โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘พิชัย’ ยันถกภาษีสหรัฐฯ ไม่มียื่นข้อเสนอเรื่องความมั่นคง โวRate19% หนุนธุรกิจแข่งได้ เร่งแก้ปัญหาสินค้าสวมสิทธิ์

ไทยโพสต์

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘พิชัย’ ยันถกภาษีนำเข้าสหัฐฯ ไม่มียื่นข้อเสนอเรื่องความมั่นคง ปักธงคุยแค่เรื่องการค้า-เศรษฐกิจ มั่นใจ Tariff Rate 19%หนุนธุรกิจไทยแข่งขันได้ พร้อมกางรายละเอียดนำเข้าหมู-พลังงาน-สินค้าเกษตร แต่มีโควตากำหนดชัดเจน ไม่กระทบผู้ประกอบการในประเทศแน่นอน รับไทยเสียเปรียบสินค้าสวมสิทธิ์ โดนภาษี 40%เดินเครื่องเร่งแก้ปัญหา

1 ส.ค. 2568 - นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวว่า ยืนยันว่าการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ นั้น ไม่ได้มีการยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง หรือเรื่องสัมปทานแหล่งก๊าซแต่อย่างใด โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวนั้นให้ว่ากันไปตามกฎเกณฑ์ เพราะในการหารือแต่ละครั้งนั้นทีมเจรจามุ่งเน้นแค่เรื่องเศรษฐกิจและการค้าเป็นหลัก โดยหลังจากนี้จะต้องมีการหารือเพื่อลงในรายละเอียดของส่วนต่าง ๆ ตามข้อตกลงต่อไป แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่จากนี้การส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐฯ จะได้รับอัตราภาษีที่ 19%

ทั้งนี้ เชื่อว่าอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ 19% นั้น จะอยู่ในระดับที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ แต่โจทย์สำคัญของประเทศไทยหลังจากนี้ที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตของไทยถูกลง ซึ่งในส่วนนี้จะมีประโยชน์ใน 2 ส่วนคือ ผู้บริโภคจะได้สินค้าที่ราคาถูกลง และผู้ส่งออกสามารถแข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งยืนยันว่าต่อให้ไม่มีปัญหาเรื่องสหรัฐฯ เข้ามา ประเทศไทยก็ต้องดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องมีการรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ และหลังจากมีการสรุปรายละเอียด ขั้นตอนการทำงานงานทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องรายงานให้สภาฯ ด้วย

“ถามว่าเมื่อเราได้ภาษี 19% แล้วจะช่วยทำให้ตัวจีดีพีปี 2568 มีโอกาสขยายตัวได้เกินเป้าหมายที่ 2.2% หรือไม่นั้น มองว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย เพราะโลกวันนี้เปลี่ยนทุกวัน ผลต่อจีดีพีก็ไม่ใช่เฉพาะผลจากในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีผลจากนอกประเทศด้วย วันนี้มักจะมีเรื่องอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ เข้ามาทุกวัน ก็ต้องดูว่าจะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าตัวที่จะเพิ่มขึ้นได้อย่างถาวรจริง ๆ คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งหมายถึงต้นทุนการผลิตที่สามารถแข่งขันได้ ประเภทสินค้าที่ต้องเป็นที่ต้องการของตลาด สินค้าประเภทที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value Added) เยอะ เน้นการสร้างงานในประเทศไทย ต้องโปรโมทสินค้านั้น ๆ ให้มี Local Content เยอะ ๆ ต้องทรานฟอร์มเอสเอ็มอีให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชน ซึ่งของเก่ามีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นโครงสร้างการผลิตใหม่ เราต้องพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นเยอะที่สุด” นายพิชัย กล่าว

โดยสินค้าสวมสิทธิ์ผ่านทาง (transshipment) นั้น จะถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 40% ซึ่งประเทศไทยจะเสียเปรียบตรงส่วนนี้ ดังนั้นจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไข เพราะสหรัฐฯ ไม่ต้องการเห็นสถานการณ์ในลักษณะนี้ โดยอาจจะต้องมีการกำหนดสัดส่วนสินค้าที่ผลิตในไทยให้ชัดเจน เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยกรมศุลกากรไทยและสหรัฐฯ จะร่วมกันตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าอย่างเข้มงวด และให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดเพียงหน่วยงานเดียว เพื่อแก้ปัญหาสินค้าสวมสิทธิ์ให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหลังจากผ่านไป 1 ปี มาดูกันอีกทีว่ายอดสินค้าสวมสิทธิ์จะลดลงเหลือเท่าไหร่

สำหรับเงื่อนไขในการเจรจานั้น นายพิชัย กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยไม่ได้มีการเปิดเสรีการนำเข้าสินค้าให้สหรัฐฯ ในอัตรา 0% ทุกรายการ ซึ่งสินค้าที่เปิดให้ส่วนใหญ่ก็มีการทำข้อตกลงทางการค้า (FTA) กับประเทศอื่น ๆ ทั่วไปอยู่แล้ว รวมถึงมีการยื่นข้อเสนอว่าไทยจะซื้ออะไรจากสหรัฐฯ บ้าง ไทยจะเข้าไปลงทุนในส่วนใด หรือสหรัฐฯ จะเข้ามาลงทุนอะไรในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่พิจารณากับสิ่งที่เรามีความพร้อม ส่วนตรงไหนที่ไม่พร้อมก็อาจจะไม่ได้เปิดให้สหรัฐฯ เลย หรืออาจจะให้แค่บางส่วน โดยมีข้อกำหนดเรื่องเงื่อนเวลา 3-5 ปี เป็นต้น และหลัก ๆ คือ การหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการแก้ปัญหาและการดำเนินการในส่วนที่ไม่ใช่ภาษี (Non Tariff) มากกว่า

โดยในเรื่องของการไปลงทุนที่สหรัฐฯ นั้น ด้วยความที่ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ก็อาจจะมุ่งเน้นลงทุนในสิ่งที่ถนัด เช่น เกษตรแปรรูป เนื่องจากบางวัตถุดิบก็มีอยู่ที่สหรัฐฯ อยู่แล้ว ตรงนี้ก็เป็นโอกาสที่จะไปลงทุน ส่วนการนำเข้าข้าวโพด เบื้องต้นจะซื้อจากเกษตรกรก่อน ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต 5 ล้านตัน จากความต้องการ 10 ล้านตัน อีกส่วนคือการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากนั้นจะเป็นการนำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งจะมีโควตา โดยกำหนดให้ซื้อผลผลิตในประเทศก่อน เพื่อไม่กระทบเกษตรกร พร้อมส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตในระยะยาว และจำกัดให้เป็นข้าวโพดปลอดการเผาเท่านั้น

ส่วนเรื่องพลังงาน ที่ผ่านมาไทยมีการนำเข้าโดยวิธีการซื้อจากทั่วโลกเพียงอย่างเดียวกว่า 90% หลังจากนี้ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นการซื้อจากสหรัฐฯ 10% หรือ 1.2 แสนบาเรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ไทยใช้น้ำมันดิบ 1.2 ล้านบาเรลต่อวัน เช่นเดียวกับเรื่องก๊าซธรรมชาติ ที่ไทยนำเข้าจะตะวันออกกลางกว่า 50% ตรงนี้สัญญาระยะยาวจะทยอยหมดอายุ ก็อาจจะมาพิจารณาซื้อจากแหล่งที่ต้นทุนถูกกว่า ซึ่งล่าสุดไทยได้ลงนามในสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐฯ 1 ล้านตัน จาก 15 ล้านตันที่จะนำเข้า โดยสัญญาในส่วนนี้จะเริ่มมีผลในปี 2569 รวมถึงอาจจะมีการพิจารณาลงทุนด้านพลังงานในสหรัฐฯ ด้วย

เช่นเดียวกับแผนเรื่องการซื้อเครื่องบิน ซึ่งจากเดิมบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI มีแผนจัดซื้อฝูงบินประมาณ 100 ลำ และที่ผ่านมาได้มีการทยอยซื้อต่อเนื่อง ซึ่งเหลือที่จะต้องมีการซื้ออีก 80-90 ลำ ซึ่งจะเป็นการทยอยดำเนินการตามแผนที่ได้แจ้งสหรัฐฯ ส่วนประเด็นเรื่องการเปิดให้มีการนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ นั้น ยืนยันว่าไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้เปิดทั้งหมด แต่จะเป็นการทดลองตลาดเล็กน้อยเท่านั้น เช่น มีการบริโภคเนื้อหมูในประเทศ 100% ก็อาจจะเปิดให้มีการนำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตราไม่ถึง 1% เท่านั้น และจะมีการออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขเพื่อไม่ให้มีการนำเข้าง่ายจนเกินไป เช่น มีการขอตรวจโรงงานก่อนว่ามีการใช้สารเร่งเนื้อแดงหรือไม่ เป็นต้น

“ถ้าดูจากตัวเลขมูลค่าการนำเข้าที่ไทยเคยนำเข้าจากสหรัฐฯ จะอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านดอลล่าร์ แต่ส่งออกไป 5 หมื่นกว่าล้านดอลลาร์ หลังจากนี้มูลค่าการนำเข้าก็อาจจะปรับเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่เราหวังว่าสิ่งที่นำเข้ามาก็จะการแปรรูปเพื่อส่งออกต่อไปด้วย ซึ่งส่งออกไปก็ต้องได้ราคาแพงกว่า ดังนั้นแม้จะคิดว่าเรามีการนำเข้าเยอะขึ้น แต่เราก็ต้องทำให้มีการส่งออกเยอะตามไปด้วย เพื่อจะช่วยเศรษฐกิจไทยใหญ่ขึ้นด้วย ส่วนเรื่องการเปิดภาษี 0% นั้น ไม่ใช่แค่ภาษีนำเข้าอย่างเดียว แต่จริง ๆ ประเทศไทยยังเรื่องภาษีอื่น ๆ อีกหลายประเภทด้วย” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ระบุ

ส่วนเรื่องหลักเกณฑ์การคำนวณมูลค่าในประเทศ (Regional Value Content : RVC) นั้น ยังไม่จบ ต้องหารือกันต่อ ซึ่งตรงนี้คล้าย ๆ เรื่อง Local Content เพราะเรื่องเหล่านี้ทางสหรัฐฯ อยากเห็นตัวเลขที่สูง ขณะที่ไทยไม่ได้อยากเห็นสูงมากนัก ดังนั้นเรื่อง RVC ที่ยังหารือไม่จบระหว่างนี้ก็อาจจะใช้เกณฑ์เดิม ที่ประมาณ 30-40% ไปก่อน ขณะที่เกณฑ์ใหม่จะมีการเร่งหารือในรายละเอียดเพื่อสรุปข้อตกลงทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ในส่วนของนโยบายเรื่องอัตราดอกเบี้ยจะมีส่วนที่เข้ามาช่วยเสริมเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการหรือไม่นั้น มองว่า เรื่องอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อหลายเรื่อง ทั้งต่อปริมาณเงิน อัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเป็นผู้พิจารณา และที่ผ่านมาได้มีการทำงานใกล้ชิดกันมาโดยตลอด มีการให้ข้อมูลกับทาง ธปท. ไปค่อนข้างเยอะ ก็เชื่อว่า ธปท. จะเห็นสถานการณ์ชัดเจนอยู่แล้วว่าปัจจุบันผู้ส่งออกอยากเห็นอะไรเกี่ยวกับนโยบายการเงิน

รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. การคลัง ยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีนำเข้าไทยที่ 19% และอีกหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกัน ทำให้ไม่มีการเสียเปรียบหรือแตกต่างกันมากนัก ดังนั้นหลังจากนี้ก็จะกลับไปที่การแข่งขันของแต่ละประเทศที่จะต้องมาดูว่าควรจะแข่งขันกันอย่างไร และที่ผ่านมาผู้ประกอบการภาคส่งออกหลายส่วน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีได้ชะลอการส่งออกไปอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อรอความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่หลังจากนี้ก็เชื่อว่าจะมีสัญญาณที่ดีขึ้น เพราะอัตราภาษีดังกล่าวจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป ส่วนสินค้าที่ส่งไปก่อนหน้านั้นจะได้รับอัตราภาษีนำเข้าเดิมที่10% ขณะที่รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบ ทั้งผ่านงบประมาณ และโครงการซอฟท์โลน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือเป็นเงินทุนสำหรับปรับมาตรฐานการผลิต โดยยึดหลักการทำให้เกิดการจ้างงาน โดยเแพาะด้านการก่อสร้างโครงสร้างพืิ้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตในระยะกลางและยาว และต่อยอดขีดความสามารถในการแข่งขันต่อไป ส่วนนักลงทุนต่างชาติที่มีการชะลอแผนลงทุนไปเพื่อรอความชัดเจนก็จะมั่นใจมากขึ้น และเดินหน้าลงทุนตามแผนลงทุนระยะยาว 5-10 ปี เรียกว่าทุกส่วนโล่งอก และสามารถเดินหน้าแผนลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

น้ำท่วมฉับพลันคร่าชีวิตผู้คน 3 รายในเวียดนาม สูญหายอีก 9 คน

18 นาทีที่แล้ว

ภูเขาไฟอินโดนีเซียปะทุอีกระลอก พ่นเถ้าถ่านสูง 10 กิโลเมตร

39 นาทีที่แล้ว

กองทัพของประชาชน

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ชะลอเกณฑ์แต่งตั้งใหม่

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ฮิวแมนิก้า’ ผนึกกำลัง พาณิชยศาสตร์และการบัญชี มธ. เสริมศักยภาพบุคลากรการแพทย์ไทย

MATICHON ONLINE

เอ็มเค บุฟเฟ่ต์ ดึงลูกค้าเก่ากลับมาพุ่ง 370%

Manager Online

กรมส่งเสริมการค้าฯ จับมือ 3 แพลตฟอร์มพันธมิตรโครงการร้าน TOPTHAI บุกอีสาน

เดลินิวส์

Indy Arp Café แฟรนไชส์กาแฟอินดี้ ให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโดยไม่ต้องลองผิดลองถูก

SMART SME

Broker ranking 1 Aug 2025

Manager Online

หอการค้าฯถกร่วมพาณิชย์ ชง 4 ข้อเสนอรับมือผลกระทบภาษีสหรัฐ

The Better

ทรัมป์เรียกร้องให้คณะกรรมการเฟด ถอดถอนพาวเวลล์จากตำแหน่งประธาน

JS100

SET เดือน ส.ค. ลุ้น 1,300 จุด รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...