ก้าวล้ำโลก ! ครั้งแรกของไทย จุฬาฯ โชว์นวัตกรรม “ยารักษามะเร็ง” ใหม่ !
ก้าวล้ำโลก! ครั้งแรกของไทย “จุฬาฯ” โชว์ศักยภาพ นวัตกรรมยารักษามะเร็งใหม่ “อเมริกา” ขอเซ็นสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยี ในงาน CU Innovation & IP Expo 2025
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยในงาน CU Innovation & IP Expo 2025
ยาแอนติบอดีแบบใหม่ต่อ PD-1 สำหรับใช้ในการรักษาโรคมะเร็งแบบภูมิคุ้มกันบำบัด ผลงานวิจัยของ อ.นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย งานวิจัยในกลุ่ม Deep Tech ที่เป็นงานวิจัยแนวหน้าในระดับโลก โดยจะมีการลงนามถ่ายทอดเทคโนโลยีกับ ดร.แอน มารี คาร์โบเนล CEO บริษัท ออนโค่ซินเนอร์ยี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา (OncoSynergy)
“เราไม่ได้ขายโครงการวิจัย แต่เราขายนวัตกรรมนำเงินมาสู่ประเทศฉะนั้น การที่มีบริษัทยาจากสหรัฐอเมริกามาขอซื้อนวัตกรรม แสดงให้เห็นถึง 1. คุณภาพในระดับโลก 2. ความเหนือกว่า‘เราไม่ได้ก้าวทันโลก แต่เราก้าวล้ำโลก’ ขณะเดียวกันก็ต้องเข้าถึงในระดับรากหญ้าด้วย คือช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือประชาชนได้จริง” อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว
ด้านรองศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.จิตติมา ลัคนากุล ผู้อำนวยการศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
เป็นครั้งแรกที่มีบริษัทต่างชาติมาขอทำข้อตกลงถ่ายทอดเทคโนโลยี “ยาชีววัตถุโมเลกุลใหม่” ในประเทศไทย
“ยาตัวนี้ไม่ใช่เอาไปฉีดให้คนไข้ได้เลย แต่ OncoSynergy เห็นว่าผลการวิจัยของยาเราในระดับห้องปฏิบัติการมีศักยภาพสูงมาก เพราะเมื่อทำข้อตกลงกันแล้วยังต้องลงทุนทำวิจัยต่อเพื่อเข้าสู่การทดลองในระดับคลินิก คือนำองค์ความรู้ของเขามาทำวิจัยร่วมกับเราด้วย เราได้ทั้งเม็ดเงินจากการทำข้อตกลงเพื่อนำไปต่อยอดงานวิจัยได้ทั้งโนว์ฮาวจากเขาซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการขึ้นทะเบียนยาใหม่ ฉะนั้น มันคือการเกิด Real Assets Collaborative Project หรือสินทรัพย์จริงอันเกิดจากการทำโครงการร่วมกัน ที่อุตสาหกรรมยาบ้านเราไม่เคยมีมาก่อน”
ทางด้าน อ.ดร.นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาเชิงระบบ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า
ปัจจุบันการรักษามะเร็งนอกจากการผ่าตัด ฉายแสง ให้ยาเคมีแล้ว มีการรักษารูปแบบใหม่คือ การใช้ “ภูมิคุ้มกันบำบัด”
เพื่อช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ป่วยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำลายเซลล์มะเร็งที่หลบหลีกภูมิคุ้มกันได้อย่างตรงเป้า ซึ่งเป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอยู่แล้ว แต่คนไทยยังเข้าไม่ถึง ทำให้เสียโอกาส จุฬาฯ จึงทำวิจัยและพัฒนายาเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้ ขณะเดียวกันก็ทำนวัตกรรมควบคู่กันไป
หลักการการทำงานของ “ยาแอนติบอดี” ต้านมะเร็งเป็นกลไกสำคัญ
