KTC รวมกูรูธุรกิจร้านอาหารแชร์สูตรลับ พาร้านอาหารไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวนและกำลังซื้ออ่อนตัว สร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจร้านอาหารอย่างมาก บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี จึงจัด KTC Fit Talk งานเสวนา “เสิร์ฟแผนรอด: สูตรลับร้านอาหารไทยฝ่าวิกฤต” แชร์แนวคิดและกลยุทธ์ทางธุรกิจจากพันธมิตรผู้ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมร้านอาหาร มุ่งขับเคลื่อนผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเสริมแกร่งให้ธุรกิจร้านอาหารไทยด้วยแนวทางเอาชนะความท้าทายทางเศรษฐกิจ

ข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี สะท้อนความระมัดระวังในการใช้จ่าย ขณะที่ข้อมูลจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยพบว่า ยอดขายร้านอาหาร Dine-in ลดลงเฉลี่ย 15–20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ธุรกิจร้านอาหารยังต้องเผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดกลับมีการแข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ โดยในไตรมาสแรกของปีมีร้านอาหารเปิดใหม่กว่า 2,500 แห่ง แต่กลับมีร้านที่ปิดตัวแล้วกว่า 1,800 แห่ง สะท้อนถึงภาวะตลาดที่เริ่มอิ่มตัวและต้องการการปรับตัวอย่างเร่งด่วน เวทีเสวนา “เสิร์ฟแผนรอด: สูตรลับร้านอาหารไทยฝ่าวิกฤต” ได้รับเกียรติจากผู้บริหารแบรนด์อาหารชั้นนำ ร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ปรับตัวและสร้างภูมิคุ้มกันธุรกิจ ได้แก่ นายสุรเวช เตลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล เรสเตอท์รองต์ หรือที่รู้จักกันดีกับร้าน Mo-Mo-Paradise นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ นางสาวพรพิมล ปักเข็ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนนิน เพนนี พาทิซเซอรี่ จำกัด ดำเนินรายการโดย นางสาวนงวดี ถนิมมาลย์ นักสื่อสารด้านเศรษฐกิจ การเงิน และต่างประเทศ

โนเบิล เรสเตอท์รองต์ ฐานต้องมั่น เทคโนโลยีต้องถึง
นายสุรเวช เตลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล เรสเตอท์รองต์ จำกัด ได้แบ่งปันบทเรียนสำคัญในการบริหาร Mo-Mo-Paradise ร้านอาหารเชนขนาดใหญ่ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยเน้นการสร้างรากฐานด้วยการมุ่งพัฒนาระบบและทีมงานให้มีความเข็งแกร่ง เน้นการสร้างยอดขายในทุกสาชา ขยายกิจการอย่างรัดกุม พร้อมกันนี้ต้องตรวจสอบเงินทุนสำรองและกระแสเงินสดให้เหมาะสมเพื่อรับมือความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ยังให้มุมมองแนวโน้มผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพควบคู่กับความอร่อย รวมถึงคาดหวังข้อมูลที่เป็นจริงจากสื่อดิจิทัลที่เน้นความรวดเร็ว พร้อมกล่าวถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อาทิ ระบบ POS, ERP และ AI เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลผู้บริโภคในเครือ Mo-Mo-Paradise

มากุโระ กรุ๊ป กล้าคิดต่าง สร้างตลาดใหม่
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เผยแนวคิดการวางรากฐานแบรนด์ Maguro สู่ความสำเร็จ ด้วยการมอง "ช่องว่าง" ในตลาดอาหารญี่ปุ่นกลุ่มพรีเมียมแมส และสร้างความแตกต่างด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง พร้อมกำหนดราคาที่เข้าถึงได้และเน้นสร้างประสบการณ์ เพื่อมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ในช่วงแรกได้ใช้กลยุทธ์ "ป่าล้อมเมือง" เน้นเปิดสาขาในชานเมืองโดบเลือกทำเลที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง และการแข่งขันไม่ดุเดือดเท่าใจกลางเมือง ใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและสร้างระบบพื้นฐานให้มั่นคง เมื่อแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักจึงขยับสู่สมรภูมิกลางเมือง ในปัจจุบันมากุโระ กรุ้ป มีมากกว่า 6 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ Maguro, SSamthing Together, Hitori Shabu, Tonkatsu Aoki, Coucou รวมถึงแบรนด์น้องใหม่ Bincho เสิร์ฟเมนูย่างถ่านในรูปแบบอาหารเซ็ต โดยต้องเลือกโลเกชั่นที่เหมาะสมกับคาแรกเตอร์ของแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าขนาดเล็ก ศูนย์การค้าเฉพาะทาง หรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายขยาย 13–15 สาขาต่อปี โดยในแต่ละครั้งต้องทำการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ อีกหัวใจสำคัญคือการมีจุดมุ่งหมายของแบรนด์ (Brand Purpose) ที่ยึดหลักปรัชญา “Give More” หรือแนวคิด “สมการ 100+1” มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งในทุกมิติ ทั้งคุณภาพ รสชาติ ประสบการณ์ ตลอดจนการดูแลทีมงานและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ยั่งยืน และมีคุณค่าต่อสังคม

