โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โผครม.สะดุดปมจริยธรรม!

ไทยโพสต์

อัพเดต 27 มิถุนายน 2568 เวลา 7.07 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เลขาฯ ครม.เผยส่งคุณสมบัติว่าที่ รมต.ให้หน่วยงานตรวจสอบแล้ว ปัดตอบเสร็จเมื่อไหร่ นายกฯ ปิดปากถึงความคืบหน้าโผ ครม. "ภูมิธรรม” ส่งสัญญาณคุย "ผบ.เหล่าทัพ” เรียงตัว รับต้องเข้มตรวจคุณสมบัติ รมต.มากขึ้น เหตุตีความจริยธรรมไม่ห่วงกระทบหากศาล รธน.รับวินิจฉัยคลิปเสียงนายกฯ 1 ก.ค.นี้ มั่นใจเสียง รบ.ปึ้ก หาก ภท.เปิดศึกซักฟอก "ชูศักดิ์" ยันคุณสมบัติ รมต. หากศาลยังไม่ตัดสินเชื่อว่าแต่งตั้งได้ โทษ กม.ยังกำกวมปมจริยธรรม "เดชอิศม์” โวคุณสมบัติว่าที่ รมต.ผ่านฉลุยส่งแล้ว 3 ชื่อไม่มีสำรอง "ชัยชนะ" มั่นใจไร้ปัญหา "อดีต สว.สมชาย" เตือนโผ ครม.อาจทำ "อุ๊งอิ๊ง" ซ้ำรอย "เศรษฐา" ด้าน กมธ.สส.-สว. จวกร่าง กม.กาสิโนไม่ทำตามขั้นตอน จี้ถอนออกไปก่อน

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 มิถุนายน นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร 2 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ ยังไม่เสร็จ และอยู่ระหว่างการส่งให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบ

เมื่อถามว่า มีใครที่คุณสมบัติน่าเป็นห่วงหรือไม่ นางณัฐฏ์จารีไม่ตอบคำถาม เมื่อถามอีกว่า คาดว่าจะตรวจสอบเสร็จภายในเมื่อไหร่ นางณัฐฏ์จารีไม่ได้ตอบคำถามและขึ้นตึกบัญชาการ 1 ไปทันที

ที่ ร.12 พัน.3 รอ. (ค่ายสุรสิงหนาท) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนนี้รายชื่อเสร็จหรือยัง และนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้วหรือยัง แต่ น.ส.แพทองธารไม่ได้หยุดให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 15.30 น. น.ส.แพทองธารเดินทางกลับเข้าทำเนียบฯ ท่ามกลางการจับตาความชัดเจนเรื่องการปรับ ครม. ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีใหม่ว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งปัจจุบันการตรวจสอบคุณสมบัติค่อนข้างละเอียด จากเดิมไม่กี่วันก็เสร็จ แต่ครั้งนี้ 10 กว่าวัน เพราะต้องเพิ่มการตรวจสอบด้านต่างๆ ดังนั้นผู้ที่อยู่ในคุณสมบัติก็ถูกเรียกไปหมด เผื่อมีปัญหาจะได้ไม่ช้า สามารถหยิบคนที่มีศักยภาพขึ้นมาได้เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นคุณสมบัติครั้งนี้มีการให้บุคคลสำรองยื่นไปด้วย เพราะไม่มั่นใจในเรื่องสมบัติของผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ใช่ เราต้องการทำให้ขั้นตอนต่างๆ ช้า ซึ่งมีอยู่ในเมืองทั้งหมด เราไม่รู้ว่าการตีความเรื่องจริยธรรมจะเป็นอย่างไร เพราะมันกว้าง และไม่เกี่ยวกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน มีคดีร้องเรียนอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

เมื่อถามว่า ขณะนี้ในพรรค พท.โควตาลงตัวหรือยัง เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสว่า สส.ไม่พอใจโผที่ออกมา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเลย เพราะข่าวที่เช็กไปเอาเข้าจริงก็ไม่ใช่ บางทีแหล่งข่าวก็ไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริงหรือเฉพาะบางคน เมื่อถามอีกว่าหมายความว่าสัปดาห์นี้จะลงตัวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายกฯ ได้ประมาณไว้อย่างนั้น เพราะมีการดูรายละเอียดมากพอสมควรแล้ว

ถามว่า จะมีการทูลเกล้าฯ ถวายก่อนวันที่ 1 ก.ค.หรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญอาจรับวินิจฉัยกรณีคลิปเสียงของนายกฯ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับคลิปอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการ จบเมื่อไหร่ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อนั้น หากศาลรับวินิจฉัยก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายก็มีกระบวนการอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เมื่อถามว่าถ้านายกฯ ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายภูมิธรรมต้องรักษาราชการแทนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า "ไม่เชื่อว่าจะมีคำว่าถ้า"

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 3 ก.ค. นายภูมิธรรมกล่าวว่า เขาก็มีสิทธิ์ตามข้อบังคับของสภา ถ้าสภาบอกเขามีสิทธิ์ก็สามารถเสนอได้ แต่เสียงก็ต้องเพียงพอ ก็แล้วแต่ เพาะเป็นอำนาจของสภา แต่เราไม่ได้กังวล ทำงานเต็มที่

"มั่นใจในเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าไม่มั่นใจจะตั้งรัฐบาลได้อย่างไร มีแต่สื่อที่กลัวแตกแถว แต่รัฐบาลไม่เคยกลัว จะเดินหน้าต่อ" นายภูมิธรรมกล่าว

ที่กองทัพอากาศ นายภูมิธรรมกล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ไม่ได้มีการสั่งลาพิเศษ คือการเมืองมันไม่แน่นอน ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลง ทุกคนได้เขียนรายละเอียดยืนยันประวัติไปแล้ว อะไรที่เกิดก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น จึงพูดไว้เป็นสองทาง ว่าถ้าต้องมีการเปลี่ยนแปลง ก็ขอบคุณทุกอย่างที่ได้ช่วยเหลือมา เห็นว่ากองทัพทุกเหล่าทำงานเต็มที่และทุ่มเท ขอให้ทำเต็มที่อย่างนี้ต่อไป เพื่อเกิดประโยชน์กับประเทศ และไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณย้ายกระทรวง แต่เป็นการพูดตามปกติที่จะมีการเปลี่ยนแปลง

โทษ กม.กำกวมปมจริยธรรม

เมื่อถามย้ำว่า การส่งประวัติคือการย้ายกระทรวงหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า “เปล่าครับ ท่านให้กรอกรายละเอียดทุกคน เพราะส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ เพียงแต่จะอยู่ตรงไหนเท่านั้นเอง และเดี๋ยวนี้มีกระบวนการมากในการตรวจสอบประวัติปกติ 2-3 วันก็จบแล้ว ตอนนี้ต้องไปตรวจสอบอีกหลายที่

ภายหลังการประชุมนายภูมิธรรมได้เชิญ ผบ.เหล่าทัพแต่ละคนพูดคุยเป็นการส่วนตัวที่ห้องรับรอง ได้แก่ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก, พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมขอบคุณที่ได้งานร่วมกันมา ยืนยันการสนับสนุนโครงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของเหล่าทัพที่ค้างอยู่ ซึ่งแม้การปรับ ครม.ไม่ได้นั่งตำแหน่ง รมว.กลาโหม แต่ก็ยังรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงในภาพรวมอยู่

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล กล่าวถึงกรณีคุณสมบัติของรัฐมนตรีใหม่ควรยึดเกณฑ์อะไรว่า สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ โดยมีแบบฟอร์มให้กรอกว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างไร และที่สำคัญมีคำว่า "ไม่ ไม่เคย ไม่มี อะไรทั้งหลายทั้งปวง" เป็นคุณสมบัติในรัฐธรรมนูญ ใครเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีต้องดูในประเด็นนี้ เช่น ไม่เคยถูกศาลตัดสินจำคุก ใครเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีต้องกรอกตรงนี้ และเซ็นรับรองคุณสมบัติ

เมื่อถามว่า กรณีมีเหตุแจ้งความทำร้ายร่างกาย แต่ถอนแจ้งความจะเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นปัญหา และเป็นดุลพินิจ เพราะกฎหมายจริงๆ ควรต้องมีคำพิพากษา เหมือนคดีที่ตัวเองเคยยกว่ารัฐธรรมนูญกำกวม โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรมและซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์มาตรวัดไม่มี ฉะนั้นหากยังไม่มีคำพิพากษาก็อาจไม่เข้าข้อห้ามอะไรเลย

