3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม โดยจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่อัตรา 20% และเพิ่มเป็น 40% สำหรับสินค้าที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอื่นแต่ส่งผ่านเวียดนาม ที่เป็น “Transshipping” ขณะที่เวียดนามตกลงยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมด ฟากญี่ปุ่นยังไม่บรรลุข้อตกลง เสี่ยงที่จะถูกเก็บภาษีสูงขึ้น ปัจจุบันญี่ปุ่นถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 10% สำหรับสินค้าทั่วไป, 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วน, และ 50% สำหรับเหล็กและอลูมิเนียมสหรัฐฯ ล่าสุดสหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นเป็น 30%-35% อาจทำให้ต้นทุนสินค้าในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นและเร่งเงินเฟ้อขยับเร็วขึ้น เป็นเหตุที่จะเร่งน้ำหนักการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด
-วันนี้ 21.00 น. ไทยเตรียมเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เพื่อขอลดอัตราภาษีตอบโต้จาก 36% ให้เหลือต่ำที่สุด (คาดการณ์ 18%) และขยายเวลาผ่อนผันถึง 1 ก.ย. 68 (เป็นไปได้ต่ำ เพราะทรัมป์ยันจะไม่ขยายเวลา) Best Case เจรจาสำเร็จที่ 10% จะช่วยลดแรงกดดันต่อภาคการส่งออกและภาคการผลิต เป็นผลบวกต่อหุ้นอิเล็กทรอนิกส์อย่าง KCE, HANA, CCETและหุ้นนิคมฯ WHA AMATA Neutral 18%ถึง Worst Case มากกว่า 18% ไทยอาจเผชิญกับต้นทุนการค้าสูงขึ้น และเสี่ยงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีเป็นผลลบต่อกลุ่มหุ้นอาหาร/ส่งออกอย่าง TU, ITC, CPF, MALEE และ COCOCO
-Bond Yield ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย ณ 1.75%สะท้อนความคาดหวังลดดอกเบี้ย ตลาดประเมินว่าธปท. ลดดอกเบี้ย 25 bps. ลงสู่ 1.50% ในช่วงที่เหลือของปี บ่งชี้สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจ หนุนนักลงทุนอาจโยกเงินจากตราสารหนี้เข้าสู่หุ้นปันผลสูง เช่นหุ้น SIRI, ITC, M , AP, LH, KKP, TU และ KTC
-เสร็จพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของครม. ชุดใหม่ ที่นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ และช่วงบ่ายจะมีการประชุม ครม. นัดพิเศษ เน้นไปที่การเริ่มต้นปฏิบัติหน้าที่ของครม. ชุดใหม่และการแบ่งงานใน ครม. รวมทั้งเตรียมการสำหรับนโยบายหลักที่จะแถลงต่อรัฐสภาอาจรวมถึงมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพ หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นที่สามารถทำได้ทันที
-SET INDEX บ่ายนี้คาด วิ่งระหว่าง 1,116-1,128 จุด
บล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีช่วงเช้าปรับตัวขึ้น ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ หลังสหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ประกอบกับตลาดคาดหวังเฟดเร่งลดดอกเบี้ยหลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐในเดือน มิ.ย. ลดลงสวนทางกับที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ปัจจัยในประเทศ ครม.ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ และเตรียมนัดประชุมพิเศษ, ทางด้าน กสทช.มีมติเป็นเอกฉันท์ เลื่อนการรับรองผลประมูลคลื่นออกไปเป็นวันที่ 6 ก.ค.มองเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มสื่อสารในระยะสั้น ติดตามการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐ
กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวทำ Lower up ต่อเนื่อง ระยะสั้นแนวต้านหลักที่ 1,125 จุด ผ่านยืนเป็นสัญญาณบวก
บล.โกลเบล็ก คาดดัชนียังเคลื่อนไหว Sideways โดยปรับตัวขึ้นได้จำกัดเนื่องจากนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและไทยในคืนนี้ก่อนลงทุนเพิ่มเติม โดยช่วงบ่ายมีแนวรับที่ 1,115 จุด แนวต้าน 1,125 จุด
ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีเคลื่อนไหว Sideways ออกข้าง เนื่องจากนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและไทยมีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และขนส่งมีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มไอซีที และพลังงาน ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,119.36 จุด บวก 3.67 จุด หรือ 0.33% มีมูลค่าการซื้อขาย 18,291 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้