ตะขาบ 5 ตัวจากจุดต่างสู่จุดแข็ง ครองใจคนทุกเจเนอเรชัน
แต่เป็น SME ไทยที่กล้าท้าทายตลาด สร้างแบรนด์อย่างมั่นคง และกำลังเดินหน้าสู่ปีที่ 90 อย่างยั่งยืน คำตอบของความสำเร็จนี้อยู่ในสูตรลับที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเรากำลังจะถ่ายทอดให้ทุกท่านได้รู้จัก
หากพูดถึงยาอมแก้ไอสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน หนึ่งในชื่อที่ทุกคนคุ้นหูคงหนีไม่พ้น ตะขาบ 5 ตัว แบรนด์สมุนไพรที่ไม่ได้มีแค่สินค้าที่ช่วยบรรเทาอาการไอ แต่ยังสะท้อนภาพ ธุรกิจที่ยืนหยัดด้วยคุณภาพ สร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่ง และขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่น
วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณสุเทพ สิมะวรา และ คุณสุนทร สิมะวรา ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้สืบสานตำนานต่อจากนายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม (อาเตี่ย หรือคุณพ่อ) ผู้คิดค้นสูตรยาอมแก้ไอต้นตำรับ และเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่บนซองยาล้อมรอบด้วยตะขาบ 5 ตัว สัญลักษณ์แห่งเอกลักษณ์ของแบรนด์นั่นเอง
จุดเริ่มต้น: จากเด็กปรุงยาสู่ตำนานสมุนไพร
เกือบศตวรรษก่อน นายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม อดีตเด็กช่วยปรุงยาที่เมืองจีน อพยพมาตั้งหลักในไทยพร้อมความรู้ด้านสมุนไพร เริ่มจากปรุงยาอมสมุนไพรแจกให้ญาติพี่น้อง ก่อนพัฒนาจนกลายเป็นสินค้าที่ฝากขายตามร้านขายยาทั่วกรุงเทพฯ
คุณสุเทพเล่าว่า การที่คุณพ่อใช้ตะขาบเป็นเครื่องหมายการค้า เกิดจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 หนีไปหลบภัยในสวนช่วงน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ เห็นตะขาบหนีน้ำมาเกาะอยู่ตามฝาบ้าน จึงนึกถึงหลักการของหมอจีนที่ว่า “พิษล้างพิษ” เพราะตะขาบเป็นสัตว์พิษ เหมาะกับการเป็นสัญลักษณ์และเครื่องหมายของยารักษาโรค ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นที่คนจำได้จนถึงวันนี้
รักษาเอกลักษณ์ สร้างจุดแข็ง
“ซองยาและโลโก้ที่ดูโบราณจะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้หรือ?” คำถามนี้สะท้อนความท้าทายที่ธุรกิจครอบครัวจำนวนมากต้องเผชิญในยุคที่กระแสเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองขาดของคุณสุเทพและคุณสุนทร ที่เลือกยึดภาพลักษณ์เดิมไว้ เพราะซองยาที่มีรูปคุณพ่อและตะขาบ 5 ตัว คือเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ และกลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์ที่ไม่เหมือนใคร
ขณะเดียวกัน สูตรยา ก็เป็นอีกสิ่งที่ห้าตะขาบไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยาอมนี้ไม่หวาน ไม่เย็น ไม่ซ่าเหมือนที่ตลาดคาดหวัง แต่เป็นรสเฝื่อนนิด ๆ หวานปลาย ๆ เมื่ออมแล้วให้ความชุ่มคอและบรรเทาอาการไอได้จริง นี่คือ แก่นแท้ของผลิตภัณฑ์ ที่สร้างความเชื่อมั่นและบอกเล่าคุณภาพมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจ
นอกเหนือจากเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งและการยึดมั่นในคุณภาพแล้ว ส่วนสำคัญยิ่งที่ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนคือการได้รับการสนับสนุนที่ดีจากแหล่งเงินทุนที่เข้าใจและพร้อมเป็นพันธมิตร ในการก้าวเดินไปข้างหน้า การขยายกำลังการผลิต การวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ หรือแม้แต่การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ทันสมัย ล้วนต้องใช้เงินลงทุนจำนวนไม่น้อย
ซึ่งการมีสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งอย่างธนาคารไทยพาณิชย์ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางการเงิน ก็เปรียบเสมือนลมใต้ปีกที่ช่วยให้ห้าตะขาบสามารถทะยานไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ ไม่เพียงแค่การปล่อยสินเชื่อ แต่ยังรวมถึงความเข้าใจในธรรมชาติของธุรกิจ การให้คำแนะนำด้านการเงิน และการวางแผนที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกิจการ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและปรับตัวได้อย่างเต็มศักยภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดด้านเงินทุน
การตลาดเชิงรุก สร้างสรรค์ แตกต่าง และเข้าถึงคนรุ่นใหม่
สิ่งที่ทำให้ ตะขาบ 5 ตัว แตกต่าง คือความกล้าที่จะสร้างสรรค์และขยายตลาดแบบนอกกรอบ ด้วยการจับมือกับพันธมิตรหลากหลายวงการ อาทิ ความร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ผลิตเสื้อผ้าและกระเป๋าลายตะขาบ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สมุนไพรไทยดูทันสมัย การจับมือกับผู้ผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สร้าง Functional Herbal Drink ตอบโจทย์ผู้ใช้เสียงมาก
รวมถึงการร่วมกับแบรนด์ไอศกรีมชื่อดัง ผลิตไอศกรีมรสยาอมตะขาบ ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง และล่าสุดยังได้รับคัดเลือกจากผู้จัดงานKAWS HOLIDAY THAILAND ให้เป็นตัวแทนชูความเป็นไทยผ่านงานศิลปะระดับโลก กลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคแย่งกันซื้อจนเกลี้ยง
คุณภาพยืนหนึ่งไม่เคยลดมาตรฐาน
ความสำเร็จของ ตะขาบ 5 ตัว ไม่ได้มาจากเพียงเรื่องราวที่น่าประทับใจแต่เกิดจากการยึดมั่นในคุณภาพที่คงมาตรฐานมาตลอด 90 ปี สูตรสมุนไพรแท้ที่ถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น ปราศจากน้ำตาลและสารปรุงแต่งที่ไม่จำเป็น ผ่านการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ จาก สวทช. ที่ยืนยันว่ายาอมสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในลำคอได้ถึง 99.99% ภายใน 5 นาที ใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการโดยไม่ทำให้เกิดการดื้อยา ซึ่งเป็นจุดที่ทายาททั้งสองท่านเน้นย้ำอย่างภาคภูมิใจ
ESG: ขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบ
การดำเนินธุรกิจของ ตะขาบ 5 ตัว เน้นความยั่งยืนตามแนวทาง ESG ที่จับต้องได้ สิ่งแวดล้อม – โรงงานออกแบบพิเศษเพื่อไม่ให้ฝุ่นผงสมุนไพรเล็ดลอดออกสู่ภายนอก ลดผลกระทบต่อชุมชน สังคม – สนับสนุนพนักงานด้วยสวัสดิการที่ดี เช่น ทุนการศึกษาสำหรับบุตร และการช่วยเหลือด้านสุขภาพ ธรรมาภิบาล – ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส คำนึงถึงประโยชน์ของผู้บริโภคและสังคม
ทุกก้าวของตะขาบ 5 ตัว สะท้อนให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องวิ่งตามใครเสมอไป หากแต่ต้องรู้จักคุณค่าของสิ่งที่ตนมี กล้าพัฒนาและเดินหน้าด้วยความจริงใจต่อผู้บริโภค เพราะสุดท้ายแล้วธุรกิจที่ยั่งยืน คือ ธุรกิจที่ไม่หยุดเรียนรู้ ไม่หยุดสร้างสรรค์ และพร้อมเติบโตไปพร้อมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แล้ววันนี้ธุรกิจของคุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวขึ้นเป็น Game Changer ในแบบของตัวเอง