สหรัฐฯ เคาะภาษีนำเข้าสินค้าไทย 19% มีผล 1 ส.ค. เท่ากับกัมพูชา-มาเลเซีย
หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประกาศแผนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทยสูงถึง 36% เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ล่าสุดไทยสามารถเจรจาลดอัตราภาษีลงเหลือ 19% ได้สำเร็จ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ พร้อมจัดระดับภาษีไทยให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับกัมพูชา มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการปิดดีลการค้า 90 ประเทศใน 90 วัน เพื่อปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าใหม่ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ของทรัมป์
ภาษีนำเข้าจากไทยที่สหรัฐฯ ประกาศใช้ล่าสุดอยู่ที่ 19% ซึ่งลดลงจากแผนเดิมที่ตั้งไว้สูงถึง 36% โดยอัตรานี้สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ถูกจัดเก็บในอัตราเดียวกัน ขณะที่เวียดนามอยู่ที่ 20% และประเทศอย่างลาวและเมียนมาต้องเผชิญภาษีสูงถึง 40%
แม้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าได้ทั้งหมด แต่การลดลงมาเหลือ 19% ถือเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่งของฝ่ายไทย เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่ยังต้องจ่ายภาษีในอัตราสูง เช่น บรูไน 25%, ลาว 40%, เมียนมา 40% และเม็กซิโกที่ยังโดนภาษี 25% สำหรับรถยนต์ และ 50% สำหรับเหล็ก-ทองแดง
ด้านทรัมป์ยังประกาศขยายเส้นตายภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกออกไปอีก 90 วัน พร้อมระบุว่าอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมกับประธานาธิบดีเม็กซิโก โดยยังไม่มีข้อตกลงใหม่ที่ชัดเจน ต่างจากไทยที่สามารถบรรลุข้อตกลงและประกาศอัตราภาษีอย่างเป็นทางการได้ทันกำหนด