น้ำท่วมใหญ่ “ปักกิ่ง” รุนแรงสุดในรอบ 13 ปี สั่งอพยพด่วนกว่า 70,000 คน
เมื่อวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2568 ทางการกรุงปักกิ่งได้อพยพประชาชนมากกว่า 70,000 คน โดยเฉพาะในเขตเหมินโถวโกว ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงเขาทางตะวันตกของเมือง มีผู้อพยพแล้วเกือบ 14,000 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศยกระดับเตือนภัยสูงสุดในทั้ง 16 เขตทั่วเมือง เตรียมรับมือฝนตกหนักรอบใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมง
กรมอุตุนิยมวิทยาจีนเตือนว่า พื้นที่บางส่วนของกรุงปักกิ่งอาจเผชิญฝนตกสูงถึง 200 มิลลิเมตร ภายในระยะเวลาเพียง 6 ชั่วโมง โดยเมืองหลวงของจีนที่มีประชากรราว 22 ล้านคน มักได้รับฝนเฉลี่ยราว 600 มิลลิเมตรต่อปี นับว่าเป็นปริมาณที่สูงผิดปกติอย่างยิ่งในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้
โดยฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงวันที่ 23-29 กรกฎาคม ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนในกรุงปักกิ่งแล้วอย่างน้อย 44 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านพักคนชราในเขตมี่หยุน บริเวณชานเมืองตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถูกน้ำท่วมฉับพลัน ทางการจีนยอมรับว่า แผนการรับมือภัยพิบัติยังมีจุดบกพร่องที่ต้องเร่งปรับปรุง
ขณะเดียวกัน หน่วยงานท้องถิ่นกำลังเร่งเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทรุดโทรม ปรับปรุงระบบพยากรณ์อากาศ และอัปเดตแผนอพยพใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเหตุสุดวิสัย โดยมีการสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวกลางแจ้งหลายแห่ง รวมถึงบางส่วนของกำแพงเมืองจีน และระงับการดำเนินงานของธุรกิจใต้ดินชั่วคราว
นอกจากกรุงปักกิ่ง เหตุการณ์น้ำท่วมยังลามไปถึงพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เมืองเฉิงเต๋อ มณฑลเหอเป่ย ที่ตั้งของรีทรีทสุขภาพชื่อ “Beijing Valley” ริมแม่น้ำ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 40 คน เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม โดยผู้จัดงานได้ตั้งเต็นท์บริเวณที่ลุ่มติดแม่น้ำ แต่หลังจากฝนตกหนัก น้ำได้เอ่อล้นถึงระดับหัวเข่าในช่วงกลางดึก ทำให้ผู้เข้าร่วมต้องหนีตายอย่างอลหม่าน จนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย และสูญหายอีก 4 รายในพื้นที่ดังกล่าว ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน
ในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ยังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย หลังถูกกระแสน้ำพัดหายไปเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีการระดมเจ้าหน้าที่กว่า 1,300 นายในการค้นหา
สำหรับปักกิ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2555 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 79 ราย โดยเฉพาะในเขตฝางซาน และผู้เชี่ยวชาญระบุว่าลักษณะภูมิประเทศของปักกิ่งที่มีภูเขาล้อมรอบทางทิศตะวันตกและเหนือ อาจทำให้กลายเป็น “กับดักฝน” ซึ่งส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนในบางจุดพุ่งสูงอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดพายุ และทางการจีนเตือนว่าขณะนี้ความเสี่ยงของน้ำหลากฉับพลันและดินถล่มอยู่ในระดับ "สูงมาก" และจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง