โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

จีดีพีไทยปี 68 ขยับขึ้นโต 1.5% หลังปิดดีลภาษีทรัมป์เหลือ 19%

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้มีการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 68 โดยคาดว่า ส่งออกจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตดีขึ้นเล็กน้อยที่ 1.5% จากเดิม 1.4% ท่ามกลางการท่องเที่ยวโตต่ำกว่าคาด อัตราภาษี Reciprocal tariff ที่ดีขึ้น และแข่งขันได้

โดยได้ปรับมุมมองการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 68 ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคาดว่าจะหดตัวลดลงมาอยู่ที่ -7.4% YoY และการส่งออกไทยทั้งปี 68 ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.4% เพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้าที่ 1.5%

ทั้งนี้ การส่งออกไทยในครึ่งปีหลังที่ยังหดตัว เป็นผลจากการเร่งสูงออกสูงในช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวถึง 15.0% YoY ประกอบกับมีปัจจัยฐานการส่งออกทองคำที่สูงในครึ่งหลังของปี 67

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยกดดันที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยคาดว่าในปี 2568 จะลดลงจากประมาณการเดิมมาอยู่ที่ประมาณ 32.2 ล้านคน ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงไม่กลับมา รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และการเบิกจ่ายงบประมาณที่อาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

วันที่ 1 ส.ค. 68 สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ใหม่ต่อไทย ในอัตราที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 36% มาอยู่ที่ 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ดีกว่าเดิม และแข่งขันได้กับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย กัมพูชา อีกทั้งอัตราภาษีดังกล่าวยังต่ำกว่าอัตราภาษีที่อินเดียได้รับที่ 25% ซึ่งอัตราภาษีฯ ที่ไม่แตกต่างกัน

จีดีพีไทยปี 68 ขยับขึ้นโต 1.5% หลังปิดดีลภาษีทรัมป์เหลือ 19%

ทั้งนี้ ส่งผลให้ในภาพรวมสินค้าส่งออกไทยยังคงความสามารถทางการแข่งขันได้ ขณะที่ภาพการค้าโลกก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากความไม่แน่นอนทางการค้าที่ลดลงรวมถึงหลายประเทศได้รับอัตราภาษีฯ ที่ลดลงกว่าที่ประกาศไว้ในเดือนเม.ย. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนมุมมองต่อการส่งออกไทยอีกทางหนึ่ง

สำหรับอัตราภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ (Transshipment) ที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บในอัตรา 40% โดยคาดว่าจะส่งผลให้การนำเข้าสินค้าเพื่อ Re-export ไปยังตลาดสหรัฐฯ ผ่านไทย ซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศต่ำนั้นมีแนวโน้มชะลอลง โดยขึ้นอยู่กับการบังคับใช้มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local content) อย่างจริงจัง ที่อาจช่วยลดแรงกดดันต่อภาคการผลิตไทย

นอกจากนี้ ภาษีนำเข้าฯ ของไทยเทียบกับภูมิภาคที่ไม่แตกต่างกัน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การไหลเข้ามาของสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อบริโภคในประเทศ คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ภาคการผลิตในปีนี้คาดว่าจะยังหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ไทยต้องยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯประมาณ 90% ของสินค้าทั้งหมด รวมถึงลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีลงนั้น มองว่า การเปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาจไม่ทำให้สินค้าสหรัฐฯ ไหลบ่าเข้ามาในไทยมากอย่างที่กังวล เนื่องจาก

จีดีพีไทยปี 68 ขยับขึ้นโต 1.5% หลังปิดดีลภาษีทรัมป์เหลือ 19%
  • สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีอัตราภาษี MFN เป็น 0% อยู่แต่เดิม
  • สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไทยไม่สามารถผลิตได้ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ เช่น เครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์บางรายการที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง อีกทั้งขึ้นอยู่กับความสามารถทางการแข่งขันด้านต้นทุนของสินค้าสหรัฐฯ ในแต่ละอุตสาหกรรม
  • สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ หลายรายการอาจมีต้นทุนสูงกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ หรือสินค้านำเข้าจากตลาดอื่นโดยเฉพาะตลาดที่ไทยมี FTA อยู่แต่เดิม

หากไทยต้องเพิ่มโควตานำเข้าสินค้าพลังงานและเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น สินค้าเกษตรอย่างถั่วเหลือง ข้าวโพด รวมถึงเนื้อสัตว์ คาดว่าจะกระทบเกษตรกรรายย่อย และในบางกรณีจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มขึ้น และอาจจะส่งผ่านมายังเงินเฟ้อในระยะถัดไป

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุอีกว่า ยังต้องติดตามความชัดเจนของการเปิดตลาดสินค้าเกษตรในรายละเอียด รวมถึงมาตรการเยียวยาจากภาครัฐ และยังต้องติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มเติม หลังจากนี้ โดยเฉพาะผลกระทบจากรายการสินค้าภายใต้ Section 232 ที่คาดว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และไม้แปรรูป เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามประเด็นทางกฎหมายเรื่องอำนาจการบังคับใช้ภาษี Reciprocal tariff ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังอยู่ในขั้นตอนไต่สวนอยู่ ขณะที่ไทยอยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) และแคนาดา ซึ่งอาจช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดอื่นนอกจากสหรัฐฯ มากขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

เทียบชัดๆ สถิติการโจมตีทางไซเบอร์ แฮกเกอร์“ไทย VS กัมพูชา”

33 นาทีที่แล้ว

Tim Cook นั่งเก้าอี้ซีอีโอ Apple แซง Steve Jobs อย่างเป็นทางการ

41 นาทีที่แล้ว

ถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง 5083 ไร่ ปิดฉากมหากาพย์ข้อพิพาทกรมที่ดิน-รฟท.

46 นาทีที่แล้ว

ไทยโดนภาษีสหรัฐฯ 19% นักวิชาการชี้ดีใจได้ แต่ยังมีข้อกังวลเพียบ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

สร้อยฟ้า จุฑาเทพมาเอง ไวรัล หญิงชาวศรีสะเกษ พูดดัตช์ ลื่นไหล แจง ทูตทหารเนเธอร์แลนด์

สยามนิวส์

ราชกิจจาฯ ประกาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแบบ ใบสั่งจราจร 2568 มี 3แบบ เริ่มใช้ 4ส.ค.นี้

สยามนิวส์
วิดีโอ

มาแล้ว! ม็อบรวมพลังแผ่นดิน ปักหลักอนุสาวรีย์ฯ

THE ROOM 44 CHANNEL

เช็กเส้นทางด่วน! 2 ส.ค. เส้นทางที่ควรเลี่ยงหลังมีนัดรวมตัวที่ 'อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ'

THE ROOM 44 CHANNEL

นี่แหละทหารไทย! ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ช่วยกันทำเปลแบกหามเพื่อนที่บาดเจ็บลงเขา

สยามนิวส์

ไทยโดนภาษีสหรัฐฯ 19% นักวิชาการชี้ดีใจได้ แต่ยังมีข้อกังวลเพียบ

ฐานเศรษฐกิจ

พม.เร่งทำเอกสารผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ 4 จว.ชายแดน พบจำนวนมากต้องการความช่วยเหลือ

Thai PBS

เลเซอร์พร้อมยิง! ทอ.ไทยโชว์ศักยภาพ DEW ถล่มโดรนกลางดึก ประกาศเตือนแผ่นดินไทยไม่ใช่สนามทดลอง

THE ROOM 44 CHANNEL

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...