เพนนิน เพนนี พาทิซเซอรี่ จากครัวแม่… สู่ตลาดโลก
นางสาวพรพิมล ปักเข็ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนนิน เพนนี พาทิซเซอรี่ จำกัด ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของแบรนด์ภายใต้แนวคิด "จากครัวคุณแม่… สู่แบรนด์ป๊อปคอร์นเพื่อสุขภาพที่ครองใจตลาดพรีเมียม" เริ่มต้นจากความต้องการขนมที่ปลอดภัยสำหรับลูก สู่การเป็นแบรนด์ป๊อปคอร์นเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม โดยทางแบรนด์จะเลือกใช้วัตถุดิบและกรรมวิธีที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ น้ำมันเมล็ดชา ช็อกโกแลตพรีเมียม และเทคโนโลยี "Air Pop" นวัตกรรมการอบข้าวโพดโดยไม่ใช้น้ำมัน แม้จะมีต้นทุนสูงขึ้น แต่แบรนด์ก็สร้างความแตกต่างได้ด้วยจุดขาย "หวานน้อย สุขภาพดี ไม่มีสารเคมี" พร้อมการรับรองมาตรฐาน GMP และฮาลาล เน้นแพคเกจที่สวยงามเพิ่มมูลค่า โดยวางตำแหน่งสินค้าเจาะตลาดพรีเมียมในห้างสรรพสินค้าระดับบน และมีแผนขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยได้นำบทเรียนสำคัญจากการรับมือวิกฤตเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อฐานลูกค้าหลักอย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนลดลง โดยปรับกลยุทธ์สู่การขายออนไลน์ สร้างสรรค์คอนเทนต์และแพลตฟอร์มใหม่ เน้นการ R&D สร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ทำให้แบรนด์เติบโตไปได้ในภาวะที่ท้าทาย

KTC หนุนผู้ประกอบการด้วย 4 กลยุทธ์สร้างความยั่งยืน
นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” กล่าวว่า เคทีซีมุ่งมั่นสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

• ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์เติบโตไปด้วยกัน เคทีซีดำเนินกลยุทธ์การตลาดร่วมกับพันธมิตรร้านอาหารโดยเน้นการ "ร่วมคิด ร่วมทำ" เพื่อให้โปรโมชันตอบโจทย์ทั้งผู้ถือบัตรและพันธมิตรอย่างแท้จริง เราสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ มีความเข้าใจ ในทุกสถานการณ์ และพร้อมปรับกลยุทธ์อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้คู่ค้าสามารถแข่งขันและเติบโตได้แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
• ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าผ่านข้อมูล เคทีซีใช้ข้อมูลยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค พบว่าแม้ยอดเฉลี่ยต่อเซลส์สลิปลดลง แต่ความถี่การใช้และจำนวนผู้ใช้กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งเคทีซีจับกระแสและปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกได้อย่างทันท่วงที สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสมอ
• ความคุ้มค่าในทุกวันด้วยคะแนน KTC FOREVER หมวดร้านอาหารเป็นกลุ่มที่มีการใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER สูงที่สุด เพราะเคทีซีเปิดโอกาสให้ใช้คะแนนได้อย่างยืดหยุ่น เริ่มต้นจำนวนน้อย ก็สามารถรับสิทธิ์ได้จริง ทั้งในรูปแบบส่วนลด เครดิตเงินคืน หรือของทานเล่นจากร้านดัง มากกว่า 70 แบรนด์ ครอบคลุมกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ สมาชิกสามารถนำคะแนนสะสมมาช่วยลดภาระทางการเงิน สร้างความผูกพันกับสมาชิก เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งฝั่งของสมาชิกและพันธมิตร สมาชิกรู้สึกถึง "ความคุ้มค่าในทุกมื้อ" ขณะที่ร้านอาหารได้รับการกระตุ้นยอดขายจากการตัดสินใจซื้อแบบฉับพลัน ทำให้เกิดความผูกพัน และสร้างการจดจำในใจสมาชิกเป็นอันดับแรก ส่งผลให้เคทีซีกลายเป็นบัตรหลักได้อย่างยั่งยืน
• การแบ่งกลุ่มสมาชิกอย่างชาญฉลาดและเลือกใช้ช่องทางดิจิทัล สื่อสารตรงใจ ตรงกลุ่ม เคทีซีมีพันธมิตรร้านอาหารกว่า 2,000 ร้านค้า โดยใช้การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และการสื่อสารเฉพาะกลุ่ม ผ่านช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ของเคทีซีที่แข็งแกร่ง อาทิ KTC Website, Facebook, LINE OA, TikTok, และ Instagram เพื่อสื่อสารข้อมูลสิทธิประโยชน์ให้ตรงใจสมาชิกแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