โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เอกชนเฮ! สหรัฐลดภาษีนำเข้าไทยเหลือ 19% มั่นใจแข่งขันได้

Manager Online

เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ส.อ.ท. เฮ! ไทยเจรจาลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯลดเหลือ 19%จากเดิม36% ถือเป็นอัตราที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีบางประเทศที่ถูกจัดเก็บภาษีสูงกว่า เช่น เวียดนาม 20% ส.อ.ท.พร้อมทำงานร่วมกับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แม้การขึ้นภาษีนำเข้าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน แต่การที่ไทยสามารถเจรจาลดอัตราจัดเก็บภาษีReciprocal Tariff จาก 36% เหลือ 19% ได้สำเร็จ สะท้อนถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเสียงสะท้อนจากภาคเอกชนไทยที่ได้ส่งข้อมูลผลกระทบให้รัฐบาลได้รับทราบอย่างรอบด้าน และการทำงานเชิงรุกของทีมไทยแลนด์ในการเจรจาทางการค้า ส่งผลให้ไทยสามารถรักษาผลประโยชน์ทางการค้า ซึ่งนับเป็นข่าวดีท่ามกลางความท้าทาย และเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะได้ใช้ช่วงเวลานี้ในการปรับตัว ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้ยั่งยืน

ซึ่งไทยถูกจัดเก็บอัตราภาษีระดับเดียวกับ มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชาและฟิลิปปินส์ ถือเป็นอัตราที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยประเทศที่ถูกจัดเก็บภาษีสูงกว่า เช่น เมียนมาและลาว 40% บรูไน 25% เวียดนาม 20% ส่วนสิงคโปร์อยู่ในกลุ่มอัตราต่ำสุดที่ 10%

อัตราภาษีนี้ถือว่าเป็นระดับที่ยอมรับได้ ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบจนเกินไป โดยรวมสินค้าไทยยังแข่งขันได้ดี แต่สินค้ากลุ่มที่มี margin ต่ำไม่ถึง 10% จำเป็นต้องลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และร่วมเจรจากับคู่ค้า เพื่อไม่ให้เป็นการผลักภาระไปยังผู้บริโภค ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการจะต้องทำการบ้านกันต่อ สำหรับสินค้ากลุ่มที่มี margin สูงอยู่แล้วอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

“ผมขอแสดงความยินดีกับประเทศไทย และขอชื่นชมทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมงานจากกระทรวงพาณิชย์ที่ทำงานกันอย่างหนัก รวมถึงภาคเอกชนที่ได้ร่วมกันให้ข้อมูล ซึ่งถือว่าการเจรจาครั้งนี้ประสบความสำเร็จ” นายเกรียงไกร กล่าว

จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พบว่ายอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในครึ่งแรกของปี 2568 เติบโตต่อเนื่องแม้ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก มูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท จากกว่า 1,880 โครงการ นักลงทุนไทยและต่างชาติยังคงเดินหน้าขยายการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ สะท้อนศักยภาพของไทยที่ยังคงเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่แข็งแกร่งในภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยังคงเป็นในทิศทางเชิงบวกและขยายตัวเช่นนี้ คาดว่าครึ่งปีหลังจะยังคงไปในทิศทางที่ดีอยู่ ทั้งนี้จะมีการหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ต่อไป

นายเกรียงไกร กล่าวว่า แม้จะมีอัตราภาษีใหม่ แต่สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อาหารแปรรูป สินค้าเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ อัญมณี เหล็กและอะลูมิเนียม ดังนั้น ส.อ.ท. จะเดินหน้าทำงานเชิงรุกต่อเนื่อง โดยมุ่งดำเนินการใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่

1. จับมือภาครัฐ ผลักดันมาตรการลดผลกระทบเชิงนโยบาย เช่น มาตรการอำนวยความสะดวกด้านภาษีภายในประเทศ การสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงเงินทุนหมุนเวียนในช่วงที่ต้นทุนการส่งออกเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการผลักดันการเจรจาการค้าเพิ่มเติมเพื่อรักษาและขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีในตลาดอื่น ๆ

2. ยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยี ช่วยผู้ประกอบการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และต่อยอดไปสู่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

3. ขยายตลาดและเครือข่ายการค้าใหม่ ผ่านการสร้างพันธมิตรทางการค้าในตลาดใหม่ ๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ

“ส.อ.ท. จะติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด พร้อมทำงานร่วมกับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย และมั่นใจได้ว่าภาคอุตสาหกรรมไทยจะยังคงยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในตลาดโลก” นายเกรียงไกร กล่าว

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

เทศกาลชาใจกลางเมือง "Taste of Tea 2025" เสิร์ฟชาหอมจากไร่สู่แก้ว ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เอาจริง! PDPA ปรับแล้ว 1.2 ล้านบาท เหตุถุงขนมโตเกียวรียูสจากเวชระเบียนผู้ป่วย

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"จี๋-เมย์" ยากพัฒนา ความยันสัมพันธ์แค่หุ้นส่วน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ช่วยฟังหน่อย “จ๊ะ” พูดอะไรถึง “ฮุนเซ็น” หน้า...(ชมคลิป)

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ฮิวแมนิก้า’ ผนึกกำลัง พาณิชยศาสตร์และการบัญชี มธ. เสริมศักยภาพบุคลากรการแพทย์ไทย

MATICHON ONLINE

เอ็มเค บุฟเฟ่ต์ ดึงลูกค้าเก่ากลับมาพุ่ง 370%

Manager Online

กรมส่งเสริมการค้าฯ จับมือ 3 แพลตฟอร์มพันธมิตรโครงการร้าน TOPTHAI บุกอีสาน

เดลินิวส์

Indy Arp Café แฟรนไชส์กาแฟอินดี้ ให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโดยไม่ต้องลองผิดลองถูก

SMART SME

Broker ranking 1 Aug 2025

Manager Online

หอการค้าฯถกร่วมพาณิชย์ ชง 4 ข้อเสนอรับมือผลกระทบภาษีสหรัฐ

The Better

ทรัมป์เรียกร้องให้คณะกรรมการเฟด ถอดถอนพาวเวลล์จากตำแหน่งประธาน

JS100

SET เดือน ส.ค. ลุ้น 1,300 จุด รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ครั้งแรกในประเทศไทย! เปิดตัว OH!SOME จุดหมายสุดฮอตแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร

Manager Online

TOA คว้าอันดับ 1 แบรนด์ที่ทำผลงานบนโซเชียลมีเดียสูงสุด โดย Thailand Social Awards

Manager Online

น้ำใจคนไทยไม่มีหมด แนะเลือกวัตถุดิบอาหารที่มีคุณภาพดีส่งมอบอาหารปลอดภัย แก่ผู้ประสบภัย

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...