พายุ ”วิภา” ส่งผลน้ำท่วมดินสไลด์ กระทบการจราจร 20 เส้นทาง
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ได้กำชับให้แขวงทางหลวงในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุ “วิภา” เร่งเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เครื่องจักรกล และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่เสี่ยงทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ประสานการทำงานกับหน่วยงานท้องถิ่นและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนและผู้ใช้ทางอย่างต่อเนื่อง
โดยกรมทางหลวง (ทล.) ได้จัดเตรียมป้ายเตือนอันตราย ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง - ทางลัด และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะทางหลวงสายหลักและเส้นทางภูเขาที่มีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม เช่น จังหวัดน่าน พะเยา เชียงราย แพร่ และลำปาง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้มีการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและทางหลวงสายสำคัญ หากพบคอสะพานชำรุดได้จัดเตรียมเครื่องจักร อาทิ รถแบคโฮ รถบรรทุก และเครื่องสูบน้ำ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พบทางหลวงถูกน้ำท่วมและดินสไลด์ใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน และพะเยา จำนวน 20 สายทาง รวม 29 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง ดังนี้
1. ทล.1093 ขุนห้วยไคร้ - ผาตั้ง ช่วง กม. ที่ 48+100 - 48+150 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง
2. ทล.1326 ร่องบัวทอง - สบเปา ช่วง กม. ที่ 12+875 – 13+300 ระดับน้ำ 10 - 15 เซนติเมตร (ซม.)
3. ทล.101 สี่แยกช้างเผือก - ปัว ช่วง กม. ที่ 410+670 - 411+100 ระดับน้ำ 70 ซม.
4. ทล.1081 บ่อเกลือ - เฉลิมพระเกียรติ ช่วง กม. ที่ 102+975 - 103+025 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง
5. ทล.1081 บ่อเกลือ - เฉลิมพระเกียรติ ช่วง กม. ที่ 149+700 - 150+000 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง
6. ทล.1097 เชียงกลาง - หางทุ่ง ช่วง กม. ที่ 7+500 - 7+600 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง
7. ทล.1256 ปัว - อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ช่วง กม. ที่ 25+000 - 26+000 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานตอนบนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีฝนตกหนักและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางได้ที่สายด่วน ทล. โทร. 1586