิโลเมตรในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยจุดยืนที่ปูตินประกาศก็คือ ทั้ง 5 พื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และเคียฟต้องยอมถอนออกไปก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพ

แหล่งข่าวสำทับว่า ปูตินอาจทำสงครามจนกว่ากองทัพยูเครนจะล่มสลายและรัสเซียขยายดินแดนได้เพิ่มขึ้น

แหล่งข่าวคนที่สามขานรับว่า รัสเซียอาจระงับการโจมตีหลังยึดทั้ง 4 แคว้นทางตะวันออกของยูเครนสำเร็จและเผชิญการต่อต้านอย่างรุนแรง แต่ถ้า 4 แคว้นเหล่านั้นแตก รัสเซียอาจลุยต่อเพื่อยึดแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ ซูมี และคาร์คีฟ

แหล่งข่าว 1 ใน 3 ยังบอกอีกว่า ปูตินเข้าใจว่า ทรัมป์เป็นคนที่คาดเดาไม่ได้และอาจทำสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะทำให้ทรัมป์ขุ่นเคืองมากเกินไป

เขาปิดท้ายว่า มีแนวโน้มที่วิกฤตยูเครนจะลุกลามในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ทว่าไม่ได้คาดการณ์ระดับอันตรายของความตึงเครียดระหว่างสองมหาอำนาจนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของโลก แม้เขาบอกว่า สงครามจะดำเนินต่อไป

(ที่มา: เอพี/รอยเตอร์)

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO