โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี ภายใต้นโยบายภาษีทรัมป์

VoiceTV

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • กองบรรณาธิการวอยซ์ออนไลน์

“เศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี ภายใต้สถานการณ์นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา (สหรัฐฯ) และผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าของไทย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับผลการประมาณการเศรษฐกิจครั้งก่อนที่ร้อยละ 2.1 (ณ เมษายน 2568) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง”

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี ภายใต้สถานการณ์นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ และผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าของไทย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับผลการประมาณการเศรษฐกิจครั้งก่อนที่ร้อยละ 2.1 (ณ เมษายน 2568) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” โดยคาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 0.7 ถึง 1.7) จากปีก่อนหน้าที่หดตัวที่ร้อยละ -0.4 ต่อปี จากการฟื้นตัวของการผลิตยานยนต์และการผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 5.0 ถึง 6.0) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ร้อยละ 2.3 เนื่องจากการเร่งนำเข้าของประเทศคู่ค้าที่สูงกว่าคาดในครึ่งแรกของปี 2568 อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าของไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 อาจจะมีทิศทางที่ชะลอตัวลงจากผลกระทบของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าประเทศไทยจะได้รับข้อตกลงการผ่อนปรนภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ด้านมูลค่าการนำเข้าสินค้าคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 4.5 ถึง 5.5) โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อนำมาผลิตเพื่อส่งออก

การบริโภคภาคเอกชนเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.1 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.6 ถึง 3.6) ตามกำลังซื้อในประเทศสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บในประเทศที่ขยายตัวได้ดี โดยเติบโตติดต่อกัน 9 ไตรมาส สำหรับการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.5 ถึง 3.5) ปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่ร้อยละ 0.4 โดยการลงทุนมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังได้รับแรงสนับสนุนจากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท จาก 1,880 โครงการในครึ่งแรกของปี 2568 ด้านการบริโภคภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.7 ถึง 1.7) และการลงทุนภาครัฐขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.4 ถึง 4.4) จากการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท (แผนการขับเคลื่อนฯ) ที่มีส่วนช่วยในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยให้เอื้อต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติจัดสรรวงเงินแล้ว 115,375 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (ด้านน้ำและด้านคมนาคม) ด้านการท่องเที่ยว ด้านการลดผลกระทบภาคการส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ และเศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ เป็นต้น

ด้านเสถียรภาพภายในประเทศอยู่ในระดับมั่นคง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 0.4 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -0.1 ถึง 0.9) ขณะที่เสถียรภาพภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2568 มีแนวโน้มเกินดุล 14.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.9 ของ GDP จากดุลการค้าที่เกินดุล

โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ดีในครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ที่เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญความท้าทายจากแรงกดดันจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยกระทรวงการคลังได้เตรียมตัวรับมือและบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านการดำเนินแผนการขับเคลื่อนฯ ในการลดผลกระทบต่อภาคการส่งออก และมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างทันท่วงทีและตรงจุด ครอบคลุมการจัดเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระทางการเงินของผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs ของห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปยังสหรัฐฯ

สำหรับประเด็นผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ประเมินว่าผลกระทบมีจำกัดอยู่ในพื้นที่ชายแดนและความเสียหายด้านทรัพย์สินและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ทางการทหาร ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีพิพาทชายแดน ประกอบด้วย

1) การขยายวงเงินทดรองราชการให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ จังหวัดละ 100 ล้านบาทและพร้อมพิจารณาขยายเพิ่มหากไม่เพียงพอเพื่อให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว

2) การเลื่อนกำหนดเวลาชำระภาษี

3) การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องและพักชำระหนี้ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ โดยกระทรวงการคลังมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการเตรียมความพร้อมที่จะออกมาตรการเพิ่มเติมอย่างเหมาะสมได้ทันท่วงทีต่อไป

ในระยะต่อจากนี้ไป ควรติดตามปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด ได้แก่

1) นโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ และผลกระทบทางอ้อมจากการไหลเข้าของสินค้าจากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายด้านภาษีที่ย้ายตลาดเข้าสู่ไทยมากขึ้น

2) ทิศทางของการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ

3) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทั้งในและนอกประเทศ

4) ระดับหนี้ครัวเรือนของภาคประชาชน

5) การย้ายฐานการลงทุนและการผลิตในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ”

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก VoiceTV

คำแถลงของโฆษก ศบ.ทก. (ด้านความมั่นคง) เมื่อ 30 ก.ค.2568 หลังหยุดยิง กัมพูชาคุกคามไทย 4 เหตุการณ์

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สธ.เผย สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย จากเหตุฆ่าตัว โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บันทึกเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 30 กรกฎาคม 2568

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัพบกต้อนรับผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เข้าหารือแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

กรมบัญชีกลางเตือนภัยมิจฉาชีพ แอบอ้างหลอกผู้รับบำนาญผ่านไลน์ อย่ากดลิงก์-อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว

สยามรัฐ

แรงงานเร่งช่วยลูกจ้างชายแดนไทย-กัมพูชา จ่ายสิทธิประโยชน์เต็มสิทธิ บาดเจ็บ-เสียชีวิตได้รับเยียวยาเร็วที่สุด

สยามรัฐ

ทีมไทยแลนด์เร่งเคลียร์ก่อนถึงเส้นตาย ลุ้นภาษีทรัมป์เท่าภูมิภาค

Thairath Money

กรมธนารักษ์ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุสูงสุด 2 ปี

สยามรัฐ

หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 31 กรกฎาคม 2568 ปิดลบ 171.71 จุด ถ้อยแถลงพาวเวลดีบฝัน

TNN ช่อง16

ศูนย์สาธิตการผลิตพลังงานทดแทนจากชีวมวลและขยะ

เดลินิวส์

“แบงก์กรุงเทพ-ซีไอเอ็มบี ไทย”ช่วยลูกค้า ผู้ประสบภัยน้ำท่วม-ปะทะชายแดนเขมร

Thairath Money

ลุ้นลดค่าไฟงวดปลายปี ลดค่าครองชีพชาวบ้าน

Thairath Money

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...