“สม รังสี” ชี้หนทาง “ระบอบ ฮุน เซน” ล่มสลาย ลั่นอย่าเพิ่งหมดหวัง

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 68 แมตต์ ฮันต์ ผู้สื่อข่าว France24 ประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ “สม รังสี” อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และอนาคตของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ผู้อยู่ในอำนาจมานานนับ 4 ทศวรรษ

สม รังสี บอกว่า กัมพูชาอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการมานานกว่า 40 ปี โดยไม่ใช่แค่ระบอบการปกครองแบบพรรคการเมืองเดียว แต่เป็นระบบคนเดียวที่ ฮุน เซน ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

“ด้วยเหตุนี้ ฮุน เซน จึงไม่สามารถปล่อยให้เกิดเสรีในระบบของเขาได้ เขาติดกับในระบบของตัวเอง เพราะถ้าเขาปล่อยให้มีการแสดงออกาทงความคิด การเดินขบวน ประท้วง หรืออะไรทำนองนั้น ผมคิดว่าระบอบของเขาจะล่มสลายลง” สม รังสี กล่าว

ฮุน เซน ต้องการอำนาจเพื่ออะไร?

เขาเสริมว่า การเลือกตั้งทั้งหมดที่เราเห็นในกัมพูชาตลอด 30 ปีล้วนถูกบิดเบือนมาโดยตลอด ยกเว้นเพียงครั้งเดียวที่จัดโดยสหประชาชาติปี 2536 ตอนนั้น ฮุน เซน กับพรรคของเขาแพ้การเลือกตั้ง และถ้ามีการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมจริง ๆ มั่นใจว่าเขาจะต้องแพ้อีกอย่างแน่นอน และคนกัมพูชาก็ทราบเรื่องนี้ดี

ส่วนประเด็นเรื่องแรงจูงใจการสร้างความขัดแย้งไทย-กัมพูชา อดีตผู้นำฝ่ายค้านมองว่า แรงจูงใจหลักของ ฮุน เซน คือการยึดติดกับอำนาจ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจไว้ เพราะถ้าเขาสูญเสียอำนาจ เขาก็จะสูญเสียทุกอย่าง

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการพ้นผิด เขาต้องมีอำนาจเบ็ดเสร็จเพื่อรับประกันว่าตัวเองจะรอดพ้นจากคดีความ เพราะว่าเขาได้ก่ออาชญากรรมมาเยอะมาก ตลอดการครองอำนาจยาวนาน” สม รังสี กล่าว

เขาบอกอีกว่า ฮุน เซน ไม่สามารถลงจากตำแหน่งได้ ถึงแม้จะลงจากนายกฯ แล้ว แต่แค่ในนามเท่านั้น เขาแต่งตั้งลูกชาย ฮุน มาเนต แต่จริง ๆ แล้ว ฮุน เซน คอยบงการอยู่เบื้องหลัง และถือว่าเป็นผู้บริหารประเทศตัวจริงคนปัจจุบัน

การสร้างความไร้เสถียรภาพที่ชายแดน จึงเป็นแผนแบบเผด็จการ ที่ไม่ว่ารายเล็กหรือใหญ่ พอเจอปัญหาภายในประเทศ ต่างก็ต้องสร้างความขัดแย้งภายนอกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ความขัดแย้งกับไทยช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็นับเป็นกรณีเดียวกัน

ฮุน เซน ยุ่งการเมืองไทย ผิดพลาดครั้งใหญ่?

สม รังสี ยังบอกว่า ฮุน เซน ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ในการพยายามแทรกแซงการเมืองไทย

“เขาต้องการที่แบ่งแยกชนชั้นนำของไทย ทั้งพรรคการเมืองและกองทัพ แต่เขาทำไม่สำเร็จ และการที่เขาเอาบทสนทนากับอดีตนายกฯ ของไทยมาเปิดเผยนั้น ถือว่าเป็นเจตนาร้าย ในจร้ายอย่างยิ่ง และบอกว่าจะแฉความลับส่วนตัวที่เขารู้ เมื่อครั้งที่ความสัมพันนธ์อันดีกับทักษิณ” สม รังสี กล่าว

เขาเสริมว่า “ถ้าเข้าใจไม่ผิด ผมเห็นพรรคการเมืองไทยและชนชั้นนำของไทยรวมกันเพื่อต่อต้าน ฮุน เซน สรุปแล้ว ฮุน เซน ตั้งใจแทรกแซงกิจการภายในของไทย แต่เรื่องนี้ส่งผลร้ายย้อนกลับมาที่ตัวเขาเอง”

อดีตผู้นำฝ่ายค้านย้ำว่า ฮุน เซน ไม่เคยชนะเลือกตั้งใด ๆ เลย หมายถึงการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม เขามักโกงการเลือกตั้ง ผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจเขามาตลอด ต่างจากไทย ในไทยชีวิตการเมืองมีสีสัน การเลือกตั้งในไทยเป็นของจริง ทุกพรรคยอมรับ รวมถึงฝ่ายค้านด้วย

ในกัมพูชา ฝ่ายค้านจะถูกปราบปรามและไม่สามารถชนะการเลือกตั้งที่แท้จริงได้ หรือไม่ฝ่ายค้านก็จะถูกกำจัด และไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมเลือกตั้ง

การเลือกตั้งในกัมพูชาไร้ความหมาย หมายความว่า ฮุน เซน ไม่มีความชอบธรรม และระบอบ ฮุน เซน ก็ไร้ความชอบธรรม ไม่ว่าเมื่อครั้งเป็นนายกฯ หรือสมัยของ ฮุน มาเนต

สม รังสี ย้ำว่า ฮุน มาเนต เป็นเพียงหุ่นเชิด ไม่มีบารมี บุคลิกภาพ ความสามารถใด ๆ เลย ดังนั้น ในความจริง เขาเพียงทำตามที่พ่อผู้มีอำนาจสั่งให้ทำเท่านั้น

นโยบายรักจีนพึ่งสหรัฐฯ ย้อนกลับมาทำร้าย

สม รังสี บอกว่า ฮุน เซน คงรู้แล้วว่า นโยบายของเขา โดยเฉพาะนโยบายต่างประเทศ ใช้ไม่ได้ผล เนื่องจากมีความย้อนแย้งครั้งใหญ่ ด้านหนึ่ง ฮุน เซน โอบกอดจีนไว้ สนับสนุนจีนหัวปักหัวปำ และหวังว่าจีนจะช่วยสนับสนุนเขาและระบอบการปกครองของเขา

แต่ในอีกทางหนึ่ง เศรษฐกิจและนโยบายการทูตจำเป็นต้องพึ่งพาชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งในขณะที่สนับสนุนจีน และมองว่าสหรัฐฯ เป็นศัตรู แต่สหรัฐฯ คือตลาดส่งออกใหญ่สุดของกัมพูชา

หากไม่มีตลาดสหรัฐฯ อุตสาหกรรมของกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้า จะพังทลายตามไปด้วย และเศรษฐกิจทั้งประเทศจะพังตามไปด้วย

“เราเห็นเร็ว ๆ นี้ว่า ฮุน เซน ต้องพึ่งพาการเข้ามาไกล่เกลี่ยของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจาก โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อให้เกิดการหยุดยิงกับไทย เพราะหากไม่หยุดยิง ผมคิดว่าระบอบ ฮุน เซน ต้องล่มสลายแน่ ๆ” สม รังสี กล่าว

และบอกว่า ด้านหนึ่งเขาสนับสนุนจีนไม่ลืมหูลืมตา อีกด้านต้องพึ่งพาสหรัฐฯ อย่างยิ่งยวด ดังนั้น ความย้อนแย้งดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลเขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก

ต้องทำให้เกิดการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม

สม รังสี บอกว่า ชะตากรรมของกัมพูชาหรือระบอบการเมืองใด ๆ ในพนมเปญ ต้องได้รับ ไม่ใช่ถึงกับสนับสนุน แต่อย่างน้อยต้องการการวางตัวเป็นกลางจากจีน เวียดนาม สหรัฐฯ และไทย

เพราะกัมพูชาเป็นประเทศเล็ก ๆ เปราะบาง และไม่แข็งแรง ดังนั้น ในแง่การเมืองระหว่างประเทศ กัมพูชาต้องการความเข้าใจทั้งจากเพื่อนบ้านและชาติมหาอำนาจ

“คุณได้เห็นในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพปารีส ว่าด้วยกัมพูชา 2534 ผมเชื่อว่าสันติภาพดังกล่าวยังมีความสำคัญอยู่ เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของความร่วมมือ และความเข้าใจนานาชาติ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลในพนมเปญที่จะเป็นที่ยอมรับของทั้งมหาอำนาจในภูมิภาคและมหาอำนาจโลก” อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชากล่าว

เขาเสริมว่า “มีกลไกที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยโดยตามเจตนารมณ์และเนื้อหาของข้อตกลงสันติภาพปารีสว่าด้วยกัมพูชา 2534 ดังนั้น ผมคิดว่า เราควรใช้กลไกเหล่านั้น ซึ่งได้ถูกระบุไว้ในข้อตกลงเหล่านั้น”

สม รังสี บอกว่า กัมพูชาควรเรียกร้องให้สหประชาชาติและประธานร่วมของการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยกัมพูชา ณ กรุงปารีส จัดการประชุมนานาชาติใหม่ ให้ทุกฝ่าทยี่เกี่ยวข้อง ทั้งโดยตรงโดยอ้อม ได้มาเจอกัน และนำข้อตกลงสันติภาพปารีสว่าด้วยกัมพูชาไปใช้ให้ได้ผลอย่างเต็มที่และจริงจัง

“ผมคิดว่านี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริง และยั่งยืน ในภูมิภาคนี้” สม รังสี กล่าว

ไม่ใช่ปัญหาชายแดน แต่เป็นปัญหาเรื่องเงินทุน?

