สว. เทวฤทธิ์ถามถึงความเป็นธรรมปมสอบวินัยร้ายแรง นพ.สุภัทร ด้าน รมว.สธ. ย้ำการจัดซื้อ ATK ต้องไม่ผิดระเบียบ
วันนี้ (18 สิงหาคม) ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 10 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งถาม เรื่อง ความเป็นธรรมในการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ต่อ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย กรณีดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจ ATK โดยมี สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาตอบกระทู้
เทวฤทธิ์กล่าวว่า สืบเนื่องจาก 1-2 วันที่ผ่านมามีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเป็นธรรมจากเหตุที่ นพ.สุภัทร อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจ ATK มีวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 5 ครั้ง เป็นการแบ่งซื้ออันเป็นการฝ่าฝืนต่อระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เป็นการปฏิบัติราชการเพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควร สำหรับบริษัทผู้ขายทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการร้ายแรงหรือไม่
โดยช่วงที่ นพ.สุภัทร จัดซื้อจัดจ้างเป็นช่วงของภารกิจแพทย์ชนบทบุกกรุง ขณะนั้นมีวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุข นพ.สุภัทรได้มีการซื้อชุดตรวจ ATK ชิ้นละ 230 บาท ภายใต้เงื่อนไขการให้เครดิต 180 วัน
สำหรับคนที่ยังไม่ได้รู้จัก นพ.สุภัทร เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สำคัญ มีบทบาทในวงการสาธารณสุขและอุทิศตนต่อประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนและในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยในช่วงวิกฤตโควิด-19 หากไม่มีการตรวจเชิงรุกในพื้นที่กรุงเทพมหานครอาจได้รับผลกระทบอย่างสาหัส โดยครั้งนั้นมีผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ท่ามกลางเชื้อที่รุนแรงมาก
“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย อย่างร้ายแรง เสนอปลด นพ.สุภัทร ออกจากราชการโดยอ้างว่าการจัดซื้อ ATK ครั้งนั้นไม่เป็นไปตามระเบียบ ทั้งที่โรงพยาบาลหลายแห่งมีการใช้แนวทางจัดซื้อเดียวกัน แต่กลับไม่มีการตรวจสอบเอาผิดแต่อย่างใด ดังนั้น การจะบอกว่า นพ.สุภัทร จัดซื้อ ATK แพงหรือไม่ ควรมีการเปรียบเทียบข้อมูล” เทวฤทธิ์กล่าว
เทวฤทธิ์ขอทราบข้อมูลการจัดซื้อ ATK ในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะข้อมูลของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และโรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อจะบอกว่าการจัดซื้อ ATK ของ นพ.สุภัทรมีปัญหาหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโรงพยาบาลที่จัดซื้อ ATK ในช่วงเวลาเดียวกันกับภารกิจแพทย์ชนบทบุกกรุง แต่กลับไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย
เข้าใจว่า ATK จำเป็น แต่การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบ
อีกทั้งคณะกรรมการสอบวินัย มีมติเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่า นพ.สุภัทรได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการ แต่ไม่เรียกตัว นพ.สุภัทรเข้าสอบสวนหรือให้ปากคำเพิ่มเติม จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกสังคมตั้งคำถามว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่
สมศักดิ์ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้มีการร้องเรียน เมื่อมีการร้องเรียนกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งให้ผู้ตรวจสอบภายในทำการตรวจสอบ โดยการร้องเรียนเป็นข้อมูลที่มาจากจังหวัดสงขลา เมื่อหัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบภายในได้ลงพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลจะนะ โรงพยาบาลระโนด พบว่าเป็นการจัดซื้อจัดจ้างในปี 2564 แต่มีการตรวจสอบในปี 2566 ซึ่งพบความบกพร่องในการบริหารในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลคือ การจัดซื้อจัดจ้าง ATK การอนุมัติเรื่องการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่เดินทางมายังกรุงเทพมหานครในกิจกรรมแพทย์ชนบทบุกกรุง และการสร้างอาคาร 8 ชั้นที่มีการเปลี่ยนแบบโดยไม่ได้มีการแก้ไขสัญญา และสั่งการให้เปลี่ยนแบบโดยพลการ ทั้งยังมีเรื่องปลีกย่อยทางการจัดซื้อพัสดุ เช่น การแปลงสภาพรถราชการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้รับเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรง
สมศักดิ์ระบุว่าคณะกรรมการมีมติออกมาแล้ว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมติยังเป็นความลับ ตนเองก็ยังไม่ทราบว่ามติเป็นเช่นไร เพราะมตินี้จะถูกเสนอไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (อกพ.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน โดยการประชุมจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงไม่สอบสวนโรงพยาบาลอื่นด้วย สมศักดิ์ชี้แจงว่า หากไม่มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจะมีการตรวจสอบช้า เพราะไม่มีการติดตาม หาก สว. อยากให้มีการตรวจสอบโรงพยาบาลใด ก็สามารถทำหนังสือร้องเรียนเข้ามาได้
“ผมเข้าใจว่าการจัดซื้อ ATK มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อบริการประชาชนในเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย แต่เรื่องลักษณะนี้มีระเบียบราชการ ผมตระหนักและเคยขอให้ราชการพยายามร่างกฎหมายของคนที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำผิด แต่ถ้าผิดระเบียบราชการ นั่นคือเรื่องของการทุจริตประเภทหนึ่ง การทำอะไรที่ผิดระเบียบเป็นเรื่องผิดกฎหมาย” สมศักดิ์กล่าว
สมศักดิ์กล่าวต่อว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่ส่งมาถึงตนเอง แต่จะให้ความเป็นธรรมถึงที่สุดเมื่อเห็นข้อมูลในเรื่องนี้แล้ว แต่อย่างไรก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ของราชการ อะไรที่ขาดเหลือ สว. สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้ ยินดีที่จะรับเรื่องนี้เพื่อไปดูให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น