โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“อนุสรณ์” แนะ กนง. ลดดอกเบี้ย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ดัน GDP ขยายตัวเกิน 2%

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ส.ค.68) รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้วิเคราะห์ถึงประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ โดยแนะนำว่า กนง. ควรพิจารณาลดดอกเบี้ยและผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาการกดดันจากเงินเฟ้อหรือเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจ ขณะที่การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนยังคงอ่อนแอ การกระตุ้นอุปสงค์ภายในจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไม่ให้ซบเซา

ด้านการขาดแคลนแรงงานจากการกลับประเทศของแรงงานกัมพูชา รศ.ดร.อนุสรณ์ แนะนำว่า ควรเปิดใบอนุญาตทำงานให้กับผู้ลี้ภัยในค่ายอพยพต่าง ๆ ในไทย เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานและบรรเทาภาระงบประมาณของรัฐบาลไทย อย่างไรก็ตาม ปัญหาขาดแคลนแรงงานในระยะยาวยังคงเป็นความท้าทายจากสังคมสูงวัย ซึ่งจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีที่เข้มข้นขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาแรงงาน รวมถึงการขยายอายุเกษียณในระบบ

สำหรับภาษีศุลกากรตอบโต้ ( (Reciprocal Tariffs) ที่รัฐบาลทรัมป์เก็บจากประเทศต่าง ๆ รศ.ดร.อนุสรณ์ ระบุว่า การเก็บภาษีที่สูงจากกลุ่ม BRICS ทำให้สินค้าในกลุ่มนี้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ขณะที่สินค้าไทยและอาเซียนได้โอกาสเพิ่มส่วนแบ่งตลาด การเก็บภาษีจากกลุ่ม BRICS โดยเฉพาะจีน (55%) และอินเดีย–บราซิล (50%) ส่งผลกระทบต่อสินค้าหลัก เช่น สินค้าเกษตร สิ่งทอ ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร ขณะที่แอฟริกาใต้ถูกเก็บภาษีในระดับปานกลาง (30%) และรัสเซียถูกจำกัดการค้าเกือบทั้งหมดจากมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งทำให้ความสามารถแข่งขันของ BRICS ลดลงอย่างชัดเจน

“อัตราภาษีทรัมป์ที่เรียกเก็บจากกลุ่ม BRICS สูงกว่าอาเซียนค่อนข้างมาก เป็นการสร้างโอกาสสินค้าส่งออกของไทยและอาเซียนที่ต้องแข่งขันกับกลุ่ม BRICS การส่งออกอาจขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม นอกจากนี้ ยังจะทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตจากประเทศ BRICS มายังไทยและอาเซียนมากขึ้นหากส่วนต่างของอัตราภาษีศุลกากรของสองกลุ่มประเทศนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้สูงกว่า 2% ได้” รศ.ดร.อนุสรณ์ ระบุ

ในขณะที่กลุ่มอาเซียนได้รับประโยชน์จากการลดภาษี ภายใต้นโยบาย Trump Tariffs โดยไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ได้รับการปรับลดภาษีเหลือเพียง 19% จากเดิมที่สูงกว่า ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ อย่างมาก

จากการวิเคราะห์ของ DEIIT พบว่า ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย มีศักยภาพในการขยายส่วนแบ่งตลาดยางและผลิตภัณฑ์ยางในสหรัฐฯ โดยไทยและอินโดนีเซียเด่นในยางธรรมชาติและยางรถยนต์ ส่วนเวียดนามได้เปรียบในยางจักรยาน ขณะที่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย สามารถแข่งขันได้ดีในยางสังเคราะห์ นอกจากนี้ ไทยและมาเลเซีย ยังเด่นในผลิตภัณฑ์ยางอุตสาหกรรม ซึ่งเกิดจากต้นทุนแข่งขันที่ต่ำกว่าและอัตราภาษีสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าประเทศใน BRICS

นอกจากนี้ ไทยและบางประเทศในอาเซียน ยังได้เปรียบในตลาดยานยนต์และชิ้นส่วนในสหรัฐฯ หลังจากที่ BRICS โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ต้องเผชิญภาษีสูงถึง 50–55% คำสั่งซื้อรถกระบะ, รถยนต์อเนกประสงค์, รถบรรทุก และชิ้นส่วนสำคัญมีแนวโน้มจะย้ายมาที่ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม โดยไทยครองความได้เปรียบในรถกระบะและยางรถยนต์ ส่วนมาเลเซียเด่นในอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และเวียดนามเสริมในสายไฟและยางมอเตอร์ไซค์

การเก็บภาษีสูงจากจีนและอินเดีย ภายใต้ Trump Tariffs ยังส่งผลให้คำสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน มีแนวโน้มที่จะย้ายมายังอาเซียนมากขึ้น รวมถึงการย้ายฐานการผลิตเข้าสู่กลุ่มอาเซียน โดยเวียดนามโดดเด่นในสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า ไทยแข็งแกร่งในชิ้นส่วนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ส่วนมาเลเซียและฟิลิปปินส์ มีโอกาสขยายการผลิตในเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวหุ้นธุรกิจ

“คลัง” ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยประชาชนชายแดน “ไทย-กัมพูชา” หวังบรรเทาผลกระทบ

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“พาณิชย์” ลุยรีแบรนด์ “ตลาดนัดจตุจักร” หนุน SME-OTOP เจาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

สรุปข่าวเด่น สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ประจำวันที่ 11 สิงหาคม 2568

efinanceThai

ทำไม คริสปี้ ครีม ถึงกลายเป็นของฝาก “จากกรุงเทพฯ”

ThaiFranchiseCenter

ไทยเร่งดัน“เอไอแห่งชาติ”แข่งเวทีโลก ลุยสร้างคน-ดึงทุนปักธงฮับเทคเอเชีย

กรุงเทพธุรกิจ

จี้รัฐเร่งเพิ่มขีดแข่งขันประเทศ TDRI ห่วงไทยตกเรดาร์ประชาคมโลก

กรุงเทพธุรกิจ

‘คาราบาว’ โตแรงรอบ 15 ไตรมาส ดึง 2 แบรนด์เบียร์เสริมแกร่งการขาย

กรุงเทพธุรกิจ

“จตุพร” นำทีมพาณิชย์ลงพื้นที่ถนนทรงวาด เล็งปั้นให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ข่าวดีผู้ส่งออก! พณ.ปูทางรับ FTA ไทย-EFTA เจรจาคู่ค้ายักษ์ใหญ่สวิส ดันส่งออกไร้กำแพงภาษี

ข่าวหุ้นธุรกิจ

KBANK คาดกรอบบาทสัปดาห์หน้า 32.10-32.80 บ. จับตาผลประชุม “กนง.”

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“ดาวโจนส์” ปิดบวก 200 จุด Nasdaq นิวไฮต่อเนื่อง Apple พุ่ง 4.2% นำทีมหุ้นเทค

ข่าวหุ้นธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...