การค้า ‘จีน-สมาชิก SCO’ ปี 2024 พุ่งแตะ 5.12 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลิงจี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่ามูลค่าการค้ารวมระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ในปี 2024 อยู่ที่ราว 5.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำบทบาทของจีนในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนความร่วมมือกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในระดับภูมิภาค
การนำเข้าของจีนจากประเทศสมาชิก SCO ครอบคลุมทั้งพลังงานและสินค้าเกษตร โดยในปี 2024 จีนได้นำเข้าน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินรวมมูลค่าเกือบ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.91 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของการนำเข้าพลังงานทั้งหมดของจีนในปีเดียวกัน ขณะเดียวกัน จีนยังนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศสมาชิกองค์การฯ มูลค่ารวม 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.42 แสนล้านบาท สะท้อนให้เห็นความหลากหลายของการค้าระหว่างกันที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะพลังงาน แต่ยังรวมไปถึงปัจจัยด้านอาหารและเกษตรกรรมที่มีความสำคัญต่อเสถียรภาพของภูมิภาค
จางลี่ เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่าการลงทุนและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับกลุ่ม SCO ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจีนได้จัดตั้งบริษัทในประเทศสมาชิกองค์การฯ มากกว่า 3,000 แห่ง ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานเฉลี่ยมากกว่า 2 แสนอัตราต่อปี การขยายตัวเช่นนี้ไม่เพียงสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุตสาหกรรมในระดับภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง จีนเตรียมก้าวสู่บทบาทเจ้าภาพการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ปี 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เทศบาลนครเทียนจิน ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน โดยคาดว่าจะมีคณะผู้นำจากกว่า 20 ประเทศ และหัวหน้าองค์กรระหว่างประเทศกว่า 10 แห่ง เข้าร่วมเพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางและแผนงานพัฒนาของ SCO ในทศวรรษถัดไป การประชุมดังกล่าวจึงถูกจับตามองในฐานะเวทีที่จะสะท้อนภาพอนาคตความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาค
สำหรับองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ก่อตั้งขึ้นด้วยเป้าหมายในการจัดการข้อวิตกกังวลด้านความมั่นคง ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาและขยายบทบาทจนกลายเป็นหนึ่งในองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาคที่มีอิทธิพลสูงสุดในปัจจุบัน ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ผ่านมา SCO เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศสมาชิกขององค์การมีจำนวนประชากรรวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ทำให้ SCO ไม่เพียงเป็นกลไกด้านความมั่นคง หากแต่ยังกลายเป็นเวทีเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างสมดุลและเชื่อมโยงความร่วมมือในระดับโลกได้อย่างทรงพลัง