ส่งตัว 2 ทหารกัมพูชา กลับประเทศ สาบานไม่รบกับไทยอีก
วันที่ 1 ส.ค. 68 เวลา 11:00 น. ทางเจ้าหน้าที่ทหารของไทยได้นำตัวร้อยตรี อาง เอือง และสิบเอก มอม ริทธี ทหารกัมพูชา 2 ใน 18 คน ที่ถูกไทยควบคุมตัวบริเวณพื้นที่ซำแต จังหวัดศรีสะเกษ ขึ้นรถตู้มาส่งกลับประเทศ โดย สิบเอก มอม ได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเดินทาง จึงต้องนั่งวีลแชร์ จากนั้นได้นำทหารทั้ง 2 นายไปยังจุดผ่านแดนช่องจอม ก่อนจะมีการอ่านเอกสารสัญญาและมีการส่งมอบตัวทหารทั้ง 2 นาย ให้กับทางฝั่งกัมพูชา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
ส่วยด้ายฝั่งกัมพูชา มีพันเอกณัฐพล ภูมิหมั่น หัวหน้าศูนย์ประสานงานพื้นที่ชายแดนที่ 2 กองกำลังสุรนารี ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้มารับตัว รวมไปถึงสื่อมวลชนของกัมพูชาได้มาสังเกตุการ การส่งมอบผู้ถูกควบคุมตัวในครั้งนี้ด้วย โดยก่อนการส่งมอบตัวทางเจ้าหน้าที่ทหารของไทยได้มีการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนที่มาปักหลักทำข่าว โดยให้สื่อมวลชนอยู่ด้านข้างของถนนและปฏิบัติตามกฏจุดผ่านแดนเพื่อให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย
สำหรับ การส่งมอบผู้ถูกควบคุมตัวซึ่งเป็นทหารกัมพูชานั้น หน่วยประสานงานชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำพื้นที่ 2 ช่องจอม ได้รับการประสานจากหน่วยงานความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ว่า ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น. จะส่งมีการส่งมอบผู้ถูกควบคุมตัวซึ่งเป็นทหารกัมพูชาที่ตกค้างในดินแดนไทย ระหว่างการสู้รบ ในห้วงวันที่ 24 - 29 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ทั้งหมด จำนวน 2 นาย ได้แก่ สิบเอก มอม ริทธี ที่ได้รับบาดเจ็บแขนหักและมีบาดแผลเน่าที่สะโพกด้านขวาเป็นรูขนาดใหญ่ใช้ผ้าพันแผลยัดเอาไว้ และถูกพบในคูเลต ติดต่อหลังบาดเจ็บเป็นเวลา 7 วัน หลังจากรับตัวได้ทำการรักษาขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว และร้อยตรี อาง เอือง ที่มีอาการทางจิต ที่คาดว่าเกิดจากความเครียดในการสู้รบ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินแล้วเจ้าตัวมีภาวะเสี่ยงหากไม่ได้รับการดูแลจากครอบครัว โดยก่อนส่งกลับได้รับการบำบัดขั้นต้นจนสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งเป็นหลักสากลตามกฎหมายระหว่างประเทศ ในการคุ้มครองผู้ที่ถูกควบคุมตัวให้ได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม มีการปฏิบัติตาม พรบ.ป้องกันการทรมานและอุ้มหาย และ พรบ.คนเข้าเมือง อย่างครบถ้วน
การส่งตัวทหารที่ถูกควบคุมตัว ทั้งสองคนกลับสู่มาตุภูมิในครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นการส่งตัวตามหลักมนุษยธรรมแต่ทั้งสองก็ได้ให้คำสัตย์ สาบาน ว่าจะไม่เข้าทำการรบกับฝ่ายไทยอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม.