สีกาน้ำหวานรับเงิน “ทิดสฤษดิ์” แต่ปัดไม่รู้เป็นเงินวัด ยอมรับรู้จักกว่า 10 ปี ส่วนชู้สาวไม่ปฏิเสธ!
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รองผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ นายสฤษดิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และนางสาวภูธินี กวินพิศาล หรือสีกาน้ำหวาน ผู้ต้องหาในคดียักยอกเงินวัดนครสวรรค์ 4 ล้านบาท ว่าหลังจากพนักงานสอบสวนแจ้งพฤติการณ์กับสีกาน้ำหวาน กล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในการยักยอกเงินวัด เพราะรับเงินจากอดีตเจ้าคุณสฤษดิ์มา โดยเบื้องต้น สีกาน้ำหวาน ยอมรับว่า รับเงินโอนมาจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินวัด และให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และจากการสอบปากคำ สีกาน้ำหวาน ให้การอ้างว่า เริ่มต้นรู้จักกับ ทิดสฤษดิ์ จากการเข้าไปทำบุญที่วัด เริ่มทำบุญตั้งแต่หลักหมื่น และรู้จักกันเรื่อยมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ส่วนความสัมพันธ์เชิงชู้สาว สีกาน้ำหวานไม่ได้ปฏิเสธอะไร
ส่วนอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ หรือทิดสฤษดิ์ ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมาก รวมถึงไม่ได้ให้ข้อมูลด้วยว่าเอาเงิน 4 ล้านไปทำอะไร ส่วนใหญ่ให้ข้อมูลทั่วๆ ไป และคงต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง และอ้างว่าเป็นเงินที่โอนไปเป็นเงินส่วนตัว
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานมาพิสูจน์เจตนาว่าคำให้การสอดคล้องกับข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด แล้วนำมาวิเคราะห์
ส่วนเงินที่ยักยอกไป หลักฐานสำคัญคือ เส้นทางการเงิน โดยจะต้องมีการสอบปากคำ ธนาคาร เรื่องการโอนเงิน และพยานแวดล้อม โดยเฉพาะพระลูกวัดที่มีหน้าที่ทำบัญชีว่า การสั่งการของอดีตเจ้าอาวาสฯ เป็นอย่างไร มีเจตนาที่จะใช้เงินอย่างไร และเบื้องต้น พฤติการณ์พบทำคนเดียว เพราะมีอำนาจสูงสุดในการสั่งการ และใช้เงินต่างๆ
ส่วนเส้นเงินจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร ในฐานะที่ ทิดสฤษดิ์ เป็นรองอธิการบดีฯ และในฐานะเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ยังไม่พบโอนไปให้สีกา อยู่ระหว่างสืบสวนเพิ่มเติม เพราะส่วนใหญ่จะพบจากบัญชีวัดนครสวรรค์เป็นหลัก
ส่วนสีกาอีกคนจะไปถึงหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสืบสวน ทั้งนี้ยังพบเส้นเงินอื่นๆ ด้วยแต่จะต้องทำการพิสูจน์ทราบว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งพฤติการณ์เพิ่มเติมแยกเป็นกรรม เพราะเส้นเงิน 1 เส้นก็ถือว่ามีความผิด 1 กรรม ทั้งนี้ หลังจากคุมตัวไปฝากขัง พนักงานสอบสวนได้คัดค้านประกันตัว เพราะเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและคดีมีอัตราโทษสูง