สมศักดิ์ ยันสอบ 'หมอสุภัทร' ปมจัดซื้อ ATK ตรวจโควิด ไม่เลือกปฏิบัติ
18 สิงหาคม 2568
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบกระทู้ถามสดของนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิ ในการประชุมวุฒิสภาที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรัตน์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ประเด็นที่มีการตรวจสอบ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบทซึ่งถูกกล่าวหาว่า ฝ่าฝืนกรณีการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ช่วงโควิด-19 ระบาดจะถูกให้ออกจากราชการ ถือเป็นการเลือกปฎิบัติหรือไม่ เนื่องจากมีโรงพยาบาลอื่นที่ร่วมโครงการเดียวกันไม่ได้ถูกตรวจสอบ โดยตั้งข้อสังเกตเป็นการเลือกปฎิบัติหรือไม่และมีแนวทางจะดำเนินการอย่างไรนั้น
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า กรณีนพ.สุภัทร ในข้อเท็จจริงมีการร้องเรียนมาจากจ.สงขลา ซึ่งกระทรวงได้สั่งให้ผู้ตรวจสอบภายในได้ไปทำการตรวจสอบ โดยหัวหน้าผู้ตรวจสอบภายในได้ลงพื้นที่โรงพยายาลจะนะ โรงพยาบาลระโนด เรื่องนี้เกิดขึ้นจากการจัดซื้อจัดจ้างในปี 2564 แต่มีการตรวจสอบในปี 2566 พบความบกพร่องในการบริหารในฐานะผู้อำนวยการ คือ การจัดซื้อจัดจ้างเอทีเค เรื่องการอนุมัติแบ่งซื้อแบ่งจ้าง
ส่วนประเด็นการเดินทางมา กทม.เพื่อกิจกรรมแพทย์ชนบทบุกกรุงการสร้างอาคาร 8 ชั้นที่มีการเปลี่ยนแบบโดยไม่มีการแก้ไขสัญญาการสั่งการเปลี่ยนแบบโดยพลการและมีเรื่องปลีกย่อยการจัดซื้อพัสดุ เช่น การแปลงสภาพรถราชการ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขรับเรื่องก็ได้แต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และไม่ร้ายแรงตามระเบียบของข้าราขการพลเรือน (ก.พ.) มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการทั้งหมด 3 ครั้ง ชุดที่ 1 มีการตั้งคณะกรรมการและมีการร้องเรียนว่า กรรมการที่เป็นอยู่นั้นอาจจะไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา จึงเปลี่ยนกรรมการเป็นชุดที่ 2 และชุดที่ 2 ได้รับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเพราะเลขาคณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้โอนจากกระทรวงสาธาณสุขไปสำนักงานอัยการสูงสุด จึงมีการเปลี่ยนคณะกรรมการอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3
ทั้งนี้ การดำเนินการครั้งที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนและจัดทำรายงานผล เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมามีมติเป็นความลับซึ่งตนไม่ทราบว่ามติเป็นเช่นไร และมตินี้จะต้องถูกเสนอไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเอาเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนสามัญ (อกพ.) ซึ่งมี รมว.สาธารณสุขเป็นประธาน โดยการประชุมจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้
ทั้งนี้ เรื่องที่พูดคุยต้องดำเนินการตามกฎของราชการและเรื่องทั้งหลายยังไม่ถึงผม ผมจะให้ความเป็นธรรมให้ดีที่สุด เมื่อได้เห็นข้อมูลในเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะยังไม่มีการประชุม จึงยังพอมีเวลาที่จะสั่งการให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ส่วนผลสอบเรื่องดังกล่าวนั้นหากอะไรที่ไม่เป็นข้อกำหนดว่าเป็นความลับ ผมยินดีเปิดเผยให้ แต่หากติดระเบียบราชการ ผมจนใจที่จะทำแบบนั้น แต่จะให้ความร่วมมือเต็มที่" นายสมศักดิ์ กล่าวชี้แจง
ส่วนการดำเนินการสอบสวนทำไมไม่ไปตรวจสอบโรงพยาบาลอื่นด้วยนั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า เนื่องจากการตรวจสอบดังกล่าวส่วนใหญ่ที่พวกเรานักการเมือง ทำการตรวสอบเรื่องร้องเรียน ถ้าไม่มีคนร้องเรียน การตรวจสอบจะช้าเพราะไม่มีการติดตาม หาก สว.อยากจะให้มีการตรวจสอบที่โรงพยาบาลไหนท่านก็ทำหนังสือร้องเรียนมาให้ดำเนินการได้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองนั้นเข้าใจเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เอทีเค ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องซื้อเพื่อบริการประชาชนเวลาป่วยแต่เรื่องนี้มีระเบียบราชการ อย่างไรก็ดี ตนตระหนักในเรื่องนี้และเคยขอร้องให้ราชการได้พยายามร่างกฎหมายของคนที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำผิดแต่ผิดระเบียบทางราชการซึ่งเป็นหน้าที่ของทางราชการที่ต้องทำให้ถูกระเบียบ" นายสมศักดิ์ กล่าว