สื่อต่างชาติ VS นักวิเคราะห์ ชี้การเมืองร้อน ฉุดศก.ไทย
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 1 กันยายน 2568 เวลา 22.15 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - จากสำนักข่าว CNBC ระบุว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่มากขึ้น และแม้กระทั่งการรัฐประหาร อาจเกิดขึ้นในประเทศไทยในไม่ช้านี้ ภายหลังการปลดนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ออกจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดยนักวิเคราะห์ กล่าวกับ CNBC หลังนายกฯถูกปลดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในข้อหาละเมิดจริยธรรม ภายหลังจากการถูกพักในเดือนกรกฎาคม ประเด็นหลังจากมีคลิปเสียงที่หลุดออกมาของเธอกับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน เซน ซึ่งการโทรศัพท์นั้นเปิดเผยว่าเธอได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้บัญชาการทหารไทย ที่ดูแลข้อพิพาทบริเวณชายแดนกับกัมพูชา
ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนจะเอาใจผู้นำเผด็จการกัมพูชา การสู้รบปะทุขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แม้ว่าจะมีการหยุดยิงได้ห้าวันหลังจากความขัดแย้ง ความวุ่นวายในประเทศไทย
ด้าน นายโจชัว เจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ที่ Council on Foreign Relations กล่าวกับ CNBC ว่า จะมีความ "วุ่นวายในระยะสั้น" หนึ่งในความเป็นไปได้ที่บอกคือ "พรรคเพื่อไทยจะรักษาสถานการณ์ไว้และมีเสียงข้างมากเพียงเล็กน้อยในรัฐสภาที่อาจล่มสลายได้ตลอดเวลา โดยมีนายกรัฐมนตรีที่อ่อนแอเข้ามาแทนที่ เช่น คุณชัยเกษม นิติสิริ" เขากล่าวเสริม
โดยอ้างถึงพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของคุณแพทองธาร มีคุณชัยเกษม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน และเคยลงสมัครรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2019 และ 2023 โดยเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของไทยในปี 2013
และอีกความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง นายโจชัว กล่าวคือ "การจัดตั้งรัฐบาลผสมที่ยุ่งยาก" ซึ่งจัดตั้งโดยพรรคอื่น เช่น พรรคภูมิใจไทย โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน ซึ่งเดิมคือ พรรคก้าวไกล แต่เขาเสริมว่า "แทบจะไม่มีทางสำเร็จในประเทศใด ๆ และอาจจะไม่สำเร็จในประเทศไทย"
โดยในช่วงเช้าของวันจันทร์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พรรคประชาชนมีกำหนดจะประชุมเพื่อตัดสินใจว่าจะสนับสนุนใครเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้ถอนตัวออกจากรัฐบาลผสมของแพทองธารเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน หลังจากที่มีการเปิดเผยการโทรศัพท์กับฮุน เซน
นอกจากนี้ มีรายงานจากรอยเตอร์ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้เดินทางไปมาระหว่างพรรคต่าง ๆ โดยเสนอคำมั่นสัญญา เช่น การจัดการเลือกตั้งภายในสี่เดือน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Nomura กล่าวว่า คุณอนุทิน ชาญวีรกูล มีโอกาสน้อยกว่าที่จะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มากกว่า คุณชัยเกษม โดยชี้ให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยมีที่นั่งในรัฐสภาน้อยกว่าพรรคเพื่อไทยประมาณ 70 ที่นั่ง
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า หากคุณชัยเกษม ได้รับเลือก สถานะของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยจะยังคงอยู่ แต่..พวกเขายังเน้นย้ำถึงความเสี่ยง ของการเลือกตั้งก่อนกำหนดที่อาจมาในต้นปี 2026 เนื่องจากรัฐบาลผสมมีเสียงข้างมากค่อนข้างน้อย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น "อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งในมุมมองของนักวิเคราะห์ไม่น่าจะให้ทางออกที่ถาวร และอาจจะยืดเยื้อความไม่แน่นอนทางการเมืองออกไปอีก"
รัฐประหารที่อาจใกล้เข้ามา?
Nomura ยังกล่าวเสริมว่า การรัฐประหารที่อาจใกล้เข้ามา? ความอ่อนแอทางการเมืองนั้น อาจเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการรัฐประหารโดยทหารอีกครั้ง นายโจชัว เตือน ประเทศไทยเคยประสบกับการรัฐประหารในปี 2006 และ 2014 จากการยึดอำนาจในปี 2006 ได้โค่นล้มนายทักษิณ ชินวัตร พ่อของคุณแพทองธาร และการรัฐประหารในปี 2014 ได้เกิดขึ้นภายหลังการที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณพ้นจากตำแหน่ง ครั้งที่ผ่าน และมีโอกาสเป็นไปได้
ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ความไม่มั่นคงทางการเมืองอาจเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของประเทศไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังประสบกับภาษีจากรัฐบาลทรัมป์และเป็นหนึ่งในตลาดที่ทำผลงานแย่ที่สุดในเอเชีย ดัชนี SET ได้ลดลง 11.7% ในปีนี้
ด้าน ราดิกา ราโอ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ DBS Bank กล่าวว่า การเติบโตของประเทศไทยอยู่ใน "ด้านที่อ่อนแอ" แต่ธนาคารกลางยังคงคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนการเติบโต ในการพูดคุยกับ "Squawk Box Asia" ของ CNBC เมื่อวันจันทร์ ราโอ กล่าวว่าประเทศไทยอาจประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในครึ่งหลังของปี
สำหรับนักวิเคราะห์ของ Nomura คาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ 1.8% โดยกล่าวว่า ผลกระทบจากภาษีในช่วงครึ่งหลังจะทำภาวะเชิงลบระหว่างภาวะการเงินที่ตึงตัว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเลวร้ายลง ซึ่งตัวเลข 1.8% สอดคล้องกับการคาดการณ์ ที่ลดลงของธนาคารโลกในเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ ธนาคารโลกได้ลดการคาดการณ์การเติบโตทั้งปีของประเทศไทยสำหรับปี 2025 ลงอย่างมากเหลือ 1.8% จากเดิม 2.9% และยังลดการคาดการณ์สำหรับปี 2026 ลงเหลือ 1.7% จากเดิม 2.7% เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโต 2.5% ในปี 2024 จากความไม่แน่นอนทางการเมืองและความอ่อนแอของการเติบโต
ทำให้นักวิเคราะห์ของ Nomura คาดว่าจะมีการลดอันดับเครดิตของประเทศในไตรมาสที่จะถึงนี้โดย Moody’s ในเดือนเมษายน Moody’s ได้ปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตสำหรับประเทศไทยเป็นเชิงลบจากทรงตัว โดยชี้ถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นและความอ่อนแอของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอันดับเครดิตของประเทศโดย Moody’s อยู่ที่ Baa1
ที่มา : CNBC