Centara Villas Phi Phi : อัญมณีแห่งอันดามันกับการพลิกโฉมใหม่
บนเกาะพีพีที่สวยงามราวกับภาพฝันในทะเลอันดามัน มีรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่กำลังกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก นั่นคือ Centara Villas Phi Phi ที่ได้พลิกโฉมจากที่พักที่เรียบง่ายสู่รีสอร์ตที่ผสานความสงบและความงามของธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ที่นี่คือสวรรค์สำหรับนักเดินทางที่มองหาช่วงเวลาอันแสนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการแหวกว่ายในสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ทอดยาวสู่ท้องทะเลสีคราม การดำน้ำจากดาดฟ้าของรีสอร์ตเพื่อสำรวจโลกใต้น้ำ หรือการปรนนิบัติผ่อนคลายร่างกายและจิตใจที่ “เซ็นส์ บาย สปาเซ็นวารี” นอกจากนี้ รีสอร์ตยังมีห้องอาหารและบาร์ที่พร้อมบริการ รวมถึงกิจกรรมที่ตอบโจทย์ความสุขของทุกคนในครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อน ทำให้ทุกวันหยุดที่นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำอย่างแท้จริง
เส้นทางความฝันจากนักดำน้ำสู่เจ้าของรีสอร์ต
เบื้องหลังการกลับมาของ Centara Villas Phi Phi คือเรื่องราวความผูกพันกับท้องทะเลของ "เอธัส มนต์เสรีนุสรณ์" เจ้าของรีสอร์ตและนักธุรกิจผู้มากประสบการณ์ ที่เริ่มต้นจากการเป็นนักดำน้ำผู้หลงใหลในโลกใต้น้ำ จนกระทั่งตัดสินใจร่วมกับคุณอุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร เปิดโรงเรียนสอนดำน้ำที่กระบี่ และขยายมายังเกาะพีพี
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2546 เมื่อเขาบังเอิญได้ยินนายหน้าคุยเรื่องการซื้อที่ดินบนเกาะแห่งนี้ จึงตัดสินใจเข้าเจรจาและเป็นเจ้าของที่ดินในเวลาอันรวดเร็ว แต่โชคชะตากลับเล่นตลกเมื่อเกิดเหตุการณ์สึนามิในปี 2547 ทำให้โครงการต้องหยุดชะงักไปถึง 2 ปี
หลังจากวิกฤตผ่านพ้นไป ในปี 2551 เอธัสและทีมงานก็ได้กลับมาสานต่อความฝันด้วยตัวเอง และพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ตัดสินใจจับมือกับ Centara แบรนด์โรงแรมสัญชาติไทยที่แข็งแกร่ง และมีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวมาอย่างยาวนาน
“เราไม่เคยคิดเลยว่าจะมาทำธุรกิจโรงแรมอย่างจริงจัง แต่เมื่อเราตัดสินใจทำแล้ว เราต้องไปให้สุดทาง” เอธัสกล่าวพร้อมรอยยิ้ม เขามองว่าธุรกิจการท่องเที่ยวคือปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ และประเทศไทยมีจุดแข็งสำคัญคือทะเลที่สวยงาม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
การพลิกโฉมครั้งใหญ่เพื่ออนาคต
ด้าน ประไพจิต ทองมา ผู้จัดการทั่วไปของ Centara Villas Phi Phi เล่าเสริมว่า การที่ Centara เข้ามาบริหารในปี 2565 ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญตามมาตรฐานของแบรนด์ มีการปรับปรุงวิลล่าเดิมทั้ง 41 ห้องให้ทันสมัย พร้อมวางแผนขยายห้องพักเพิ่มเป็น 79 ห้องในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีการลงทุนไปแล้วกว่า 200-300 ล้านบาทในเฟสแรก และมีแผนลงทุนเพิ่มเติมอีก 400-500 ล้านบาท เพื่อให้รีสอร์ตแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบที่สุดบนเกาะพีพี
แม้ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาจะเผชิญความท้าทาย แต่ตัวเลขการจองก็เริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งทาง Owner และทีมงานมั่นใจว่าหากทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ รีสอร์ตแห่งนี้จะสามารถทำได้ถึง 80% เนื่องจากเกาะพีพีเป็น World-Class Destination ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเยือนตลอดเวลา
Centara Villas Phi Phi กับเส้นทางที่สมบูรณ์แบบ
Centara Villas Phi Phi ไม่ได้เป็นเพียงรีสอร์ต แต่เป็นผลผลิตจากความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจของคุณเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ ที่ต้องการสร้างสรรค์ที่พักในฝันให้เป็นจริง โดยตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาพื้นที่ 60 ไร่ที่เหลือให้สมบูรณ์แบบภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันมีการพัฒนาไปแล้วประมาณ 25-30% หรือประมาณ 15-18 ไร่เท่านั้น ทำให้ยังมีพื้นที่เหลืออีกกว่า 40 ไร่ให้พัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต
เอธัสยืนยันว่าภายใน 2-3 ปีนี้ ทางโรงแรมมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายห้องพักให้ถึง 79 ยูนิต และมั่นใจว่าด้วยความร่วมมือกับ Centara จะสามารถทำให้รีสอร์ตแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเกาะพีพีได้อย่างแน่นอน
เมื่อพูดถึงเรื่องของรายได้ คุณประไพจิตกล่าวว่าในช่วงนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และทางโรงแรมจะเปิดขายห้องพักทั้งหมด 41 ห้อง โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปี 2568 จะสามารถทำรายได้ถึง 49 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนห้องที่สร้างเสร็จและเปิดให้บริการมากขึ้น
จากความฝันที่เริ่มต้นจากความรักในท้องทะเล สู่การเป็นเจ้าของรีสอร์ตระดับโลก Centara Villas Phi Phi คือบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค และเป็นเครื่องยืนยันว่าอัญมณีแห่งอันดามันเม็ดนี้กำลังจะเปล่งประกายเจิดจรัสยิ่งกว่าเดิม