อินโดฯ ถูกทั้งหวยทรัมป์ & หวยอียู
ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.68 ที่ประเทศทั้งหลายที่โดนเรียกจัดเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ สูงกว่าระดับ 30% รวมทั้งประเทศไทยเรา ต่างรอคอยด้วยใจระทึกว่า โดนัลด์ ทรัมป์จะมีการปรับลดอัตราภาษีโหดลงมาให้หรือเปล่า
ก็ปรากฏว่า อินโดนีเซียซึ่งถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 32% ทั้ง 2 รอบที่ผ่านมา กลายเป็นผู้โชคดี ได้รับการผ่อนปรนอัตราภาษีจัดเก็บลงมาเหลือ 19% โดยจะต้องเปิดตลาดให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราภาษี 0%
คำแถลงทางการสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นการบรรลุข้อตกลงโดยตรงระหว่างประธานาธิบดีซูเบียนโต และประธานาธิบดีทรัมป์ที่ครอบคลุมสินค้าพลังงาน 15,000 ล้านเหรียญฯ สินค้าเกษตร 4,500 ล้านเหรียญฯ และเครื่องบินโบอิ้งจำนวน 50 ลำ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเครื่องโบอิ้งรุ่น 777
นอกจากอินโดนีเซีย จะมีข่าวดีที่ฝ่ากำแพงภาษีโหดสหรัฐฯ เข้ามาได้แล้ว ยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การบรรลุข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างอินโดนีเซียกับประชาคมยุโรป 27 ประเทศ
คาดว่า ข้อตกลงจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนของไทยเรายังอยู่ในแผนที่จะทำการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
บทเรียนจากเวียดนาม ซึ่งชิงออกตัวเร็วในการเจรจา FTA (Free Trade Agreement)หรือข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าเสรีกับอียูจนสำเร็จมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ. 2020หรือเมื่อ 5ปีที่แล้ว ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายสามารถเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว
เวียดนาม สามารถส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นเกือบ 50% และนำเข้าสินค้าจากอียูเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในปี ค.ศ. 2023มีมูลค่าการค้าระหว่างกันถึง 296,900ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนบาทในปัจจุบัน ก็คือ 9,649,250ล้านบาท
มูลค่าการค้าขายระหว่างกันตั้ง 9.6ล้านล้านบาทนี่มันน้อยซะเมื่อไหร่ ไม่ว่าประเทศใดเจอกำแพงภาษีโหดสหรัฐฯ ก็ยังมีตลาดอียูรองรับได้ และนี่คือกุญแจไขคำตอบว่าทำไมเวียดนามถึงมีอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงต่อเนื่องกันมากว่า 5ปีแล้ว
ทั้งอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนบ้านใกล้ชิดและคู่แข่งขันในภูมิภาค ถือว่าโชคดีมาก ที่มีทั้งระบบการเมืองที่มั่นคง และการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีและต่อเนื่อง ซึ่งต่างกันราวฟ้ากับดินในกรณีของไทย เช่นความคิดริเริ่มเจรจา FTAไทยก็ริเริ่มก่อนใคร แต่ตอนนี้ก็ถือว่าล้าหลังสุดกู่
กรณีความสำเร็จในการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ของอินโดฯ ก่อนเส้นตายจะมาถึงในวันที่ 1ส.ค. 68 ก็ถือว่าประตูเจรจายังไม่ปิดตาย โอกาสยังมี ซึ่งไทยก็ได้ยื่นข้อเสนอเจรจาล่าสุดไปแล้ว คือเสนอภาษีส่งออกไปสหรัฐฯ ในระดับใกล้เคียงกับเวียดนาม และเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 0%นับหมื่นรายการ
หวังว่าพระสยามเทวาธิราชจะช่วยปกป้องคุ้มภัยให้ประเทศไทยรอดพ้นภัยอีกครา