เนื่องจากเซลล์มะเร็งจะมีการสร้างโปรตีนที่ชื่อว่า PD-L1 ซึ่งมีความสามารถในการจับกับโปรตีน PD-1 ที่อยู่บนเม็ดเลือดขาว และเมื่อโปรตีนทั้ง 2 ตัวนี้มาจับคู่กันเมื่อใดจะมีผลให้เม็ดเลือดขาวซึ่งมีหน้าที่ในการฆ่าทำลายสิ่งแปลกปลอมหยุดการทำงาน ทำให้ไม่สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ ฉะนั้น ยากลุ่ม “แอนติบอดี” จะเข้าไปขัดขวางการจับกันระหว่างโปรตีน PD-L1 บนเซลล์มะเร็ง กับโปรตีน PD-1 บนเม็ดเลือดขาว ทำให้เม็ดเลือดขาวกลับมาจัดการกับเซลล์มะเร็งได้ตามปกติ
"ยาแอนติบอดีแบบใหม่ต่อ PD-1 สำหรับใช้ในการรักษาโรคมะเร็งแบบภูมิคุ้มกันบำบัด" เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและภาครัฐ
ปัจจุบันผ่านการทดลองในหนูแล้วปรากฏผลเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ก้อนมะเร็งยุบตัวได้ดีมาก OncoSynergy บริษัทเอกชนที่พัฒนาภูมิคุ้มกันบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งจากประเทศสหรัฐอเมริกาเห็นถึงศักยภาพนี้ จึงติดต่อขอลงนามเซ็นสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดร่วมกับยาแอนติบอดีตัวใหม่อีกตัวของเขาให้เกิดเป็นสูตรยาใหม่ในรูปแบบการบำบัดแบบผสมผสาน (combination therapy)
คาดว่าจะให้ประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งสูงขึ้นมากกว่ายาเดี่ยว ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอีกมาก โดยเราให้การสนับสนุนทางวิชาการ ภายใต้เงื่อนไขว่าเมื่อสำเร็จจนจดทะเบียนเป็นยาตัวใหม่แล้วจะต้องให้ไทยเข้าถึงยาได้ในราคาที่สมเหตุสมผล
การลงนามข้อตกลงถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรม "ยาแอนติบอดีแบบใหม่ต่อ PD-1 สำหรับใช้ในการรักษาโรคมะเร็งแบบภูมิคุ้มกันบำบัด" เป็นยาโมเลกุลใหม่ที่จุฬาฯ พัฒนาขึ้นโดยใช้ทุนวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและภาครัฐ
ประกอบด้วยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้ข้อตกลงกับทางสหรัฐอเมริกาว่า เมื่อการวิจัยต่อยอดเป็นผลสำเร็จแล้ว คนไทยจะต้องเข้าถึงได้ในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นเป้าหมายของการทำวิจัยเพื่อให้คนไทยเข้าถึงได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามนโยบายของจุฬาฯ ในการผลักดันงานวิจัยสู่ภายนอก
Highlight Booth จาก 5 กลุ่มเทคโนโลยี
- กลุ่ม Food & Agriculture ได้แก่ นาโนวัคซีนแบบแช่สำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่จำเพาะต่อไวรัส ISKNV ในปลากะพงขาว มี ศ.ดร.วันชัย อัศวลาภสกุล เป็นผู้วิจัยหลัก
- กลุ่ม Health & Wellness ได้แก่ นวัตกรรมเครื่องดื่มช่วยป้องกันนิ่วปัสสาวะ HYDROZITLA มี ผศ.ดร.ชาญชัย บุญหล้า ผศ.ดร.ณัฐธิดา โชติช่วง เป็นผู้วิจัยหลัก
- กลุ่ม Design ได้แก่ นวัตกรรมสิ่งทอชีวภาพสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้านนา สำหรับกลุ่มไมโครเจนเนอเรชั่น : ซิลเลนเนียลส์ มี ผศ.ชโรธรณ์ ทิพย์อุปถัมภ์ และ ศ.ดร.พัดชา อุทิศวรรณกุล เป็นผู้วิจัยหลัก
- กลุ่ม Deeptech ได้แก่ Detachable Dissolvable Microneedle หรือ แผ่นแปะเข็มระดับไมโครชนิดละลายได้ มี Mineed Technology Co., Ltd. ศ.ดร.ศุภศร วนิชเวชารุ่งเรือง เป็นผู้วิจัยหลัก
- กลุ่ม สิ่งแวดล้อม ได้แก่ Organic Flow Batteries for a Sustainable Future เทคโนโลยีแบตเตอรี่ไหลแบบอินทรีย์ใช้สารอินทรีย์ที่ปลอดภัยแทนโลหะหนัก ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม มี รศ.ดร.สุรเทพ เขียวหอม เป็นผู้วิจัยหลัก