"รังษี" ไม่ชี้ใครเป็นไส้ศึกให้ดูพฤติกรรมเอา มั่นใจ "ฮุน เซน" มีแบ๊กอัป

ความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (4 ส.ค. 68) มีการประชุมทวิภาคี GBC เริ่มขึ้นแล้ว โดยเป็นวงประชุมของเลขานุการ ก่อนที่ในขั้นต่อไป พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ จะบินไปประชุมในวันที่ 7 ส.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 วันนี้ มีกระแสข่าวลือว่าประเทศไทยมี “ไส้ศึก” โดยมีผู้มีอำนาจท่านหนึ่งโทรมาสั่งทหารว่าให้ถอย ห้ามปะทะ ก่อนไปเซ็นข้อตกลงหยุดยิงที่มาเลเซีย ทำให้ไทยเสียโอกาสได้ปราสาทตาควายคืนมา รวมถึงมีพื้นที่อีกหลายจุดในกรณีเดียวกัน ทำให้ทหารไทยเสียโอกาสในการปิดเกม

ซึ่งคนที่ออกมาเปิดประเด็นนี้เป็นคนแรก ๆ คือ พล.อ.รังษี กิจิญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจและอดีตที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 ซึ่ง พล.อ.รังษี ได้ให้รายละเอียดถึงประเด็นดังกล่าวในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk ไว้อย่างน่าสนใจ

ไม่ชี้ใครเป็นไส้ศึก แนะดูพฤติกรรมเอาเอง

พล.อ.รังษี กล่าวว่า แจ้งไว้ก่อนว่า ตนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร และไม่ได้บอกว่าสถานการณ์ไหน เพียงแต่บอกว่ามีคนโทรศัพท์สั่งให้ทหารห้ามปะทะ พอตนทราบเรื่องนี้ก็ไม่สบายใจ และเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศรับทราบพร้อมกับคำจำกัดความทั้งหมดว่าพฤติการณ์ใดเข้าข่ายคำว่า “ไส้ศึก” และ “คนขายชาติ” อยากให้ประชาชนและสื่อดูว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไร

ตนบอกว่าในช่วงแรกของการปะทะ มีผู้มีอำนาจโทรมาสั่งทหารห้ามปะทะ ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณที่ตนมองว่าแปลก เพราะเป็นไปไม่ได้ว่าจะให้เขายิงเราฝ่ายเดียว ซึ่งเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็สงสัยเช่นเดียวกัน ฝั่งเราก็เน้นการเจรจาและสันติท่องเป็นบทอาขยาน ทำให้เกิดความสงสัยให้กับคนทั้งประเทศ

พล.อ.รังษี กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนเริ่มไปหาข้อมูล จึงได้ข้อมูลนี้มา คลายความสงสัย และมั่นใจว่าข่าวที่ตนได้มาเป็นจริง การที่ตนออกมานั้นเพราะประเทศไทยอยู่ท่ามกลางวิกฤติของสงครามและมีเรื่องแปลกอยู่หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นต่างชาติที่เข้ามาเกี่ยวข้องถึง 4 ชาติ ทั้ง จีน ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ ที่ออกมาแถลงว่าอยากให้เกิดสันติภาพ อยากให้หยุดยิง

มั่นใจ “ฮุน เซน” มีแบ๊กอัป - คนไม่ได้เป็นไส้ศึก ไม่ต้องตื่นเต้นอะไร

พล.อ.รังษี กล่าวว่า การที่ฮุน เซน กล้าเหิมเกริม ทั้งที่รู้ว่าไม่มีอะไรสู้เราได้ แสดงว่าต้องมีแบ๊กอัปแน่นอน และมีการปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอน ยั่วยุ เอาคนมาร้องเพลง ขุดคูเลต กลบคูเลต ก่อนที่จะปะทะ เจรจาหยุดยิงก็ยังยิงต่อ ไม่ปฏิบัติตามกติกา แต่ก็กล้าทำ แสดงว่าเขาต้องมั่นใจ

ส่วนกระแสที่ถูกมองว่าเป็นการพาดพิง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐบาล ที่ออกมาบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของชาติ จะพูดแบบนี้ไม่ได้นั้น พล.อ.รังษี กล่าวว่า ตนไม่ได้กล่าวว่าใคร ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่ากินปูนร้อนท้อง คนที่ไม่ได้ทำก็ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นอะไร

ตนยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เช็กข้อมูลมาแล้ว ไม่มีนิสัยเต้าข่าว แต่บอกแหล่งข่าวไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครกล้าพูดอะไรกับตน และตนไม่ใช่คนปากโป้ง กล่าวหาใคร

พล.อ.รังษี กล่าวว่า ตนอยากให้คนที่ติดตามจับตาดูพฤติกรรมคนพวกนี้ เพราะเชื่อว่าไม่ช้าคนพวกนี้จะออกมาทำงานอีก

