โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ศึกกัมพูชาทุบซ้ำท่องเที่ยว ต่างชาติแห่ยกเลิก-ป่วนถึงเชียงใหม่

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศึกไทย-กัมพูชา กระทบหนักภาคท่องเที่ยว รมว.ท่องเที่ยวฯเผยเร่งทำหนังสือถึงทูตทั่วโลก ยืนยันจุดปะทะไม่เกี่ยวแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ หลังพบตัวเลขต่างชาติยกเลิกมาไทยแล้ว 8 พันคน ด้านนายกโรงแรมระบุจันทบุรียกเลิกจองโรงแรมราว 20% เพราะหลายประเทศออกประกาศเตือนพลเมืองของตัวเอง จี้รัฐเร่งทำความเข้าใจนานาชาติ เชียงใหม่ได้รับเอฟเฟ็กต์ไปด้วยกรุ๊ปทัวร์-สัมมนาเริ่มไม่มา เพราะกังวลความปลอดภัย แม้ไม่ได้อยู่ใกล้จุดปะทะก็ตาม ขณะที่สถานการณ์แรงงานกลุ่มต่างๆ ไม่กระทบมากเพราะมีชาวเมียนมา ทดแทนได้ แต่โรงงานหมู-ไก่ยังหาคนทำงานได้ยาก

นักท่องเที่ยวยกเลิก 8 พันคน

ความคืบหน้าผลกระทบจากความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายจังหวัดทั้งอีสานและตะวันออก นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตัวเลขล่าสุดมีนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางแล้ว 8 พันราย แต่ไม่ยกเลิกไฟลต์บิน ซึ่งยังไม่ดูรายละเอียดในเรื่องสัญชาติว่ามีชาติอะไรยกเลิกบ้าง แต่ขณะนี้เราได้ทำหนังสือไปยังสถานทูตประเทศต่าง ๆ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในต่างประเทศ ให้ทำหนังสือชี้แจงแล้ว ว่าจุดที่ปะทะไม่ใช่เป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เรื่องประกันภัยการท่องเที่ยว แต่ละประเทศจะมีการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวของตัวเองว่าจะไม่ครอบคลุม ทำให้ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

ร่อนหนังสือถึงทูตทั่วโลก

เมื่อถามว่า ยอดนักท่องเที่ยวที่ยกเลิกจะขยายวงกว้างมากกว่า 8 พันหรือไม่ รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าวว่า คงไม่เป็นแบบนั้น ซึ่งเราพยายามทำความเข้าใจ และมั่นใจว่า ททท. และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ทำหนังสือไปยังทูตประเทศต่าง ๆ แล้ว

เมื่อถามว่ายอดนักท่องเที่ยวปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ก็พยายามทำ เรายังมีกิจกรรมที่สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ และคงตั้งเป้าไว้เหมือนเดิม โดยพยายามจะให้ตามเป้า ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวขณะนี้ยังต่ำกว่าปี’67 อยู่ประมาณ 4% แต่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

ยอดจองโรงแรมวูบแล้ว 20%

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเริ่มส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว โดยบางประเทศออกประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองเกี่ยวกับการเดินทางมายังประเทศไทยแล้ว ส่งผลให้โรงแรมในหลายพื้นที่เริ่มยกเลิกห้องพัก

โดยเฉพาะแถบภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ซึ่งใกล้ชายแดน ที่พบอัตราการยกเลิกที่ประมาณ 20% ส่วนในจังหวัดอื่น ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะข่าวจากต่างประเทศเริ่มกระจายและนักท่องเที่ยวเริ่มแสดงความกังวล

“แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ชายแดน และยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งท่องเที่ยวหลักของไทย เช่น กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ แต่ความกังวลของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่คุ้นเคยกับประเทศไทยหรือยังไม่เคยเดินทางมาอาจทำให้เกิดการชะลอการตัดสินใจ หรือยกเลิกแผนเดินทางในระยะสั้น” นายเทียนประสิทธิ์กล่าว

ย้ำปัญหาความไม่ปลอดภัย

นายเทียนประสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดการยกเลิกการจองห้องพัก คือ การที่บางประเทศเริ่มออกประกาศเตือนการเดินทาง (Travel Advisory) ไปยังพลเมืองของตน ซึ่งประกาศลักษณะนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงจิตวิทยา แต่ยังมีผลต่อการทำประกันภัยการเดินทาง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม

“ปัญหาความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น เหตุลักพาตัวในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ในพื้นที่บางจุดของภูมิภาคอาเซียนก็ยังไม่ถูกสื่อสารอย่างชัดเจน บวกกับปัญหาใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นยิ่งส่งผลให้ความไม่มั่นใจต่อการเดินทางในภูมิภาคนี้ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในตลาดนักท่องเที่ยวจีนก็ยังมีความระแวงเรื่องความปลอดภัย”

เร่งสำรวจติดตามผลกระทบ

นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสมาคมอยู่ระหว่างการจัดทำแบบสำรวจ (Survey) เพื่อติดตามผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโรงแรมทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะได้ผลสรุปเบื้องต้นในช่วงกลางสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนรับมือและฟื้นฟูความเชื่อมั่นโดยเร่งด่วน

“เราไม่มีอำนาจโดยตรงในการควบคุมสถานการณ์ แต่เสียงของผู้ประกอบการก็สะท้อนความห่วงใย และอยากเห็นรัฐบาลเข้าไปจัดการปัญหานี้โดยเร็ว หากเจรจาและหาข้อยุติได้โดยสันติ ย่อมเป็นผลดีทั้งในมิติความมั่นคงและเศรษฐกิจ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ด้วย

ยันแอร์ไลน์ยังไม่ยกเลิกเที่ยวบิน

ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยากับนักท่องเที่ยวในบางประเทศ เช่น ยุโรป (EU) ที่ได้ออกประกาศเตือนพลเมืองตัวเองให้จับตาดูสถานการณ์ หรือญี่ปุ่น ที่ยกระดับเตือนนักท่องเที่ยวของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท แต่ยังไม่ถึงขั้นยกเลิกเที่ยวบินและยกเลิกการจองห้องพักแต่อย่างใด มีเพียงสายการบินไทยที่มีการปรับเปลี่ยนเที่ยวบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-พนมเปญเท่านั้น

สั่งให้ฝ่ายแผนซึ่งเป็นหน่วยที่มีหน้าที่วางแผนและพัฒนายุทธศาสตร์การท่องเที่ยวติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

“ยืนยันว่านักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยตามปกติ เนื่องจากพื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ในวงจำกัด และไกลกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของประเทศ ขณะที่รัฐบาลก็ยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว” นางสาวฐาปนีย์กล่าวและว่า ภาพรวม ณ วันนี้ยังไม่ส่งกระทบที่ชัดเจนกับบรรยากาศการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ สะท้อนจากตัวเลขที่เดินทางเข้าไทยยังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีจำนวนรวมเฉลี่ยเกิน 10,000 คนต่อวัน

เชียงใหม่ต่างชาติยกเลิกทัวร์

นางสาววารุณี คำเมรุ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หากการสู้รบระหว่างไทยและกัมพูชายังคงยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่พื้นที่ชายแดนที่เกิดสงครามอย่างแน่นอน โดยตั้งแต่เริ่มต้นการปะทะกันระหว่างกัมพูชาและไทย จังหวัดเชียงใหม่เริ่มยกเลิกการจองห้องพักและโปรแกรมทัวร์ของกรุ๊ปทัวร์จากต่างประเทศบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปที่จะเดินทางมาในระยะสั้น ๆ ช่วงโลว์ซีซั่น เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันการเดินทางท่องเที่ยวไม่ครอบคลุมประเทศที่เกิดสงคราม

ขณะเดียวกันจากการสอบถามผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวหลายรายก็ระบุว่า ตลาดกลุ่ม Agent Series ซึ่งเป็นตลาดที่จองการท่องเที่ยวล่วงหน้าระยะ 5-6 เดือน โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่น และตลาดกลุ่มประชุมสัมมนาจากต่างประเทศที่จะมาในช่วงไฮซีซั่นเช่นกัน ล่าสุดบริษัททัวร์เริ่มส่งข่าวมาว่าอาจขอยกเลิกการจองทัวร์ระยะยาวในช่วงไฮซีซั่น โดยขอรอดูสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาก่อนว่าจะยืดเยื้อและสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่

ช่วงไฮซีซั่นยอดจองยังแผ่ว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มองว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่จะมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือ ประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่มจะค่อนข้างอ่อนไหวเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป แม้ว่าพื้นที่การสู้รบจะไม่ได้อยู่ใกล้กับจังหวัดเชียงใหม่ก็ตาม

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ปกติเมื่อถึงช่วงเดือน 6-7 จะมองออกว่าในอีก 5-6 เดือนข้างหน้าคือไฮซีซั่น ตัวเลขการบุ๊กกิ้งห้องพักล่วงหน้าจะปรากฏ ซึ่งบริษัททัวร์จะเริ่มส่ง Series กรุ๊ปทัวร์และกรุ๊ปประชุมสัมมนาต่าง ๆ เข้ามา เฉลี่ยจะอยู่ที่ 50% ขึ้นไป แต่ตอนนี้ Series กรุ๊ปทัวร์และกรุ๊ปประชุมสัมมนาล่วงหน้าอยู่ที่ราว 30-35% เท่านั้น ส่วนช่วงลอยกระทง ภาพรวมขณะนี้มียอดบุ๊กกิ้งราว 75% ซึ่งเริ่มมีสัญญาณส่งข่าวมาว่าอาจจะมีการยกเลิก เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์

แรงงานกลับเขมรไม่กระทบ

ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานองค์การนายจ้างผู้ประกอบการการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเคลื่อนย้ายแรงงานกัมพูชากลับประเทศ ในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราดในขณะนี้ มองว่ายังไม่มีนัยสำคัญว่าแรงงานต่างชาติในประเทศจะขาดแคลน เพราะหากดูตัวเลขแล้ว แรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยที่ถูกกฎหมายมีอยู่ประมาณ 5 แสนราย หรือคิดเป็น 18% ของแรงงานต่างชาติในประเทศไทย และมีแรงงานไม่ถูกกฎหมายอยู่ประมาณ 2-3 แสนราย

“แรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ส่วนใหญ่ทำงานในกลุ่มภาคเกษตร ภาคประมง ก่อสร้าง อยู่ในภาคอุตสาหกรรมไม่เยอะ และจากการประเมินกลุ่มแรงงานที่กลับประเทศ อาจจะเป็นกลุ่มแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมายหรือไม่ เพราะกังวลถึงสถานการณ์ภายในประเทศไทย มองว่าเป็นเพียงระยะสั้นในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติในตอนนี้ แต่ถ้าหากดูข้อมูลแรงงานถูกกฎหมายส่วนใหญ่ที่ติดตาม ยังไม่ได้รับการรายงานว่าจะกลับประเทศ”

มีชาวเมียนมาทำทดแทนได้

จากการสังเกตที่แรงงานกัมพูชากลับประเทศในพื้นที่จังหวัดตราดและจันทบุรี น่าจะอยู่ในกลุ่มแรงงานภาคประมงและภาคเกษตร เนื่องจากว่าช่วงนี้เป็น Low Season ของฤดูกาลผลิต และการทำประมง ซึ่งผลผลิตโดยเฉพาะผลไม้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากแล้ว และจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติอาจตัดสินใจกลับบ้าน และส่วนหนึ่งก็เป็นกลุ่มแรงงานที่มาทำการค้าขายในไทยด้วย

ในภาพรวมของแรงงานกัมพูชาที่กลับประเทศยังมองว่าไม่มีผลกระทบ เพราะแรงงานต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยมากที่สุด คือ แรงงานจากเมียนมา ประมาณ 2.9 ล้านคน ซึ่งสามารถเข้ามาทดแทนได้ แต่ต้องยอมรับในส่วนหนึ่งว่าแรงงานเมียนมาเองก็เลือกงานที่จะทำด้วยเช่นกัน รองลงมาเป็นแรงงานที่มาจากกัมพูชา และจาก สปป.ลาว ประมาณ 3 แสนราย แต่หากดูถึงปัญหาแรงงานที่จะอาจจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คงเป็นปัจจัยที่มาจากกรณีทรัมป์ 2.0 มากกว่า

เผยตัวเลขแรงงานต่างด้าว

ข้อมูลจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางานระบุว่า สถานการณ์แรงงานต่างด้าว ณ เดือนมิถุนายน 2568 คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานทั่วราชอาณาจักร มีจำนวนทั้งสิ้น 4,064,810 คน เป็นแรงงานกัมพูชาในไทย 484,175 คน

แบ่งเป็นแรงงานที่ได้รับอนุญาตทํางานแบบไป-กลับ หรือตามฤดูกาล 33,055 คน แรงงานที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทํางานตาม MOU 182,963 คน แรงงานที่ได้รับอนุญาตทํางานตามมติ ครม. 24 ก.ย. 67 (จดทะเบียนสถานะไม่ถูกกฎหมาย) 108,160 คน แรงงานตามมติ ครม. 24 ก.ย. 67 และมติ ครม. 4 ก.พ. 68 (ต่ออายุ) 159,997 คน

แรงงานก่อสร้างเก็บตัวในแคมป์

นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารระดับท็อป 5 กล่าวว่า ปัจจุบันพรีบิลท์รับเหมาสร้างคอนโดฯ 11 ไซต์ก่อสร้าง รวมทั้งมีพอร์ตธุรกิจบ้านจัดสรร มีแรงงานก่อสร้างรวม 4,000-5,000 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานไทยไม่ถึง 10% ที่เหลือเป็นแรงงานต่างด้าว โดยจำนวน 100% ของแรงงานต่างด้าว แบ่งเป็น แรงงานเมียนมา 80% แรงงานกัมพูชา 20%

เบื้องต้นแรงงานกัมพูชาสมัครใจอยู่ทำงานต่อ จึงยังไม่ได้รับผลกระทบจากชายแดน ประกอบกับมองว่ารัฐบาลไทยกับกัมพูชาน่าจะหาแนวทางยุติปัญหาได้เร็ว ไม่ทำให้ยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม กรณี Worst Case ที่แรงงานกัมพูชา 20% กลับบ้านทั้งหมด ก็ยังสามารถมีแรงงานเมียนมาทดแทนได้

สวนผลไม้ตะวันออกกระทบ

นายชลธี นุ่มหนู อดีตผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 และเจ้าของสวนทุเรียนใน อ.เขาสมิง จ.ตราด กล่าวว่า แรงงานกัมพูชาหลายหมื่นคนที่ทยอยอพยพกลับกัมพูชา ทำให้เกิดวิกฤตแรงงานภาคเกษตรอย่างฉับพลัน แบบที่นายจ้างชาวไทยไม่ทันได้ตั้งตัว

เช่น แรงงานเก็บเกี่ยวลำไยในจังหวัดจันทบุรี ที่ อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว และที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ที่มีพื้นที่ปลูกลำไยเป็นจำนวนมากถึง 97% ของพื้นที่ภาคตะวันออก และคาดว่าจะมีผลผลิตกว่า 400,000 ตัน จำนวนแรงงานที่ต้องใช้ประมาณ 25,000 คน ซึ่งลำไยนอกฤดูจะเก็บเกี่ยวผลได้ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2568-เมษายน 2569 ถ้าสวนไม่มีแรงงานเก็บต้องทิ้งสวนไป

เจ้าของสวนที่ใช้แรงงานกัมพูชาแทบต้องหยุดกิจกรรมในสวนไปเลย โดยที่ภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญ ทุเรียน ลำไย เงาะ มังคุด ผลผลิตภาคตะวันออกในฤดูกาลหน้ามูลค่าหลายแสนล้านบาทมีผลกระทบแน่นอน

โรงงานไก่-หมูขาดแรงงาน

แหล่งข่าวจากวงการปศุสัตว์เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้โรงเชือดสุกร และบริษัทผู้ผลิตและแปรรูป เพื่อส่งออกไก่รายใหญ่หลายจังหวัดต่างได้รับผลกระทบจากแรงงานกัมพูชาขอลาออกรวมนับหมื่นคน เพื่อเดินทางกลับบ้านหลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะตึงเครียดขึ้น แม้ผู้บริหารโรงงานจะพยายามดึงไว้ เพราะไม่มีแรงงานทำแทน แต่หลายคนหวั่นเกรงถึงความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะโรงงานที่อยู่แถบภาคอีสาน และภาคตะวันออก

“ปัญหาเกิดขึ้นกะทันหัน หลายบริษัทโดนเหมือนกันหมด แรงงานกัมพูชาส่วนใหญ่จะอยู่ตั้งแต่แผนกลานจับไก่ขึ้นแขวน ซึ่งหาแรงงานไทยทำไม่ได้ รวมถึงงานตัดแต่งไก่ที่ใช้แรงงานคนไม่สามารถใช้เครื่องจักรได้ ตอนนี้หลายโรงงานแก้ปัญหาด้วยการให้พนักงานทำงานล่วงเวลา (OT) ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ในอนาคตหลายโรงงานต้องเตรียมลงทุนใช้เครื่องจักรเข้ามาทำแทนมากขึ้น ในส่วนโรงเชือดหมูมีข่าวว่า มีอยู่ 1 แห่งแรงงานกัมพูชาลาออกนับพันคน” แหล่งข่าวกล่าว

หออีสานเสนอดึงแรงงานลาว

นายสมชาติ พงคพนาไกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มมีการปิดด่านบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนทำให้แรงงานกัมพูชาบางส่วนทยอยกลับประเทศ เบื้องต้นยังไม่กระทบต่อภาคธุรกิจ แต่กลุ่มสมาชิก YEC ภาคอีสาน มีข้อเสนอว่าให้บริษัทไทยสามารถหาแรงงานลาวมาทดแทนแรงงานกัมพูชา โดยเฉพาะภาคการก่อสร้าง

โดยมีการทดลองงานก่อนขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) จากนั้นค่อยจ้างงานในระยะยาว ทั้งนี้เป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากความสามารถในการทำงานของชาวกัมพูชาและลาวมีความแตกต่างกัน

สหรัฐบีบไทยนำเข้า 0% ทุกสินค้า

แหล่งข่าวจากภาคเอกชนเปิดเผยถึงรายละเอียดการประชุมร่วมกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการเจรจาต่อรองอัตราภาษีตอบโต้การค้าของสหรัฐอเมริกา ว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมให้กับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ และแนวทางการเปิดให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ในอัตราภาษี 0% เพิ่มเติม ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากภาคเอกชนไม่เห็นด้วยกับการเปิดให้นำเข้าสินค้าสหรัฐ ในอัตราภาษี 0% ทุกรายการ ซึ่งหากประเทศไทยจะต้องยอมตามข้อเสนอของสหรัฐก็ควรต้องมีกรอบเวลา เช่น ขอให้ทยอยเปิดนำเข้า 0% ภายในระยะเวลา 5-10 ปี เป็นต้น และควรจะต้องมีโควตาการนำเข้า เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้า โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเกษตรและปศุสัตว์ของไทยมีเวลาในการปรับตัว ลดต้นทุน และสามารถแข่งขันได้ ไม่ประสบปัญหาจนล้มหายตายจาก ส่วนมาตรการเยียวยานั้นจะต้องมีครบทุกมิติ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศึกกัมพูชาทุบซ้ำท่องเที่ยว ต่างชาติแห่ยกเลิก-ป่วนถึงเชียงใหม่

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

ค่ายรถ 19 บริษัท ตบเท้าร่วม’อุตสาหกรรมแฟร์ 2568’ กระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หวยออกงวด 1 ส.ค. สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ม.กรุงเทพ’ ปั้น นศ.-ศิลปิน ขับเคลื่อนอุตฯครีเอทีฟไทย

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รถไฟฟ้า 20 บาท ทุกสี ทุกสาย ต้องมีบัตรแบบไหน ถึงใช้สิทธิได้ ?

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

อาณาจักรคริปโต ‘ทรัมป์’ โตทะลุ 1.2 พันล้านดอลลาร์ TMTG ผงาดผู้ถือบิทคอยน์ใหญ่สุดอันดับ 6 โลก

Manager Online

พาณิชย์ ดึง 16 ประเทศ ซื้อมันฯกว่าหมื่นล้านบาท ดันไทยเป็นฮับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังโลก

MATICHON ONLINE

ออมสิน พักหนี้ 3 เดือน ลูกหนี้ชายแดนไทย-กัมพูชา เงินต้น-ดอกเบี้ย ไม่ต้องจ่าย

MATICHON ONLINE

กลยุทธ์ ‘Strategy’ เดินเกมใหญ่ เท 2.5 พันล้านเหรียญซื้อบิทคอยน์ดันคลังครอง 62% ของตลาด

Manager Online

บิทคอยน์อาจทะลุ 1.4 แสนดอลลาร์! ถ้าฝ่าแนวต้าน $125,000 สำเร็จ

Manager Online

่ายรถ ตบเท้าเข้าร่วม"อุตสาหกรรมแฟร์ 2568“ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

Khaosod

เปิด 5 จุดแข็งของไทยในการสร้าง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ฐานเศรษฐกิจ

Plan B จัดให้! ธงไตรรงค์โบกสะบัดกลางไทม์สแควร์ กับ #TruthFromThailand

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

ศึกกัมพูชาทุบซ้ำท่องเที่ยว ต่างชาติแห่ยกเลิก-ป่วนถึงเชียงใหม่

ประชาชาติธุรกิจ

‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ สะดุดไฟสะอาด รัฐไร้นโยบาย-ตปท.ซบเวียดนาม

ประชาชาติธุรกิจ

สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 ส.ค. ย้อนหลัง 10 ปี

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...