ตลาดเพชร เซ่นพิษ!ภาษีทรัมป์ ในอินเดีย
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 23.50 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - สำนักข่าว รอยเตอร์ ระบุว่า อาคารสุรัตไดมอนด์บอร์ส ที่เคยได้รับการขนานนามว่าเป็นอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าเพนตากอน และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ทางการค้าที่เติบโตขึ้นของอินเดีย กลับดูเงียบเหงา มีเพียงผู้ค้าไม่กี่รายเท่านั้นที่ทำงานอยู่
สาเหตุ คือ ธุรกิจซบเซาและแนวโน้มดูมืดมน
จากการส่งออกของอุตสาหกรรมเพชรของอินเดียลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองทศวรรษ เนื่องจากความต้องการของจีนที่อ่อนแอ และตอนนี้อัตราภาษีการค้า ที่สูงขึ้นภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังคุกคามการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมูลค่า 2.85 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี โดยเมืองสุรัต ในอินเดียเป็นแหล่งเจียระไนและขัดเงาเพชรดิบกว่า 80% ของโลก เริ่มมีคำสั่งซื้อหดตัวลงเนื่องจากภาษีของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ในขณะที่ผู้ส่งออกรายย่อยมีทางเลือกน้อยที่จะรับมือกับผลกระทบนี้ ผู้เล่นรายใหญ่บางราย วางแผนที่จะย้ายการดำเนินงานบางส่วนไปยังต่างประเทศ อย่างบอตสวานา ซึ่งต้องเผชิญกับภาษีสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าที่ 15% ซึ่งภาษีปัจจุบันของอินเดียที่ 25% มีกำหนดจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในวันที่ 27 ส.ค.นี้
"เราอยู่ในโหมดเฝ้ารอจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม แต่..อาจเพิ่มการผลิตในบอตสวานา หากสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป" นายฮิเทช พาเทล กรรมการผู้จัดการของ Dharmanandan Diamonds กล่าว ซึ่งคาดว่าภาษีของสหรัฐฯ จะลดรายได้ต่อปีถึง 20-25% เลยทีเดียว
ด้านนายเชานัก พาริก รองประธานสภาส่งเสริมการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (GJEPC) กล่าวว่า อุตสาหกรรมกำลังตอบสนองต่อความต้องการที่ช้าลงด้วยการลดวันและชั่วโมงทำงาน โดยมีเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง กล่าวว่า ในอาคารสุรัตไดมอนด์บอร์ส มีการขายสำนักงานไปแล้วกว่า 4,700 แห่ง มีเพียงไม่ถึง 250 แห่งเท่านั้นที่ยังถูกใช้งาน โดยหลายบริษัทกำลังทบทวนแผนการย้ายเข้ามาแทนที่
ฟากเจ้าของบริษัทเพชรในมุมไบ ซึ่งซื้อพื้นที่ในบอร์สเมื่อปีที่แล้ว และได้พับแผนการย้ายที่ตั้งไปแล้ว ได้กล่าวว่า“ภาษีของสหรัฐฯ ทำให้ธุรกิจของเราสั่นคลอนอยู่แล้ว และเราไม่ต้องการความยุ่งยากเพิ่มเติมในการย้ายจากมุมไบไปยังสุรัต" เขากล่าว
โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2023 ในพิธีเปิดสุรัตไดมอนด์บอร์ส ซึ่งสร้างบนพื้นที่กว่า 6.7 ล้านตารางฟุต แซงหน้าเพนตากอนที่มี 6.5 ล้านตารางฟุต นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้ยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "ความแข็งแกร่งและปณิธานใหม่ของอินเดียยุคใหม่" ซึ่งอาคารบอร์สที่กว้างขวางแห่งนี้ ประกอบด้วยหอคอยที่เชื่อมต่อกันเก้าแห่ง แต่ละแห่งมี 15 ชั้นและมีอาคารกระจกที่ส่องประกาย เป็นที่ตั้งของธนาคาร สำนักงานศุลกากร ห้องนิรภัย และห้างสรรพสินค้าอัญมณี ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์กลางครบวงจรสำหรับอุตสาหกรรมเพชรทั่วโลก
แสงที่ริบหรี่..แม้จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว
ช่วงเวลานี้ของปีปกติแล้ว แรงงานในสุรัตจะเร่งการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ ก่อนช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ช่างฝีมือหลายคนไม่แน่ใจว่าจะยังมีงานทำหรือไม่?
"ความต้องการซบเซาอย่างหนักจนเพชรที่ผมขายได้ในราคา 25,000 รูปี (ประมาณ 285.84 ดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้แทบจะขายได้แค่ 18,000 รูปี" นายไชเลช มันกุกิยา ผู้บริหารหน่วยเจียระไนและขัดเงาในสุรัต เมืองใหญ่อันดับสองในรัฐคุชราตซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายโมดีทางตะวันตกของอินเดีย กล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม กล่าวว่า ผู้ซื้อชาวสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีมีแนวโน้มที่จะหันไปหาเพชรจากประเทศอย่างอิสราเอล เบลเยียม และบอตสวานา ซึ่งผู้ส่งออกเพชรของอินเดียกำลังพยายามเพิ่มยอดขายไปยังเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลางเพื่อชดเชยการสูญเสียจากสหรัฐฯ แต่..การหาผู้ซื้อเพชรรายใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย
ด้านผู้ส่งออกยังกล่าวด้วยอีกว่า อุตสาหกรรมกำลังลดการซื้อเพชรดิบและดำเนินงานด้วยสินค้าคงคลังที่น้อยที่สุดเพื่อรักษากระแสเงินสด ในขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อยที่ขาดแคลนเงินสดได้เริ่มเสนอส่วนลดจำนวนมากเพื่อให้อยู่รอด
ความต้องการภายในประเทศของอินเดียพุ่ง!
นายฮิเทช ชาห์ หุ้นส่วนของ Venus Jewel ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ให้กับแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Tiffany & Co. และ Harry Winston กล่าวว่า ความต้องการเพชรในอินเดีย เพิ่งแซงหน้าจีนขึ้นเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของโลก ยังคงแสดงให้เห็นถึงการเติบโต
"ยอดขายของเราในช่วง 10-15 วันที่ผ่านมาชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ไม่มากนัก เนื่องจากความต้องการที่ลดลงจากอเมริกาได้รับการชดเชยจากความต้องการที่ดีในตลาดอินเดีย" ชาห์ กล่าว
สรุป ได้ว่าอุตสาหกรรมเพชรในอินเดียยังคงเผชิญความท้าทาย สาเหตุจากภาษีการค้าของสหรัฐฯ โดยผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อยต้องเร่ง หาตลาดใหม่เพื่อเอาตัวรอดนั่นเอง
ที่มา รอยเตอร์