สม รังสี มองว่า ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ประเด็นเท่านั้น ประเด็นแท้จริงคือ เรื่องการเงิน เพราะ ฮุน เซน ไม่สามารถสนับสนุนการปราบปรามมาเฟียจีนของไทยที่เคลื่อนไหวอยู่แถวชายแดนไทย-กัมพูชาได้ อันที่จริงเขาต่อต้านเสียด้วยซ้ำ

การอยู่รอดของรัฐบาล ฮุน เซน ขึ้นอยู่กับรายได้ที่มาเฟียจีนจัดหาให้แก่พรรคและครอบครัว ฮุน เซน

ดังนั้น ฮุน เซน จึงตอบโต้ทางการไทยหรือรัฐบาลใด ๆ ในไทยที่ต้องการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมพวกนี้

จริง ๆ แล้ว รัฐบาล ฮุน เซน มีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับองค์กรอาชญากรรม หากต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรรมก็เท่ากับต่อสู้กับ ฮุน เซน ทางอ้อม และ ฮุน เซน ก็ตอบโต้เช่นเดียวกับที่เขาทำกับไทย

สม รังสี ยังมั่นใจว่า ฝ่ายกัมพูชาจะไม่หยุดยิงแน่นอน เพราะเขาต้องปกป้องพวกแก๊งอาชญากรรมที่อยู่ตามแนวชายแดน และเขาต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาในประเทศที่เขาแก้ไม่ได้ มาเป็นเรื่องความขัดแย้งกับไทยที่ชายแดน

ระบอบ ฮุน เซน ต้องล่มสลายในท้ายที่สุด

“ดังนั้น เราต้องทำลายวงจรเลวร้ายนี้ให้ได้ เราต้องบีบบังคับให้ ฮุน เซน ยอมรับการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งจะจัดได้ต่อเมื่ออยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากนานาชาติ ดังที่ได้บัญญัติไว้ในข้อตกลงสันติภาพปารีสว่าด้วยกัมพูชา 2534” สม รังสี กล่าว

เขาบอกว่า ต้นเหตุที่แท้จริงความความตึงเครียดไทยกัมพูชา ไม่ใช่เรื่องชายแดน แต่เป็นเรื่องการเงินที่เกี่ยวพันกับการอยู่รอดของรัฐบาล ฮุน เซน เขาต้องการปกปิดสาเหตุที่แท้จริงของความตึงเครียดกับไทย แต่เราต้องทำให้คนที่ยังมองไม่เห็นได้เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้ เพราะการแก้ไขปัญหานี้ ต้องเข้าใจก่อนว่า ปัญหาจริงคืออะไร และมิธีแก้คือจัดการกับกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติที่คอยหนุนหลัง ฮุน เซน

เรื่องอื่นที่ ฮุน เซน พยายามทำให้ความขัดแย้งชายแดนแย่ลง ก็เป็นแค่เรื่องหลอก ๆ เท่านั้น ดังนั้นย้ำว่า วิธีจะแก้ปญำหเรื่องนี้จริง ๆ ได้คือ

หนึ่ง ต้องจัดการอาชญากรรมข้ามชาติจริงจัง

สอง วิธีทำให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงยั่งยืนคือ การนำข้อตกลงสันติภาพปารีสว่าด้วยกัมพูชา 2534 ลงนามโดยประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชาทั้งหมด รวมถึงไทย และโดยสมาชิกถาวร 5 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กลับมาใช้และทำให้มีผลอีกครั้ง

สม รังสี ฝากทิ้งท้ายว่า “อย่าเพิ่งสิ้นหวัง รัฐบาล ฮุน เซน จะต้องถึงจุดสิ้นสุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โลกกำลังเปลี่ยนไป การอยู่รอดทางการเมืองของ ฮุน เซน มีความเกี่ยวพันกับองค์กรอาชญากรรม ซึ่งคนทั้งโลกจะร่วมกันจัดการกับกลุ่มคนพวกนี้ และการทำเช่นนั้นจะทำให้รัฐบาล ฮุน เซน อ่อนแอลงเรื่อย ๆ และรัฐบาลของเขาก็ล้าสมัยลงไปทุกที”

เขาบอกอีกว่า “ความขัดแย้งของเขาระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างที่ผมบอกไป ผมคิดว่าความขัดแย้งนี้มันไปต่อไม่ได้หรอก ดังนั้น รัฐบาล ฮุน เซน จะพังลงมา เพราะความขัดแย้งภายในของเขาเองนั่นแหละ”

ดังนั้น สม รังสี บอกว่า จงเชื่อมั่นในประเทศของคุณ จงเชื่อมั่นในความยุติธรรม และจงเชื่อมั่นในประชาธิปไตย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัมพูชาอ้าง ไม่ได้ใช้ประชาชนพื้นที่บ้านหนองจานเป็นโล่ แต่เป็นเหยื่อ

กัมพูชาร้องสถาบันสิทธิมนุษยชนสวีเดน เรียกร้องทบทวนขาย “กริพเพน” ให้ไทย

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “สม รังสี” ชี้หนทาง “ระบอบ ฮุน เซน” ล่มสลาย ลั่นอย่าเพิ่งหมดหวัง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

- Website : https://www.pptvhd36.com