“อุ๊งอิ๊งค์” ร่วมประชุมเพื่อไทย ลั่นไม่หวั่นแรงเสียดทาน ขอต่อสู้เต็มที่เพื่อคืนความชอบธรรม ประกาศพร้อมลุยทุกนโยบายผ่าน ครม.ชุดใหม่
“อิ๊งค์” ร่วมประชุมเพื่อไทย ลั่นไม่หวั่นแรงเสียดทาน ขอต่อสู้เต็มที่เพื่อคืนความชอบธรรม ประกาศพร้อมลุยทุกนโยบายผ่าน ครม.ชุดใหม่
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ฐานะรักษาการนายกฯ , นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรองหัวหน้าพรรค , นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม เข้าประชุมพรรคในครั้งนี้ด้วย โดยเพื่อนสมาชิกได้มอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายกฯ
จากนั้นเวลา 16.10 น.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงภายหลังการประชุม สส.พรรคว่า ท่านนายกฯ ให้ความมั่นใจกับ สส.ในฐานะสมาชิกพรรคว่าเรายังเดินหน้าทำงานอย่างเข้มข้นต่อ ท่านนายกฯ ยังมีกำลังใจที่ดี ให้ความมั่นใจกับสมาชิกพรรคว่ามีเจตนาในการดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ และจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อคืนความชอบธรรมกลับมาให้เราสามารถดำเนินการ และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ในระหว่างนี้ไม่ต้องมีความกังวลเพราะเรามีรองนายกฯ ที่รักษาการนายกฯ ในการดำเนินนโยบายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และให้คำมั่นกับเพื่อน สส.ทุกกท่านว่าเวลานี้เป็นเวลาของการส่งมอบนโยบายของพรรคถึงมือพี่น้องประชาชน ด้วยความที่เราสามารถตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้แล้ว เป็นจังหวะที่ดีที่เราจะใช้กลไกในฝั่งบริหารทั้งหมด เพื่อผลักดันนโยบายที่ยังติดขัดอยู่ของพรรคเพื่อไทยให้ถึงมือพี่น้องประชาชนให้ได้ โดยเพื่อนสมาชิกยังเชื่อมั่นและมั่นใจว่าท่านนายกฯ จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้และสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด
นายชนินทร์ กล่าวกรณีการวิพากษ์วิจารณ์การตั้งคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ทำให้เราไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ เป็นรัฐบาลเป็ดง่อยว่า การตั้งคณะรัฐมนตรีชุดนี้แต่งตั้งมาเป็นเวลาหนึ่งถึงสองสัปดาห์ รัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมามีการขับเคลื่อนงานสองฝั่งไปพร้อมกัน คือฝั่งบริหารและฝั่งนิติบัญญัติในส่วนของฝั่งบริหารตั้งแต่ได้รับโปรดเกล้าฯ การดำเนินการของฝ่ายบริหารเป็นอย่างเป็นรูปธรรม มีการทำงานที่รวดเร็วมากขึ้น ไม่มีการกีดกัน ขวางหรือสร้างอุปสรรคระหว่างกัน คณะรัฐมนตรีชุดใหม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรมเต็มที่ สังเกตได้จากการแถลงข่าวหรือผลงานในช่วงที่ผ่านมา เราสามารถดำเนินนโยบายจัดการปัญหา อาทิ กัญชา การจัดการกับยาเสพติดได้อย่างเข้มข้น และในวันนี้เราได้มีการขับเคลื่อนต่อในเรื่องของการจัดการอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ ที่เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เราต้องการดำเนินการอย่างเข้มข้น สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีภายใต้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และเราคาดหวังว่าภายในระยะเวลาหนึ่งถึงสองเดือนนี้เราจะเห็นการดำเนินการอย่างเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งมอบนโยบายดีๆ ตามคำมั่นสัญญาของพรรคเพื่อไทยให้กับพี่น้องประชาชน
"จากปัญหาที่บอกว่าเราไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ เพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำหรือเกินครึ่งไม่มากนั้น เรื่องนี้ได้มีการกำชับกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคผ่านกลไกของวิปรัฐบาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา และในวันที่ 9 ก.ค. เราจะดำเนินการเพื่อรักษาองค์ประชุมอย่างเข้มข้นเพราะการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลนอกเหนือจากของฝ่ายบริหารแล้ว ฝั่งนิติบัญญัติซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรก็มีความสำคัญเช่นกัน เราเชื่อมั่นว่าเราจะรวบรวมเสียงของทุกพรรคการเมืองในฝั่งของรัฐบาลมาเป็นองค์ประชุม และสามารถดำเนินนโยบายของฝั่งนิติบัญญัติควบคู่กันได้อย่างลุล่วง"
นายชนินทร์ กล่าวว่า ในการประชุมสภาวันที่ 9 ก.ค.จะมีการพิจารณาหลายเรื่อง โดยจะมีการยื่นถอนวาระร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ออกจากการพิจารณาของสภาฯ ซึ่งเรื่องนี้อเสนอจากกระทรวงการคลังในการขอถอนวาระตัวนี้ออกจากการพิจารณาของสภาฯ ไปก่อน ซึ่งตามข้อบังคับการประชุม วาระใดๆ ที่บรรจุไปแล้วการถอนต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลมีมติของวิปรัฐบาลไปแล้วว่าเราเห็นชอบให้มีการถอนเรื่องนี้ เพื่อให้มีการพิจารณากันให้ถี่ถ้วนมากขึ้น สืบเนื่องจากที่เรามีการตั้งรัฐมนตรีชุดใหม่ ดังนั้นเราคาดหวังว่ากฎหมายที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีและเป็นที่ถกเถียงกันในสังคม น่าจะมีโอกาสให้คณะรัฐมนตรีที่เข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ได้พิจารณา และหาข้อสรุปในคณะรัฐมนตรีครั้งหนึ่ง ว่าจะดันกลับเข้ามาบรรจุในวาระใหม่หรือไม่ หรือจะนำกลับมาเมื่อไหร่
“การถอนครั้งนี้ไม่ใช่การถอนแบบมีกรอบระยะเวลา และถอนออกไปก่อนเพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง และจะดำเนินการอย่างไรก็จะเป็นแนวทางของฝั่งคณะรัฐมนตรีจะเสนอกลับเข้ามาที่สภาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับพรรคร่วมรัฐบาลที่เรียกร้องให้รัฐบาลถอนกฏหมายนี้ออกไปก่อน ซึ่งในฝั่งของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลเราค่อนข้างมั่นใจว่าการดำเนินการเพื่อถอนเรื่องนี้ จะไม่มีปัญหาในสภาฯ และจะดำเนินการได้อย่างราบรื่น” นายชนินทร์ กล่าว
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะมีการยืนยันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กฎหมายฉบับนี้เราเคยเสนอในนามพรรคเพื่อไทยและเข้าสู่การพิจารณาของสภาผ่านวาระหนึ่ง วาระสองและวาระสามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ฉันทามติร่วมกันในสภาฯ เมื่อถูกปรับแก้ในชั้นวุฒิสภาและเมื่อส่งกลับมาที่สภาฯ ก็มีความเห็นแย้ง ทำให้สภาไม่สามารถหาข้อยุติได้ สว.ส่วนมากรวมทั้งสมาชิกจากพรรคการเมืองบางพรรคที่เห็นต่างเรื่องของการคงไว้ของการปลดล็อคระบบเสียงข้างมากสองชั้น ทำให้สภาจำเป็นต้องค้างร่างนั้นไว้ 180 วันตามข้อบังคับ ซึ่งขณะนี้ครบตามกรอบเวลาแล้วก็จะมีการเสนอญัตติ เพื่อนำเรื่องนี้กลับขึ้นมาพิจารณาและยืนยันอีกครั้ง ซึ่งในวันที่ 9 ก.ค.พรรคเพื่อไทยจะได้มีการขอเสนอเพื่อเลื่อนญัตตินี้ให้มาเป็นเรื่องด่วนเรื่องแรก ซึ่งเราคาดหวังว่าหากเลื่อนญัตติเรียบร้อยโดยไม่มีการขัดแย้งกัน ก็จะได้นำไปสู่การพิจารณาเรื่องการยืนยันร่าง พ.ร.บ.ประชามตินี้ในการพิจารณาสัปดาห์หน้า หลังผ่านการพิจารณาร่างที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะพิจารณาในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกันสี่ร่าง อาจจะมีการเสนอเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งร่างของพรรคภูมิใจไทยที่ประกบร่วมเข้ามาเป็นห้าร่าง และจะเปิดให้สภาฯ มีการถกเถียงกันและลงมติที่จะรับหลักการ นำไปสู่การตั้งกรรมาธิการฯ และลงรายละเอียดในเรื่องของการออกกฏหมายนิรโทษกรรมต่อไป หรือครอบคลุมในประเด็นไหนบ้าง
#เพื่อไทย #แพทองธาร #ประชุมสส #ครมใหม่ #กัญชาเสรี #ยาเสพติด #ถอนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ #พิจารณาประชามติ #นิรโทษกรรม #ข่าวการเมือง #สภาผู้แทนราษฎร