“สีกากอล์ฟ” ปฏิเสธข้อหารีดทรัพย์-ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ อ้างแค่ยืมเงิน
กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – รอง ผบก.ป. ระบุ “สีกากอล์ฟ” ปฏิเสธข้อหารีดเอาทรัพย์-ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ อ้างแค่ยืมเงิน และขอความร่วมมือ ไม่ได้บังคับ เผยแผนประทุษกรรม หวังได้มาซึ่งเงินเลี้ยงดู ยังพบทำคนเดียว ไม่มีผู้ร่วมขบวนการ
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ “สีกากอล์ฟ” อายุ 35 ปี ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ระบุว่า ทางกองปราบฯ ได้แจ้งข้อหากับสีกากอล์ฟไป 2 ข้อหา คือข้อหารีดเอาทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ซึ่งสีกากอล์ฟให้การปฏิเสธ โดยประเด็นเรื่องเงินที่ตำรวจกล่าวหาว่า มีการขู่เอาเงินจากทิดแหล่ ถ้าไม่ให้เงินจะเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์แล้วจะทำให้ถูกปลด สีกากอล์ฟอ้างว่า ไม่ได้ขู่แบล็กเมล์เพื่อเอาเงินเป็นเพียงแค่ขอยืมไปจ่ายค่าเช่ารถ ส่วนข้อกล่าวหา เรื่องทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ที่ให้ทิดแหล่ เขียนร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์นั้น สีกากอล์ฟ อ้างว่า ไม่ได้บังคับให้เขียนร่างหนังสือแค่ขอให้ช่วยเฉย ๆ
ทั้งนี้ เรื่องของความสัมพันธ์ จากการสอบปากคำ สีกากอล์ฟให้การทั้งกับความสัมพันธ์ ผู้เสียหายคือ ทิดแหล่ และพระรูปอื่นๆ ด้วย
ส่วนข้อหาฉ้อโกง ที่กองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบอีก 1 คดี คือคดีของ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะหากแจ้งข้อกล่าวหาแล้วต้องผัดฟ้อง ก็จะทำให้เวลาทำงานน้อย ดังนั้นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ได้ 70-80% ก่อนแล้วจะมีการไปแจ้งข้อหาในภายหลัง เพื่อให้พยานหลักฐานเกิดความสมบูรณ์มากขึ้น
ทั้งนี้ ตลอดการสอบปากคำ สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และประเด็นประกอบต่าง ๆ
พ.ต.อ.เอนก ยังบอกถึงแผนประทุษกรรมของสีกากอล์ฟด้วยว่า จากการวิเคราะห์ พบว่าสีกากอล์ฟ ดำรงชีพอยู่ได้จากเงินของพระทั้งหมด และการไปติดต่อกับอดีตพระผู้ใหญ่ เพราะสีกากอล์ฟมีเจตนามุ่งที่จะสนใจในเรื่องทรัพย์สินของพระ โดยการมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง และสีกากอล์ฟอาจจะเคยเห็นเส้นเรื่องเดิมจากพระจังหวัดพิจิตรที่ดูแลสีกากอล์ฟเรื่องทรัพย์สินเงินทองได้ ดังนั้นจึงเห็นช่องทาง ทำให้สีกากอล์ฟไปติดต่อวัดดัง ๆ เพื่อต้องการเข้าหาเจ้าอาวาส เพราะจะได้มีเงินทองมาดูแลเขาได้ ซึ่งจะพฤติการณ์จะเห็นว่า สีกากอล์ฟ เช่าบ้านหรูเดือนละ 3-4 หมื่น และเวลาไปวัดก็จะเช่ารถหรูไป ดังนั้นเมื่อสีกากอล์ฟไปติดต่อพระต่างๆ ก็ไปแบบคนมีเงิน ดูภาพลักษณ์ดี
ส่วนทำคนเดียวหรือไม่นั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เท่าที่ดูจากพฤติการณ์ยังพบว่าทำคนเดียว ไม่มีคนร่วมขบวนการ และไม่มีคนร่วมรับผลประโยชน์ด้วย เพราะสีกากอล์ฟเห็นช่องทางของการได้มา และหากไปคบคนธรรมดาก็อาจจะยากที่จะได้เงืนแบบนี้ แต่พระผู้ใหญ่มีจุดอ่อนและมีเงิน เขาจึงมองมุมนี้และให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง โดยวิธีเข้าหา ก็มีทุกวิถีทางที่จะเข้าถึงตัวผู้ต้องหาได้ อย่างเคสของวัดโสธร ก็ต้องการจะหาทางเข้าถึงตัวเจ้าอาวาส ซึ่งถ้าเจ้าอาวาสจิตใจไม่นิ่งก็อาจจะเผลอได้
ส่วนกรณีของอดีตพระมหาบุญเลิศ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหม่ยายแป้น ยังไม่ได้มีการมาแจ้งความ หลังเข้ามาให้ปากคำกับ ปปป.ไปแล้วในเบื้องต้น.- 414-สำนักข่าวไทย