โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

'อนุสรณ์' ชี้โอนเงินช่วยคนจนดีกว่าบิดเบือนราคาจากการอุดหนุน

Khaosod

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'อนุสรณ์' ชี้โอนเงินช่วยคนจนดีกว่าบิดเบือนราคาจากการอุดหนุน ภาษีเชิงลบ NIT ตรงกลุ่มเป้าหมาย ลดสวัสดิการซ้ำซ้อน สอดคล้องยุค AI คลังเสี่ยง ไม่สามารถรับภาระสวัสดิการเพิ่มจากสังคมสูงวัย

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา รายจ่ายด้านสวัสดิการสังคมของไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและบางครั้งการจัดสวัสดิการก็ไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ สัดส่วนประชากรที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโควิด และมีการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนคนจนและถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการที่ได้รับสิทธิทั้งหมด 14.55 ล้านคน หากย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2555 สัดส่วนประชากรที่มีรายได้อยู่ใต้เส้นความยากจนอยู่ที่ 8.4 ล้านคนเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ. 2545 อยู่ที่ 19.9 ล้านคน โครงการและมาตรการทางด้านสวัสดิการ เบี้ยยังชีพ มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพบางครั้งเกิดปัญหาทั้ง Inclusion Error คือผู้ไม่สมควรได้รับสวัสดิการกลับได้รับประโยชน์ และ Exclusion Error คือ ผู้ที่ควรได้รับสวัสดิการกลับไม่ได้รับ เช่น กลุ่มแรงงานนอกระบบซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและมีรายได้ไม่แน่นอน ความยากจนนั้นมีหลายมิติ ไม่สามารถใช้มาตรวัดเป็นตัวเงิน (Monetary Approach) เพียงอย่างเดียว ต้องวัดเป็นแบบดัชนีความยากจนหลายมิติ (Multidimentional Proverty Index) ซึ่งมีเรื่อง สุขภาพอนามัย การศึกษา ที่อยู่อาศัย ด้วย การลดความยากจนหลายมิตินั้นไม่สามารถอาศัยเพียงเงินโอนช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานทางด้านสวัสดิการ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายทางด้านสาธารณสุข การศึกษาและการพัฒนาที่อยู่อาศัย การจะแก้ปัญหาได้ต้องอาศัยวิสัยทัศน์และแผนระยะยาว ในหลายประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับรายได้ของผู้ที่มีรายได้น้อยที่สุดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และ มีสัดส่วนเกือบเป็น 1 ต่อ 1 แต่ไม่ใช่กรณีของประเทศไทยที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างสูง

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวต่อว่า ปัญหาระบบข้อมูลและฐานะการคลังอาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินมาตรการภาษีเชิงลบ หากจำนวนคนจนหรือผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ไม่ลดลงจากระดับปัจจุบันหรือเพิ่มขึ้นในอนาคต รัฐบาลอาจต้องใช้เงินงบประมาณระดับหมื่นล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินโอนช่วยเหลือให้กับประชากรยากจน ซึ่งอาจทำให้มีงบประมาณน้อยลงในการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างรายได้ภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างภาษีให้มีแหล่งรายได้ภาษีจากฐานทรัพย์สินเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ต้องทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยเติบโตเต็มศักยภาพและต้องเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจให้สูงขึ้นผ่านการลงทุน

ข้อจำกัดด้านฐานข้อมูลและระบบข้อมูล ทำให้รัฐบาลไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ผู้ใดที่เป็นคนจนบ้าง แม้นจะมีความพยายามในพัฒนาฐานข้อมูลด้วยการจดทะเบียนคนจนก็ตาม การให้แบบถ้วนหน้าสามารถทำได้เมื่อประเทศมีฐานะทางการคลังที่พร้อมหรือค่าใช้จ่ายในการบริหารมาตรการแบบเฉพาะเจาะจงสูงเกินไป ขณะเดียวกัน การให้สวัสดิการแบบถ้วนหน้าโดยขาดการตรวจสอบรายได้ของผู้รับประโยชน์ ทำให้รัฐบาลมีภาระทางงบประมาณสูงมากและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากโครงสร้างสังคมสูงวัย แนวทางที่มีประสิทธิภาพมากกว่า คือ การโอนเงินแบบมุ่งเป้าไปที่คนจน (Targeting for the Poor) ผ่านระบบภาษีเชิงลบ หรือ Negative Income Tax (NIT) จะมีการโอนเงินไปยังผู้ยื่นแบบภาษีที่มีเงินได้ต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำที่กำหนดเอาไว้ การโอนเงินโดยตรงเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยดีว่ามาตรการอุดหนุนราคาเพื่อให้ราคาต่ำลงกว่าราคาตลาด เช่น อุดหนุนราคาพลังงาน อุดหนุนราคาบ้าน หรือ แทรกแซงราคาให้ราคาสูง เช่น รับจำนำราคาสินค้าเกษตร เป็นต้น การดำเนินการพวกนี้จะไปบิดเบือนราคาและกลไกตลาด ทำให้ประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจลดลงในระยะยาว มาตรการเหล่านี้สามารถใช้ได้ในช่วงสั้นเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเท่านั้น เมื่อเรามีระบบฐานข้อมูลจากการพัฒนาระบบฐานภาษีเชิงลบ ต่อไป หากต้องการช่วยเหลือคนจน มาตรการอุดหนุนราคาก็มีความจำเป็นน้อยลง สามารถใช้ฐานข้อมูลกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์แล้วโอนเงินช่วยเหลือโดยตรงได้เลย เช่น โอนเงินช่วยค่าพลังงาน โอนเงินช่วยค่าที่อยู่อาศัย โอนเงินช่วยค่าเดินทาง เป็นต้น Negative Income Tax จึงเป็นการประสานระบบภาษีเข้ากับระบบสวัสดิการ โดยไม่ไปบิดเบือนกลไกราคา ทำให้ระบบตลาดทำงานได้มีประสิทธิภาพดีกว่า

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวต่อว่า ระบบ Negative Income Tax นี้สามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่ระบบการประกันรายได้ขั้นต่ำ (Guarantee Minimum Income System) ซึ่งจะรองรับความท้าทายของเศรษฐกิจและการจ้างงานยุคดิจิทัลและเอไอได้ แรงงานมนุษย์จำนวนไม่น้อยถูกแทนที่โดยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและเอไอ คนจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถปรับตัวได้ในยุคเอไอก็อาจว่างงานได้ แต่แรงงานเหล่านี้ต้องมีรายได้ขั้นต่ำในการดำรงชีพ และ สามารถนำเงินช่วยเหลือส่วนนี้ไปพัฒนาทักษะใหม่ๆจำเป็นในยุคเอไอ

การโอนเงินมีสองแบบ คือ การโอนเงินช่วยเหลือคนจนแบบไม่มีเงื่อนไข (Unconditional Cash Transfer) เป็นการให้เสรีภาพอย่างเต็มที่ในการใช้เงินโอนไปตามสิ่งที่ตัวเองและครอบครัวจำเป็นและต้องการต่อการดำรงชีพ หรือ อาจใช้รูปแบบการโอนเงินช่วยเหลือแบบมีเงื่อนไข (Conditional Cash Transfer) จะมีการกำหนดเงื่อนไขบางประการเพื่อให้ผู้รับเงินโอนปฏิบัติตาม เช่น กำหนดให้เด็กๆในครอบครัวต้องเข้าโรงเรียน ฉีดวัคซีนป้องกันโรค ลดละเลิกอบายมุข หรือ แม้นกระทั่งให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือ มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม รูปแบบการโอนเงินช่วยเหลือแบบมีเงื่อนไข หน่วยราชการจำเป็นต้องมีภาระในการตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลว่าเป็นไปตามเงื่อนไขหรือไม่ หากจะมีการนำ NIT มาใช้แทนสวัสดิการแนวประชานิยมทั้งหมดอาจเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากในทางการเมือง แม้นว่า NIT จะช่วยทำให้การใช้งบประมาณเพื่อสวัสดิการสังคมมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นกลไกในการนำเอากิจกรรมและรายได้นอกระบบเข้ามาสู่ระบบภาษีอีกด้วย ในระยะยาวแล้ว มาตรการ NIT สามารถพัฒนาให้เชื่อมโยงกับระบบประกันสังคมได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แรงงานอิสระ แรงงานนอกระบบ มาตรา 40 โดยรัฐบาลจะโอนเงินส่วนหนึ่งเข้าสมทบในกองทุนประกันสังคม

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 'อนุสรณ์' ชี้โอนเงินช่วยคนจนดีกว่าบิดเบือนราคาจากการอุดหนุน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Khaosod

เผยอาการ 2 คนเจ็บ "ครู-ศิษย์ต่างชาติ" เครื่องตกบนถนนหลังทำการฝึกบิน เร่งหาสาเหตุ

25 นาทีที่แล้ว

น้ำฝน คว้าเพอร์เฟ็กต์แชมป์ เจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย สนามกว๊านพะเยา

44 นาทีที่แล้ว

ชีวิตนักมวย จอมโหด แพ้น็อกคืนวันเสาร์เย็บ 10 เข็ม เช้าวันอาทิตย์เพิ่งรู้บ้านไฟไหม้

46 นาทีที่แล้ว

บีซ จุฑาธิป คนที่ 3 ไทย จบหลักสูตรโค้ชระดับสูง พร้อมถ่ายทอดความรู้ให้รุ่นน้อง

47 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

คนไทยแห่ซื้อทอง รวมพุ่งกว่า 11 ตัน มากที่สุดในอาเซียน | คุยกับบัญชา | 8 ส.ค. 68

BTimes

“เลโก้เพื่อการศึกษา”-นวัตกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อความยั่งยืน

เดลินิวส์

BIZ: Microsoft X Crocs รองเท้ารุ่น Window XP เมื่อภาพถ่าย Bliss กลายมาเป็นลายรองเท้า ฉลอง 50 ปี Microsoft

BrandThink

“ร่างระบบบัญชีเศรษฐกิจสวล.”เครื่องมือใหม่จัดการป่าไม้

เดลินิวส์

"ขุมทรัพย์ธุรกิจสีเทาตระกูล 'ฮุน'! 'ฮุน โต' เขย่ากัมพูชา...เมื่ออำนาจเศรษฐกิจใต้ดินถูกแฉ!

Manager Online

บริษัทปลูกข้าวของเวียดนาม ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารในคิวบา

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

'อนุสรณ์' ชี้โอนเงินช่วยคนจนดีกว่าบิดเบือนราคาจากการอุดหนุน

Khaosod

กดสิวปุ๊บ! สาวเจ็บหนักเข้าโรงพยาบาล ชี้จุดอันตราย ‘สามเหลี่ยมมรณะ’ ห้ามบีบ

Khaosod

วัดพระบาทน้ำพุ ติดป้ายหน้าตึกรักษาเก่า “ห้ามสื่อเข้า” เจ้าคณะตำบล เผยบัญชีวัดไม่พบผิดปกติ

Khaosod
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...