ถามว่า เกณฑ์ตั้งรัฐมนตรีจุดตัดเรื่องคุณสมบัติควรอยู่ตรงไหน รวมถึงคนที่มีคดีอยู่ในชั้น ป.ป.ช.จะตั้งหรือไม่ เพราะสุดท้ายคนที่รับผิดชอบคือนายกฯ นายชูศักดิ์กล่าวว่า จุดตัดเป็นเรื่องหาข้อยุติ เพราะยังเป็นเรื่องคาราคาซังอยู่ ส่วนคดีเหล่านี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจว่าสมควรหรือไม่ อันไหนสุ่มเสี่ยง เช่นจริยธรรมและข้อเท็จจริง เหล่านี้ต้องนำมาพิจารณาและใช้ดุลพินิจดู เมื่อไม่มีความแน่นอนก็เป็นปัญหา

เมื่อถามว่า นายกฯ ควรเสี่ยงหรือไม่ สำหรับการตั้งรัฐมนตรีให้คนที่ถูกร้องใน ป.ป.ช. รวมถึงคดีอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ตัดสิน นายชูศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช.เคยตอบว่าโดนร้องก็จริง แต่ยังไม่มีคำวินิจฉัย เมื่อไม่มีคำวินิจฉัยถือว่าเขายังบริสุทธิ์อยู่ ซึ่งเขาเคยตอบมาทำนองนี้ แต่ไม่ได้ชี้ว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่อย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นก็ร้องกันไปกันมา ใครถูกร้องก็เป็นอะไรไม่ได้เลย รอศาลตัดสิน 8-10 ปี เป็นอะไรไม่ได้เลยก็แย่เหมือนกัน

ปชป.มั่นใจไม่ขัดคุณสมัติ

ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หากวันที่ 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ปมคลิปเสียงจะเปิดซักฟอกได้หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่อยากจะมองไปถึงขั้นนั้น ประเด็นนี้ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะสื่อฯ วิจารณ์ไปไกลแล้ว 1 ก.ค. เท่าที่ทราบคำแถลงของศาล มีวาระอื่นๆ ต้องพิจารณาอยู่ อาจจะรับก็ได้ ไม่รับก็ได้ แต่รับแล้วก็ต้องวินิจฉัยว่าจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการต่อเนื่องกัน

"พยานหลักฐานที่นำมาใช้กัน ถามว่าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเกิดจากการแอบอัดคลิปเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ขอถามว่าผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือไม่ ผมว่าผิด เพราะเจ้าตัวไม่ได้ยินยอม ต้องคิดหนักว่าควรหรือไม่ควรว่าศาลจะรับฟังพยานหลักฐานประเภทนี้หรือไม่"

เมื่อถามว่า แต่นายกฯ ยอมรับเป็นคลิปจริง นายชูศักดิ์กล่าวว่า ยอมรับก็ว่าไป แต่หมายความว่าหากจะยึดระบบศาล และกฎหมาย บอกว่าหลักฐานใดๆ ที่ได้มาโดยไม่ชอบ ศาลไม่รับก็มี ถ้าไปดูเนื้อหาแล้ว อะไรที่มันเข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริตบ้างยังไม่มีที่เป็นรูปธรรม ตนก็ว่ายังไม่มี เพราะไม่เข้าข่ายมาตรฐานจริยธรรมที่วางไว้

ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยก่อนประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค กรณีแม้พรรค ปชป.จะมี 25 เสียง และเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่มีเสียงที่สนับสนุนรัฐบาล 21 เสียง และมี 4 เสียงงดออกเสียง แต่ไม่ได้โหวตสวนถือว่าทำผิดข้อบังคับพรรคหรือไม่ ว่ามติพรรคต้องเป็นแนวเดียวกัน ถ้ามติสนับสนุนก็ต้องสนับสนุน ถ้างดออกเสียงถือว่าฝืนมติพรรค

นายเดชอิศม์ชี้แจงเรื่องการประชุม กก.บห.พรรคเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ไม่มีการประชุมร่วมกับ สส.ว่า การเข้าร่วมรัฐบาลหรือถอนตัวจากรัฐบาลต้องประชุมร่วมระหว่าง กก.บห.กับ สส. แต่ขณะนี้เรายังอยู่ร่วมรัฐบาล แต่ใช้ กก.บห.ทบทวนว่าจะร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่ ถ้าไม่ถอนตัวก็ไม่ต้องนัดประชุมร่วม เพราะยังอยู่ร่วมรัฐบาล แต่ถ้าจะถอนตัวถึงจะประชุมร่วม ทั้งนี้ ยอมรับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ได้ส่งรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีให้กับสำนักเลขาธิการ ครม.แล้ว และไม่กังวลกับคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรี เพราะตรวจสอบแล้วไม่ได้มีคดี เป็นแค่กระแส โดยมีการส่งรายชื่อให้ตรวจสอบแล้ว ส่วนจะ 100% หรือไม่ยังไม่ทราบ แต่พรรคมีการตรวจสอบแล้ว และได้มีการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เหมือนกับตนที่ถูกกล่าวหาเรื่อง ป.ป.ช. ยืนยันว่าได้ส่งรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีแล้ว 3 คน โดยไม่มีรายชื่อสำรอง

ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีจะรับตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข และตั้งข้อสังเกตเรื่องคุณสมบัติอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากถูกร้องว่าเกี่ยวโยงกับคดีทำร้ายร่างกายนักธุรกิจที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่ายืนยันว่าไม่กังวลอะไร เพราะตนไม่ได้มีคดีความอะไร จึงมั่นใจในคุณสมบัติของตัวเอง ซึ่งก่อนที่พรรคจะมีการส่งรายชื่อบุคคลไปเป็นรัฐมนตรี เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรค และมีกระบวนการตรวจสอบเบื้องต้นอยู่แล้ว ส่วนที่มีทนายความของผู้เสียหายไปร้องนั้น กระบวนการยุติธรรมมีอยู่แล้ว หากพบว่าใครทำผิดก็ขอให้ดำเนินการได้เลย แต่ขออย่ามุ่งหวังทางการเมือง

ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์กราฟิกรูปคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 2 พร้อมระบุข้อว่า ถ้าแบ่งเค้กเก้าอี้ ครม.อิ๊งค์ 2 ลงตัวนิ่งแล้วตามโผนี้จริง? ขอแนะนำสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำคำวินิจฉัยคดีที่ให้เศรษฐา ทวีสิน พ้นเก้าอี้นายกฯ มาทบทวนอ่านช้าๆ ชัดๆ ให้นายกฯ แพทองธารฟังให้เข้าใจสัก 3 รอบ และควรบรรจงส่งตรวจสอบคุณสมบัติ ประวัติความประพฤติ พฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กกต. สตช. ป.ป.ช. ปปง. ป.ป.ส. สมช. กอ.รมน. ศาลยุติธรรม ช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย จะได้ไม่เกิดประวัติศาสตร์ นายกฯ ตกเก้าอี้ซ้ำรอยอีกครั้ง เพราะเท่าที่การข่าวช่วยตรวจสอบเบื้องต้น

"แว่วข่าวว่าอาจมีเอ๊ะอย่างน้อย 2 คน ที่อาจมีปัญหาที่ต้องตรวจสอบซ้ำให้แม่นยำละเอียดถูกต้องครบถ้วนอีกครับ" นายสมชายระบุ

จี้ถอนร่าง กม.กาสิโน

ที่รัฐสภา นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. กล่าวถึงกรณียื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของวุฒิสภาว่า ในการประชุมวิปวุฒิสภาที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการเพื่อยื่นไปแล้ว อยู่ที่ทาง ครม.จะดำเนินการให้เราเมื่อไหร่ โดยในช่วงที่ยังไม่มีการเปิดสมัยประชุมสภาฯ เราจะใช้กลไกคณะกรรมาธิการในการเรียกเข้ามาให้ข้อมูล ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยประกาศจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ในส่วน สส.ก็คงมีกระบวนการของเขา สำหรับ สว.เรามีมติเอกฉันท์ว่าจะยื่น และตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ไป เราพร้อมเลย ขณะนี้รอเพียงรัฐบาลประสานมาเท่านั้น ทั้งนี้ สว.เข้าไปยื่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ปมจริยธรรมแล้ว ซึ่งก็อยู่ที่องค์กรอิสระจะเป็นคนใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็เคารพคำวินิจฉัยของทั้งสองหน่วยงาน

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเลื่อนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไปก่อน เพราะไม่มั่นใจในเสียงรัฐบาลใช่หรือไม่ว่า นั่นเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ จะเลื่อนขึ้นหรือลงก็มีเหตุผลของเขาในการเสนอให้สภาพิจารณา ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร เมื่อส่งไปสภาแล้วก็ถือว่าขั้นตอนของรัฐบาลจบแล้ว อย่าไปมองผสมปนเปจนแยกบทบาทไม่ออก และเกิดความสับสน เสนอข่าวได้ แต่อาจจะไม่ตรงข้อเท็จจริง สิ่งที่รัฐบาลทำมา เราก็ต้องยืนยันเหมือนเดิม จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้อย่างไร

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงการเลื่อน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรจะกลายเป็นหมันหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่อาจจะต้องมีการพูดคุยสื่อสารกันให้มากขึ้น คงไม่เป็นหมันอยู่แล้ว เพราะกฎหมายยังคงอยู่ในขั้นตอนของสภา การเลื่อนระเบียบวาระ ตนตอบไม่ได้ เพราะยังไม่มีกำหนด เมื่อมีการเลื่อนระเบียบวาระ ก็จะได้เห็นอีกครั้งว่าเลื่อนไปอยู่ตรงจุดไหนในระเบียบวาระ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเข้าอยู่ดี แต่จะเข้าเมื่อไหร่ หากเวลานั้นมาถึง ก็มีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับในสภา และลงมติผ่าน เราก็มีความมั่นใจว่าเรามีเสียงเพียงพอข้างมากในสภาเกินครึ่งไปเยอะพอสมควร เพียงพอต่อการเดินหน้ากฎหมายใดๆ ก็ตาม

ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ วาระพิจารณาวาระประเมินผลกระทบและความคุ้มค่าของนโยบายการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และนายจุลพันธ์ ร่วมชี้แจงและตอบข้อซักถามด้วย โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ข้อเสนอของตนคือหากรัฐบาลรับฟังและเข้าใจข้อทักท้วงจริงๆ ทางออกที่จริงใจกว่าคือการถอนร่างออกไปแล้วนำไปปรับปรุง และหากเสนอไม่ทันในสภาชุดนี้ก็นำกฎหมายดังกล่าวไปรณรงค์หาเสียง ผลเลือกตั้งที่ตามมาก็จะเป็นคำตอบในระดับหนึ่งว่าประชาชนตอบรับมากน้อยแค่ไหน

ขณะเดียวกัน นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร วุฒิสภา แถลงว่า มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลคือ รัฐบาลไม่ทำตามขั้นตอนการเสนอกฎหมาย คือไม่รับฟังความคิดเห็น สร้างความเข้าใจกับประชาชน การกำหนดพื้นที่เพื่อศึกษาผลกระทบในทุกมิติ กมธ.จะนำข้อเสนอ ข้อสังเกตและข้อพิรุธต่างๆ เสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ทันทีที่เปิดประชุมสภาฯ รอบใหม่.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

จุดจบ ‘แพทองธาร’

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แค่ “สาวก” น้าหงา?

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ผลงานชิ้นแรก”

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อย่าปรามาสธรรม .. อย่าประมาทกรรม!!

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

รมว.กต.ยังหวังกัมพูชาเจรจายุติขัดแย้ง ไม่ไปศาลโลก

JS100

ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน วิจารณ์ทรัมป์พยายามบิดเบือนความจริง เรื่องการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์

JS100

หมอเจดเตือน! เม็ดเลือดขาวต่ำ เสี่ยงป่วยง่ายกว่าที่คิด – แผลเล็กก็ลุกลามได้

เดลินิวส์

สลด ฝนตกถนนลื่น หนุ่มวัย 31 ปี ขับกระบะตกร่องถนน ฟาดเสาไฟ ร่างกระเด็นเสียชีวิต

Khaosod

ชายวัย 41 ปีขับขี่รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนซ้ำซ้อน กลางถนนกาญจนาภิเษก ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สวพ.FM91
วิดีโอ

เพลิงไหม้รถยนต์ ใกล้แยกสุรศักดิ์-สาทร ถ.สาทรเหนือ

สวพ.FM91
วิดีโอ

รมว.ยุติธรรม นำฤกษ์วันต่อต้านยาเสพติดโลก ส่งยาเสพติดล็อตใหญ่สู่เตาเผา กวาดล้างทะลุกว่า 100 ตัน

สวพ.FM91
วิดีโอ

รวบ “อ้วนลาย บางซื่อ” หลังรัวปืน ปาระเบิด เปิดศึกถล่มแก๊งอริ วันที่ 26 มิถุนายน 2568

สวพ.FM91

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...