ปัดเรียกคะแนนการเมือง ยืนยันเช็กข้อมูลแล้ว

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าการที่ตนออกมาพูดนั้นเป็นการเรียกคะแนนการเมือง พล.อ.รังษี กล่าวว่า การที่ตนมาพูดนั้นเสี่ยง ถ้าโกหกหรือไม่เป็นจริงตนจบในทุกแวดวง รับราชการมาถึงขนาดนี้แล้ว รู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำ ที่ตนพูดเพราะวันนี้มีศึกนอก และการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา ถ้าเดินพลาดจะเดือดร้อนทั้งประเทศ และพร้อมรับผิดชอบ

พล.อ.รังษี กล่าวว่า ข่าวที่ตนได้มาเป็นข่าวที่ยืนยันและดับเบิลเช็กแล้ว ทำตามขั้นตอนการพิจารณาข่าวกรอง การที่เราไปประชุมหยุดยิงที่มาเลเซีย ถือเป็นจุดผกผันของสงคราม เพราะตอนนั้นไทยได้เปรียบ คนที่ยอมเจรจานั้นถือเป็นคนเสียเปรียบในสนามรบ

ซึ่งคนที่เริ่มประเด็นนี้คือ ฮุน มาเนต ซึ่งจบ West Point มีเพื่อนทำงานอยู่กับคณะทำงานของทรัมป์ โดยใช้ช่องทางนี้ช่วยดีลข้างหลังกับทรัมป์ ถึงเกิดการติดต่อขึ้น กลับกันหากกัมพูชากำลังได้เปรียบ ทรัมป์จะโทรมาหรือ เพราะเราไม่เคยคิดขอความช่วยเหลืออเมริกาอยู่แล้ว

พล.อ.รังษี กล่าวว่า หลายอย่างนั้นสอดคล้องกัน ไม่ใช่ตรวจสอบมั่วซั่ว เพราะจะเสียเครดิตประวัติการทำงานของตน เช็กได้เลยว่าตนเป็นคนเฮงซวยหรือไม่

ซึ่งการที่เราไปเจรจานั้น ทำให้กัมพูชาสามารถตั้งตัวติด และการเจรจา GBC ที่มาเลเซียนั้น เป็นผลต่อเนื่องของการหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ต้องถามว่า พอหลังจากเที่ยงคืน มีการนำกองกำลัง BHQ ไปยังปราสาทตาควาย กัมพูชาได้เวลาพักกี่วัน สมมติเวลานั้นเรามี ผบ.ทบ. หน่อมแน้ม รับสถานการณ์ไม่ได้ ถ้ากัมพูชาตีทะลุปราสาทตาควายเข้ามา อะไรจะเกิดขึ้น

แฉกัมพูชาซื้อโดรน 10,000 ลำ เตรียมใช้กับไทย

พล.อ.รังษี กล่าวว่า การที่กัมพูชาส่งโดรนมานั้นมีอยู่ 2 เหตุผล เหตุผลแรกคือ ต้องการปั่นป่วน สร้างความกลัวให้กับคน ซึ่งคนมีการอพยพออกมาตามศูนย์อพยพต่าง ๆ แล้ว และไม่กล้ากลับบ้าน พอคนเยอะการดูแลลำบาก รัฐบาลก็จะโดนบีบ ซึ่งเขาต้องการบีบให้ไทยวุ่นวายเพื่อดึงกลับไปที่โต๊ะเจรจา

ตนได้ข่าวมาว่า กัมพูชาสั่งซื้อโดรนมาประมาณ 10,000 ลำ เป็นโดรนลาดตระเวนและโดรนทิ้งระเบิด เป้าของเขาคือต้องการทำสงครามเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ รอบหน้าถ้าเขามา จะมีการใช้โดรนอีกเยอะ บ่งบอกได้ว่าเขาจะเล่นเกมยาวกับเรา

พล.อ.รังษี กล่าวต่อว่า ไทยตามหลังฮุน เซน ตลอด ฮุน เซน เป็นคนเปิดเกม ไทยเดินตาม ซึ่งจริง ๆ ทำแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งยื้อนาน เรายิ่งเสียหายเยอะกว่าเขา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชช. แห่บริจาคสิ่งของ - มาสก์นับแสน กันกลิ่นศพทหารเขมรชายแดนไทยกัมพูชา

ศบ.ทก. ชี้ปล่อยทิ้งศพให้เน่าเปื่อย เสี่ยงแพร่กระจายเชื้อโรค ละเมิดมนุษยธรรม

แรงงานกัมพูชาแห่ขนของกลับบ้าน หลัง ฮุน เซน ขู่ยึดที่ดินหากไม่ยอมกลับ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "รังษี" ไม่ชี้ใครเป็นไส้ศึกให้ดูพฤติกรรมเอา มั่นใจ "ฮุน เซน" มีแบ๊กอัป

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

- Website : https://www.pptvhd36.com