รถไฟใต้ดินนิวยอร์ก น้ำท่วมซ้ำซาก ต้องรื้อโครงสร้างระบายน้ำทั้งระบบ

เมื่อวันจันทร์ที่ 14 ก.ค. 2025 เกิดพายุรุนแรงจนทำให้เกิด “น้ำท่วม” ภายใน “สถานีรถไฟใต้ดิน” ของ “นิวยอร์กซิตี้” ส่งผลให้การเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนต้องหยุดชะงัก เนื่องจากน้ำไหลทะลักเข้าสู่ชานชาลาและรถไฟ และในสถานีหนึ่ง น้ำพุ่งขึ้นมาจากท่อระบายน้ำราวกับน้ำพุ

สถานีรถไฟใต้ดิน 20 สถานีถูกปิดให้บริการ ขณะที่อีก 16 สถานีเกิดความล่าช้าหรือปิดให้บริการบางส่วน เนื่องจากฝนตกหนัก ด้วยเหตุนี้ทำให้โครงสร้างสถานีบางแห่งได้รับความเสียหาย แต่บางสถานีไม่ได้รับความเสียหายมากนัก จึงแสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันที่ไม่อาจคาดการณ์ได้และเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ในเมือง

สำนักงานควบคุมระบบขนส่งมวลชนมหานครนิวยอร์ก (MTA) ให้บริการสถานีรถไฟใต้ดิน 472 แห่ง และสถานีรถไฟ 21 แห่งบนเกาะสแตเทนไอส์แลนด์ ระบุว่า แม้จะมีเหตุการณ์ที่น่าตกใจ แต่ระบบยังคงใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการให้บริการรถไฟใต้ดิน รถประจำทาง และรถไฟโดยสารก็กลับมาเป็นปกติในเช้าวันที่ 15 ก.ค.

ระบบรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กเปิดใช้มานานกว่าร้อยปีแล้ว ช่วยเชื่อมโยงย่านต่าง ๆ ของเมืองเข้าด้วยกัน ทำให้ในแต่ละวันมีผู้โดยสารใช้บริการหลายล้านคนแต่ระบบโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟใต้ดินก็มีปัญหาสะสมมายาวนานที่แก้ไม่ได้เสียที และในตอนนี้ปัญหายิ่งแย่ลง เมื่อเกิดฝนตกหนักและบ่อยครั้งขึ้นอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

แม้ MTA จะทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับรับมือกับสภาพภูมิอากาศแล้ว แต่ยังไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาน้ำท่วมรถไฟใต้ดินที่เห็นผลได้ชัดเจน และอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ เพื่อให้รถไฟใต้ดินรอดพ้นจากน้ำท่วม ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการคมนาคมกล่าว

เหตุการณ์น้ำท่วมรถไฟใต้ดินนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2025

รถไฟใต้ดินเกิดน้ำท่วมได้อย่างไร?

น้ำท่วมฉับพลันรุนแรงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นผิวกันน้ำ เช่น ยางมะตอยและคอนกรีต จำนวนมากจนทำให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำไม่ได้ และในนิวยอร์กซิตี้ ท่อระบายน้ำเหล่านั้นนำไปสู่ระบบท่อและอุโมงค์ใต้ดินที่แออัดและเก่าแก่ ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับพายุในศตวรรษที่ 21

“พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่สุด 5 ครั้งในประวัติศาสตร์ของนิวยอร์กซิตี้เกิดขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา” โรหิต อักการ์วาลา หัวหน้าฝ่ายสภาพภูมิอากาศของเมืองนิวยอร์กกล่าว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึง 2.64 นิ้วในเซ็นทรัลพาร์ค ทำลายสถิติเดิมของปริมาณฝนประจำวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งเคยทำไว้ในปี 1908 ที่ 1.47 นิ้ว

ตามข้อมูลของกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเมือง ระบุว่า ประมาณ 60% ของนครนิวยอร์กมีระบบท่อระบายน้ำรวมเป็นท่อเดียว ซึ่งระบบท่อระบายน้ำของเมือง มีอายุมากกว่า 100 ปี เช่นเดียวกับรถไฟใต้ดิน โดยจะทำหน้าที่ลำเลียงทั้งน้ำฝนที่ไหลบ่าและน้ำเสีย สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้เพียงประมาณ 1.75 นิ้วต่อชั่วโมง และพายุในวันจันทร์ก็เกินกว่านั้นมาก

แถมช่องและรูทั้งหลายในสถานีรถไฟใต้ดิน ตั้งแต่บันไดไปจนถึงปล่องลิฟต์ ล้วนเป็นช่องทางให้น้ำฝนไหลเข้าได้ทั้งสิ้น แค่เฉพาะตะแกรงระบายอากาศในรถไฟใต้ดินก็มีมากถึง 39,000 อัน และหลายอันต้องปิดด้วยมือ แม้ว่า MTA กำลังพัฒนาระบบปิดอัตโนมัติสำหรับช่องระบายอากาศเหล่านี้ แต่ก็ต้องใช้จ่ายสูง โดยจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มอีก 6,000 ล้านดอลลาร์ ในการปรับปรุงความทนทานต่อสภาพอากาศ ซึ่งขณะนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนเพียงบางส่วนเท่านั้น

“สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ไม่มีอะไรซับซ้อน ท่อต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำที่น้อยกว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาจำนวนมาก” อักการ์วาลากล่าว

ยานโน ลีเบอร์ หัวหน้าหน่วยงาน MTA กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกหนัก น้ำให้มีน้ำสีน้ำตาลพวยพุ่งออกมาจากฝาปิดท่อระบายน้ำในสถานีถนนสายที่ 28 บนถนนเซเวนธ์อเวนิว น้ำท่วมรุนแรงขึ้นเนื่องจากขอบทางเท้าที่เตี้ย ทำให้น้ำไหลบ่าจากถนนที่ถูกน้ำท่วมเข้าสู่สถานี

ดร.เคลาส์ เจคอบ นักธรณีฟิสิกส์และศาสตราจารย์กิตติคุณประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ผู้เคยทำงานร่วมกับเมืองในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมรถไฟใต้ดิน กล่าวเสริมว่า หน่วยงาน MTA ได้พยายามป้องกันน้ำท่วมชายฝั่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถป้องกันน้ำฝนไม่ให้ขังในจุดต่ำอื่น ๆ ภายในเขตเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหานี้เป็นปัญหาเฉพาะในบางพื้นที่ที่มีระดับน้ำสูงและต่ำ เช่น ตามแนวถนนบรอดเวย์ในย่านบรองซ์และแมนฮัตตัน ใกล้กับรถไฟสาย 1, 2 และ 3

นอกจากนี้ ระบบรถไฟใต้ดินบางส่วนยังมีระดับน้ำต่ำกว่าระดับน้ำใต้ดิน ทำให้หน่วยงาน MTA ต้องสูบน้ำจากอุโมงค์วันละ 10-13 ล้านแกลลอน แม้ในช่วงที่อากาศแห้ง เพื่อให้น้ำไหลลงสู่ท่อระบายน้ำและโรงบำบัดน้ำเสียของเมือง แต่ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการสูบน้ำออกไปมากกว่า 15 ล้านแกลลอน

เหตุการณ์น้ำท่วมรถไฟใต้ดินนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2025

ทุ่มงบแก้ปัญหาน้ำท่วม

หน่วยงาน MTA และกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระบุว่า โครงการริเริ่มสำหรับปรับปรุงท่อใต้ดินและอุโมงค์รถไฟใต้ดินของเมืองจะมีค่าใช้จ่ายหลายพันล้านดอลลาร์และต้องใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะเสร็จ โดยโครงการท่อระบายน้ำที่สำคัญที่สุดจะมีค่าใช้จ่ายถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่งบประมาณประจำปีสำหรับโครงการท่อระบายน้ำอยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

นับตั้งแต่ซูเปอร์พายุแซนดี้ในปี 2012 ส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งมวลชนในภูมิภาค หน่วยงาน MTA ได้ลงทุน 7,600 ล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างสถานี เช่น การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้สูงขึ้นจากพื้นดิน เสริมความแข็งแกร่งให้กับทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน และอุดรอยรั่ว 8,200 จุด

แต่เมื่อพายุเฮอริเคนไอดาพัดถล่มนิวยอร์กซิตี้ในปี 2021 ก็ทำให้คนในเมืองตระหนักได้ว่า ฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมได้บ่อยครั้ง ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะโลกร้อน ทำให้อากาศอุ่นสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น จึงทำให้พายุที่รุนแรงได้มากขึ้น

ในเดือนเม.ย. 2025 ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เคธี่ โฮชูล อนุมัติแผนลงทุน 5 ปี มูลค่า 68,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่ MTA ซึ่งรวมถึงงบประมาณหลายร้อยล้านดอลลาร์ เพื่อปกป้องรถไฟใต้ดินจากสภาพอากาศเลวร้าย โดย MTA จัดสรรงบประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ จนถึงปี 2029 เพื่อปรับโครงสร้างของสถานีให้แข็งแรงทนทาน ทั้งในระดับถนนและภายในสถานีรถไฟใต้ดิน รวมถึงการยกบันไดและช่องระบายอากาศใกล้ทางเข้า ที่น้ำจะสามารถไหลเข้าได้ พร้อมปรับปรุงห้องสูบน้ำมากกว่าสิบห้องทั่วเมือง

ส่วนกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงระบบท่อระบายน้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น โครงการมูลค่า 390 ล้านดอลลาร์ในบรูคลิน โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว และการทำความสะอาดท่อระบายน้ำฝน 150,000 แห่งของเมือง

เคท สเลวิน รองประธานบริหารของสมาคมวางแผนภูมิภาค องค์กรคลังสมองด้านการวางผังเมือง กล่าวว่า พายุในวันจันทร์ถือเป็นสถานการณ์น้ำท่วมจากฝนในระดับปานกลาง โดยจากการวิเคราะห์ของสมาคม พบว่าพายุที่รุนแรงกว่านี้ คาดว่าทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินเกือบ 20% จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในปีนี้ แต่ผู้สมัครบางคนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารเกี่ยวกับความเสี่ยงจากน้ำท่วมและวิธีที่เมืองควรจัดการ

สมาชิกสภานิติบัญญัติโซห์ราน มัมดานี ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครต กล่าวบนโซเชียลมีเดียว่า “เราต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของเราเพื่อรองรับสถานการณ์สภาพภูมิอากาศแบบใหม่นี้”

ขณะที่ อดีตผู้ว่าการรัฐแอนดรูว์ เอ็ม. คูโอโม ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะผู้สมัครอิสระ กล่าวว่าโครงการเสริมสร้างความยืดหยุ่นเพื่อการปรับตัวและฟื้นฟูของ MTA ควรมีความสำคัญในการเจรจาแผนการลงทุน และควรได้รับการจัดการอย่างรวดเร็วจนแล้วเสร็จ

เคอร์ติส สลิวา ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน กล่าวโทษการพัฒนาที่ไร้ความรอบคอบ ซึ่งยิ่งแย่ลงไปอีกจากแผนที่อยู่อาศัย “เมืองแห่งการเห็นด้วย” ของนายกเทศมนตรีเอริก อดัมส์ และกล่าวว่าเขาจะใช้ “ทุกอำนาจเพื่อผลักดันให้เกิดความรับผิดชอบอย่างแท้จริง”

ในการแถลงข่าว อดัมส์ ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะผู้สมัครอิสระ ได้เตือนชาวนิวยอร์กว่าน้ำฝนเป็นภัยคุกคามมากกว่าแค่รถไฟใต้ดิน “น้ำท่วมฉับพลันสามารถท่วมถนน บันได และห้องใต้ดินได้ภายในไม่กี่นาที โดยบ่อยครั้งแทบไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ”

ที่มา: BBC, The Guardian, The New York Times