โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

เพื่อไทยในมรสุม : ปัญหาภายใน ศึกกัมพูชา ฟื้นคะแนนความนิยมที่ลดลง

PostToday

อัพเดต 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สถานการณ์การเมืองไทย ณ ขณะนี้เหมือนละครฉากใหญ่ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและเรื่องราวพลิกผัน ในมุมหนึ่ง พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลกำลังเผชิญกับคลื่นลมมรสุมลูกใหญ่ ทั้งภายในและภายนอกพรรค ในอีกมุมหนึ่ง รัฐบาลก็พยายามอย่างสุดกำลังที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ เพื่อเรียกคะแนนนิยมที่เริ่มลดลงกลับคืนมา

มรสุมที่พรรคเพื่อไทยเผชิญ

พรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ทำให้การบริหารประเทศต้องสะดุด ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือเรื่องความขัดแย้งภายในพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสองตระกูลใหญ่ที่เป็นแกนนำ ซึ่งยิ่งสร้างความไม่มั่นคงให้กับการเมืองในสายตาประชาชน นอกจากนี้ คะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีก็ลดลงอย่างน่าใจหาย จากที่เคยสูงถึง 44% ในช่วงแรกของการเข้ารับตำแหน่ง ก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดมีข่าวลือหนาหูว่านายกรัฐมนตรีอาจจะลาออกเพื่อหลีกเลี่ยงคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในคดีคุณสมบัติ แต่ข่าวนี้ก็ถูกปฏิเสธอย่างหนักแน่นจากเลขานุการนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าการลาออกจะทำให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องกลายเป็นรัฐบาลรักษาการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลในภาพรวม

กลยุทธ์ของรัฐบาลในการสร้างความสำเร็จ

แม้จะเผชิญกับปัญหาภายใน รัฐบาลก็พยายามอย่างแข็งขันที่จะแสดงให้เห็นถึงผลงานและความสามารถในการบริหารประเทศ โดยใช้กลยุทธ์ "สร้างภาพลักษณ์ที่ดี" เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน มีการนำเสนอความสำเร็จในสองประเด็นหลักคือ:

  • ประเด็นภาษี Trump: รัฐบาลอ้างว่าสามารถเจรจาแก้ไขปัญหาภาษี 19% ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  • ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา: การประชุม GBC (General Border Committee) ถูกนำเสนอว่าเป็นความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาชายแดน และมีการวางแผนที่จะประชุมอีกครั้งเพื่อจัดการกับปัญหาที่ค้างคา เช่น ทุ่นระเบิดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์

การนำเสนอความสำเร็จเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำว่ารัฐบาลยังคงมีประสบการณ์และความสามารถในการจัดการกับวิกฤติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรื่องราวภายในพรรคไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศ

ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง

อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงคือ ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง ฝ่ายผู้ถือครองที่ดินที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ได้ออกมาโต้แย้งว่าคำตัดสินของศาลมีผลเฉพาะกับคู่ความในคดีเท่านั้น และยืนยันว่าโฉนดที่ดินที่พวกเขามีนั้นเป็นหลักฐานการครอบครองที่ถูกต้องตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการด้านกฎหมายอย่าง ดร. ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม ได้ให้ความเห็นโต้แย้งว่า คำตัดสินของศาลสามารถมีผลผูกพันกับบุคคลที่สามได้ และข้อโต้แย้งของผู้ถือครองที่ดินมีข้อบกพร่องทางกฎหมาย เขาแนะนำว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ควรจะยื่นฟ้องขับไล่ผู้ถือครองที่ดินอย่างเด็ดขาดเพื่อยุติข้อพิพาทนี้

สถานการณ์การเมืองในขณะนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าติดตาม ทั้งความพยายามของรัฐบาลที่จะกอบกู้สถานการณ์และข้อพิพาททางกฎหมายที่ยังคงคาราคาซังอยู่ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศในปัจจุบัน

ที่มาประกอบเนื้อหา เนชั่นอินไซต์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

ดอกเบี้ยทั่วโลกส่อวูบ! หุ้นไทยไซด์เวย์ 1,250 - 1,280 จุดเน้นย่อสะสม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Centara Villas Phi Phi : อัญมณีแห่งอันดามันกับการพลิกโฉมใหม่

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

สำรวจหลุมหลบภัยกลาง ‘เอเชียทีค’ ร่องรอยอดีต-เศษซากจากสงครามโลกครั้งที่ 2

The Momentum

‘บิ๊กป้อม’เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ อวยพรวันเกิด รับห่วงบ้านเมือง

เดลินิวส์

จบ GBC ยังอึมครึม! "อดีตบิ๊กข่าวกรอง" จี้ กัมพูชาเมิน 3 ข้อเสนอไทย

สยามรัฐ

เบิร์ธเดย์ วัย 80 ปี ! "บิ๊กป้อม" ฉลองวันเกิด สุดสดใส

The Better

สถานทูตสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ หลังไทย-กัมพูชา ยุติข้อตกลงหยุดยิง

สยามนิวส์

แท้งแล้ว! คำร้องถอด 136สว.ขั้วน้ำเงิน หลังลายมือชื่อไม่ครบเกณฑ์

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม