ยุทธการ ‘ปราสาทตาควาย’
เป็นไงครับ….
เมื่อคืนไม่มีเสียงปืนกล่อม คงนอนหลับกันยากหน่อยนะ
แต่เชื่อเถอะ
ซักพัก “เขมรก็เปิดก่อน” อีกจนได้แหละ!
แล้วเราก็จะได้เห็น “อุตพิดเมืองขแมร์” ออกมาแหลหน้าจอว่า “ไทยเปิดก่อน” อีกจนได้ ผิดไปจากนี้ ผมยอมให้เตะก้นอังเคิล ๒ ที…เอ้า!
พี่น้องชาวไทย “อย่าเทหมดทั้งใจ” ให้ทหารที่เดียวล่ะ เผื่อแผ่ให้กับ “ฝ่ายบุ๋น” ในฐานะรัฐบาลที่ไปเจรจาสงบศึกด้วย
ก็มีท่านภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ ท่านมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และท่านพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม
ก็อย่าไปหวาดระแวงพูดแทงใจดำท่านภูมิธรรมกันนักเลย ให้กำลังใจท่านบ้างเถอะ
ชั่วดีถี่ห่างอย่างไร ที่ท่านจะสวมบทไส้ศึกไปตกลงอะไรกับเขมรนั้น
ผมรับประกันเฉพาะเรื่องนี้ “ไม่มีแน่”!
ถ้าเป็นหนัง-ละคร ผมจ้องดูแล้ว ท่านร้อง-รำ ไปตามบทที่ฝ่ายกองทัพ “กำกับการแสดง” เป๊ะๆ
ไม่กล้า “นอกบท” หรอก ขืนนอกบท เป็นเจอสหบาทชาวบ้านแน่
ก็สังเกตดูซี ในทุกเงื่อนไขที่ไปเจรจา จะมีคำว่า “กองทัพ” รวมอยู่ด้วยทุกครั้ง
แสดงว่า เรื่องพิพาทชายแดนนี้ การจะตัดสินใจอย่างใด-อย่างหนึ่ง รัฐบาลไม่ได้ตัดสินใจโดยพลการ
แต่จะต้องผ่าน “ความเห็นชอบ” จากกองทัพก่อน!
อย่างที่ไปตกลง “หยุดยิง” ๒๔.๐๐ น. คืนวันที่ ๒๘ ก.ค. โดยมีตัวแทน “สหรัฐฯ-จีน-มาเลย์” เป็นผู้ควบคุมกฎให้ทั้ง ๒ ฝ่ายปฏิบัติตามนั้น
๒ ยามเป๊ง “เราหยุด”
แต่ “เขมรไม่หยุด”!
ก็จะเห็นความเอาจริง-เอาจังของไทย ทั้งจากฝ่ายกองทัพ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายกระทรวงต่างประเทศไปในทิศทางเดียวกัน
ท่านภูมิธรรมออกแถลงการณ์ทันที
“……รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา”
รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” ขึงขัง-จริงจัง
“กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือถึงนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนแล้ว
และได้ส่งหนังสือให้กับทางสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีนในฐานะผู้สังเกตการณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรายละเอียดตนขอยังไม่เปิดเผย”
ฝ่ายกองทัพ “พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ” โฆษก “ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.)" แถลงผลการประชุม
“จากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชาในเวลา ๒๔.๐๐ น. ที่ผ่านมา ซึ่งไทยยืนยันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หยุดยิงในทุกๆ พื้นที่ ตามข้อตกลงที่ให้คำมั่นสัญญา
แต่หลังจากเลยเวลากำหนดหยุดยิง ไทยได้พิสูจน์ทราบว่า กัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในหลายจุด
ถือเป็นการกระทำที่จงใจละเมิดข้อตกลง และทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน
ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิการป้องกันตนเอง ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่ใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากนี้ ยังปรากฏทราบว่า…..
ทางฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบัง เป็นการละเมิดพันธกรณีคุ้มครองทางวัฒนธรรม ของสหประชาชาติ ภายใต้อนุสัญญาของยูเนสโก
สิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดว่า การละเมิดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ให้กันไว้ ศบ.ทก.ขอประณามการกระทำของทหารกัมพูชา”
ก็จะเห็นว่า เป็นการเดินงานที่ “ฝ่ายบริหาร” กับ “ฝ่ายยุทธการ” ประสานไปด้วยกัน ฉะนั้น อย่าไปลิดรอนน้ำใจรัฐบาลไปในทุกเรื่องเลย
มันก็ชัดอย่างหนึ่ง ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง มีใจแยกชั่ว-แยกดีได้ เมื่อความคิดเป็นอิสระ ไม่อยู่ใต้บงการทักษิณ ก็จะเห็นชาติเหนือกว่าน้ำข้าวในกระถาง!
เอาละ สรุปว่า ทุกคนรู้แล้ว เข้าใจแล้วว่า “ทหารมีไว้ทำไม?”
บ้านเมืองไทย นับต่อแต่นี้ไป…..
จากความเป็นแต่ละแขนงไผ่ จะรวมกันเป็น “ไผ่กอใหญ่” ต่อให้ใครเอาช้างมาลาก เอารถไฟมาฉุด เอารถถังเขมรมาดึง
ยากว่ะ…เพื่อน ที่จะขยับกอไผ่ คือ “ไทยประเทศ” ให้เขยื้อน!
มีคำพูดว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ”
แต่กับไทยไม่ใช่ หากแต่เป็นว่า “สถานการณ์เป็นกาวประสานคนไทยให้รวมใจสมัครสมานสามัคคีรวมเป็นหนึ่ง”
แล้วไม่มีใครเป็นวีรบุรุษเลยหรือ?
มี…ก็ “ทหาร” ของเราทุกคน รวมทั้งทหารพรานและ ตชด.ในยุทธภูมิพิทักษ์แผ่นดิน ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ นี่ไง
๒๔-๒๘ กรกฎา.เพียง ๕ วัน ทหารไทยรบเอา “แผ่นดินไทย” ที่เขมรรุกล้ำเอาไปเป็นสิบๆ เอากลับคืนมาได้ ถึง ๑๑ พื้นที่ ก็มี
“ภูมะเขือ, ช่องอานม้า, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย, แนวเขตแดนช่องบก, ปราสาทโดนตวล
สัตตะโสม, ช่องจอม, ช่องสายตะกู, อ.บ้านกรวด, พระวิหาร และ พลาญยาว”
นับว่า ยุทธการ “หนุมานเหยียบอกฮุน เซน” ไม่เสียเปล่า!
การยุทธ์ “ชิงปราสาทตาควาย” ก่อนถึงเส้นตาย ๒๔.๐๐ น. ทหารไทย สร้างวีรกรรม ๕ นาทีสุดท้าย ฝากไว้เป็นตำนานเย้ยยุคเทคโนโลยียึดโลก
“แม้ชีวิตกูสิ้น…แต่แผ่นดินไทยของกูต้องอยู่คู่กับไทย”!
ท่ามกลางเขมรซึ่งมีชัยภูมิเหนือกว่า ระดมกำลังรบหน่วยพิทักษ์ฮุน เซน มาสมทบนับพัน เพื่อยึดปราสาทตาควาย
ทหารไทย กำลังน้อยกว่า ซ้ำอยู่ต่ำกว่าในพื้นที่โล่ง ไม่มีอะไรเป็นที่กำบัง เรียกว่าเสียเปรียบทหารเขมรทุกด้าน
ในช่วงนั้น ปราสาทตาควาย “จะอยู่-จะไป” ขึ้นอยู่กับ ๕ นาทีสุดท้ายก่อน ๒ ยาม
“รบประจัญบาน” เราเห็นแต่ในหนัง แต่ทหารไทย “รบให้โลกลือ” ขึ้นชื่อว่าไทย ….ใครอย่าแหยม
เวลาไม่มีแล้ว ฉะนั้น ไม่มึงก็กู “ชีวิตต่อชีวิต” แลกกัน ทหารไทยตัดสินใจออกจากบังเกอร์ ยืนจังก้า
แล้วบุกประจัญบานใส่ทหารเขมรที่…ไอ้สัตว์มันวางกับระเบิดไว้รอบปราสาท บึ้ม…ขาขาดฟุบอยู่ ที่ยืนได้ ตะลุยเข้าไป กราดปืนแลกกระสุนใส่กัน นัดต่อนัด…มึงอยู่-กูตาย, มึงตาย-กูอยู่
และแล้ว ก่อนเข็มนาฬิกากระดิกถึง ๒๔.๐๐ น. ไพรีก็พินาศ
“ร.๓๑ รักษาพระองค์” ขับไล่ทหารเขมรกระเจิงจากปราสาทตาควาย ปักธงไทยเหนือยอดปราสาท “ประกาศชัย” ณ เวลา ๒๔ นาฬิกา พอดี!
เอ้า….อ่านนี่
ข่าวทหาร
ทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31) ยอมแลก 5 นาทีสุดท้าย ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง
ยืนประจันหน้ากับผู้รุกราน เพื่อปกป้องผืนพื้นแผ่นดินไทย แบบถวายชีวิตได้มาด้วยชัยชนะเหนือ ปราสาทตาควาย
“ยอมตาย ดีกว่าเป็นทาส”
คือคำสัตย์จากเหล่าทหารกล้าแห่ง
กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์
ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ตามรายงาน 00:20 น.
ทหารไทยสามารถยึดปราสาทตาควายคืนได้แล้วโดย ทหาร ร.31 ลุกออกจากบังเกอร์ลุยต่อหน้าข้าศึก
พร้อมตะโกนลั่น กู…. ร.31 ขอแลก
ตีกำลังพลเข้ายึด! ทำให้กำลังพลบาดเจ็บพอสมควร
ชื่อเต็ม ร.31 คือ กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์
กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ มีชื่อเต็มว่า “กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”
เป็นหน่วยทหารของกองทัพบกไทย รักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
มีที่ตั้งหน่วยอยู่ที่ 120 หมู่ 5 บ้านหนองแขม ถนนพิชัยดาบหัก ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
ยืนแลก จนวินาทีสุดท้าย กราบใจ ร.31 จนได้ชัยชนะที่ตาควาย
วีรกรรมของพวกท่าน จะเป็นตำนานให้ลูกหลานสืบไป
ขอบคุณทหารทุกนาย ที่ร่วมรบ จากหัวใจคนไทยทุกคน ..
ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด.
วีรกรรมสมรภูมิปราสาทตาควาย จะเป็นตำนานเล่าขานสืบไปในภายหน้าไปตลอดกาลนาน
#เจ้าเวหา
………………………………..
Kittipong Sujjakulnukij
…ใจน้องมันสุดๆ จริงๆ
ผู้หมวดอนาคตไกล จบหลักสูตร Seal ด้วย ..ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร หรือ หมวดบุ๊ค นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 60 และนักเรียนนายร้อย จปร.รุ่นที่ 71
นำชุดปฏิบัติการรบพิเศษเข้าเคลียร์พื้นที่ปราสาทตาควาย และกรุยทางให้ ร.31 รอ. บุกเข้ายึดพื้นที่ได้สำเร็จอย่างกล้าหาญ
แม้ต้องสูญเสียขาขวา ที่พลาดเหยียบกับระเบิดของทหารกัมพูชาก็ตาม แต่ยังยิ้มได้ เพราะภารกิจที่ได้รับมอบ บรรลุและส่งต่อให้ยึดที่หมายได้สำเร็จ
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
………………………………..
และเรา…พี่น้องไทยทุกคน จะลืมผู้ปิดทองหลังพระได้อย่างไร ขอกราบหัวใจพวกท่าน “ทหารพราน” ที่อยู่ในใจคนไทยตลอดกาลด้วย
………………………….
G A M E
"สุดท้ายแล้ว… ทหารพราน
สุภาพบุรุษชุดดำอย่างพวกผม ก็ไม่มีใครพูดถึง…
ไม่มีใครเอ่ยถึง ทั้งที่เราก็รบอยู่ด้วยกัน!
แต่ไม่เป็นไร!
พวกเรา ‘นักรบชุดดำ’
เกิดมาเพื่อเงียบ… แต่เด็ดขาด!
ทำหน้าที่… แม้ไม่มีใครเห็น!
ยืนหยัด… แม้ไม่มีใครเอ่ยถึง!
เราคือแนวหน้าในเงามืด
เราคือกำแพงสุดท้ายของแผ่นดิน
เราคือผู้ปิดทองหลังพระ… อย่างภาคภูมิ
เพื่อชาติ! 🇹🇭
เพื่อประชาชน!
เพื่อศักดิ์ศรีของนักรบไทย!
……………………………………………..
ผมก็ทดแทนบุญคุณชาติและทหารด้วยตัวหนังสือได้เท่านี้แหละครับ ครั้นจะไปช่วยรบ ก็จะกลายเป็นศพให้เก็บซะเปล่าๆ
รบรอบใหม่ จะให้ สส.ไปออกแนวหน้า ให้สมกับฉายา
“ผู้รักชาติจนน้ำลายไหล!”
-เปลว สีเงิน
๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘
คนปลายซอย