“จตุพร” เปิด“ไทล็อก – โลจิสติกส์ 2025 คาดทำเงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานไทล็อก – โลจิสติกส์ และร่วมเป็นสักขีพยานในการประกาศความร่วมมือระหว่างสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย และ Japan Customs Brokers Association (JCBA) รวมถึงพิธีมอบรางวัล Best Container Line Awards 2025 ของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) ว่า โลจิสติกส์เป็นหัวใจสำคัญของการค้าขาย และเป็นตัวแปรหลักที่กำหนดต้นทุนและความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการ เป็นต้นทุนที่สำคัญจะกำไรหรือไม่กำไรอยู่ที่การขนส่ง
ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ของประเทศคู่ค้า เช่น มาตรการภาษี (tariff) ของสหรัฐอเมริกา และมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป ซึ่งล้วนส่งผลโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อระบบโลจิสติกส์งานไทล็อก – โลจิสติกส์ ถือเป็นเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการจะได้มองหาพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในทุกมิติ ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ
“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพสูง อยู่ในอันดับที่ 34 ของโลกจากทั้งหมด 139 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน อีกทั้งยังมีความได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาค ถือเป็นจุดแข็งในการเป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ของอาเซียน” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนท่ามกลางบริบทการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยจะผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างระบบสนับสนุนที่อำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า งานจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Resilient Supply Chain: Overcoming Global Challenges พิชิตทุกสิ่งท้าทายด้วยความแกร่งแห่งซัพพลายเชน” เพื่อตอบโจทย์ความผันผวนและความท้าทายทั้งจากในและต่างประเทศ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องบริหารจัดการคลังสินค้า การขนส่ง และซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน รับมือปัญหาขาดแคลนแรงงาน และตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างทันการณ์ โดยมี 3 พลังขับเคลื่อนสำคัญ คือ
-เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI และ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ
-โซลูชันด้านความยั่งยืน รองรับมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม
-การรวมตัวของผู้เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเสริมความแข็งแกร่งของซัพพลายเชน
ภายในงานมีการจัดแสดงเทคโนโลยีกว่า 415 แบรนด์ จาก 25 ประเทศ ตั้งแต่ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าสำหรับโรงงานอัจฉริยะ อุปกรณ์เคลื่อนย้ายสินค้าไร้คนขับ รถโฟล์กลิฟต์ไฟฟ้า อุปกรณ์ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ แพลตฟอร์มบริหารการขนส่ง ไปจนถึงบริการโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งในและต่างประเทศโดยผู้ให้บริการชั้นนำ (LSP) รวมถึง Innovation Showcase ไฮไลต์พิเศษที่นำเสนอรถบรรทุก EV ขนาด 13.5 ตันจาก CP FOTON และการสาธิตสายการบรรจุสินค้าอัตโนมัติครบวงจรจาก TKK ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการใช้พลังงาน รองรับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของตลาดโลก
ด้านนางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ กล่าวว่า นอกจากนวัตกรรมดิจิทัลและโซลูชั่นด้านความยั่งยืนแล้ว ยังมีนิทรรศการภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย ที่แสดงภาพรวมของธุรกิจโลจิสติกส์ไทย พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มปี 2569 - 2570 และแสดงรายชื่อผู้ได้รับรางวัล ELMA (Excellent Logistics Management Award) ตั้งแต่ปี 2550 – 2564
อีกทั้งยังมีเวทีสัมมนาสำคัญ อาทิ Trade Logistics Symposium ภายใต้หัวข้อ “LogiResilience 2025: The Trade & Transport Reset” โดยผู้บริหารจาก Maersk Line (Thailand), GLEIF และ TIFFA และสัมมนา World Transport & Logistics Forum ร่วมกับ World Bank Group ในหัวข้อ “ดัชนีโลจิสติกส์ในยุคเศรษฐกิจโลกผันผวน” พร้อมหัวข้อสัมมนาอีกมากมายจากหน่วยงานชั้นนำ เพื่อมอบองค์ความรู้และแรงบันดาลใจแก่ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการโลจิสติกส์ได้นำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรต่อไป ทั้งนี้งาน ไทล็อก - โลจิสติกส์ 2025 จะมีไปจนถึงวันที่ 22 ส.ค.ม 2568 นี้ ณ ฮอลล์ 98 ไบเทค