โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ภาษีทรัมป์แยก ‘เวียดนาม’ ออกจาก ‘จีน’ ได้จริงหรือ? เมื่อฐานผลิตขาดจีนไม่ได้

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สำนัหข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เม็ดเงินลงทุนจากจีนยังคงไหลเข้าสู่ฐานการผลิตโลกอย่าง "เวียดนาม" อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์ทางการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ ยังคงร้อนระอุ เมื่อท่าทีของ ”โดนัลด์ ทรัมป์“ ประธานาธิบดีสหรัฐและ “ปีเตอร์ นาวาร์โร” ที่เคยออกมาเตือนว่า หาก เวียดนามซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ ยังคงพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากจีนมากเกินไป ก็อาจต้องเผชิญกับกำแพงภาษีนำเข้าจากอเมริกาที่สูงขึ้น

ถึงขนาดที่นาวาร์โรเคยให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อเดือนเมษายนว่า เวียดนามนั้นเปรียบเสมือน "อาณานิคมของจีนคอมมิวนิสต์"

ทว่าสถานการณ์กลับพลิกผัน เมื่อทรัมป์ประกาศข้อตกลงภาษีนำเข้ากับเวียดนามในเดือนก.ค. โดยกำหนดภาษีที่ 20% สำหรับสินค้าเวียดนาม และ 40% สำหรับสินค้าที่ต้องสงสัยว่าส่งผ่านมาจากประเทศอื่น เช่น จีน ซึ่งยังคงทำให้เวียดนามได้เปรียบเมื่อเทียบกับจีนที่เผชิญภาษีสูงถึง 55%

เม็ดเงินจีนยังคงหลั่งไหลเข้า ‘เวียดนาม’

แม้จะมีความไม่แน่นอนเรื่องภาษี แต่เงินทุนจากจีนกลับหลั่งไหลเข้าสู่ภาคการผลิตทางตอนเหนือของเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ จังหวัดบั๊กนิญ ซึ่งเป็นศูนย์กลางอิเล็กทรอนิกส์สำคัญ กิจกรรมจากบริษัทจีนที่นี่คึกคักอย่างมาก

บั๊กนิญกำลังคึกคักไปด้วยกิจกรรมจากบริษัทจีน โดย มี ตรินห์ ผู้จัดการของบริษัท KCN Vietnam ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าสำหรับซัพพลายเออร์ทั่วโลก กล่าวว่าโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมล่าสุดของบริษัทขายหมดอย่างรวดเร็ว โดยโรงงานส่วนใหญ่ในโครงการนี้จะเป็นของบริษัทจีนหลายแห่ง เช่น Shenzhen MYGT Co. ซึ่งผลิตจอยเกมให้กับ Microsoft และ Nintendo รวมถึง Dongguan Rayking Electronics Co. ผู้ผลิตแผงวงจรไฟฟ้าอะคูสติก

ภาษีทรัมป์จ่อกระทบเศรษฐกิจ แต่การลงทุนยังแข็งแกร่ง

ก่อนหน้านี้ เวียดนามเคยถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 46% ซึ่งส่งผลให้คำสั่งซื้อจากลูกค้าสหรัฐลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก จนทางการเวียดนามต้องเร่งส่งคณะผู้แทนไปเจรจาที่กรุงวอชิงตัน และสถานการณ์ก็คลี่คลายลงในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ในกรุงฮานอยก็ยอมรับว่า ภาษีศุลกากรอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกไปยังสหรัฐลดลงมากถึง 1 ใน 3 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่อาจลดลงประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์

แม้ประเด็น "สินค้าส่งผ่านแดน" จะยังคงเป็นที่จับตาของสหรัฐ แต่บทบาทที่เพิ่มขึ้นของเวียดนามในห่วงโซ่อุปทานโลกก็ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

เหงียน ดึ๊ก ลอง เจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดบั๊กนิญ คาดหวังว่าจะมีเงินลงทุนเพิ่มเติมในจังหวัดอีก 1 พันล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากเงินลงทุนจากต่างประเทศ 4 พันล้านดอลลาร์ ที่ได้รับการยืนยันแล้วในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ข้อมูลรัฐบาลเวียดนามระบุว่า การลงทุนจากจีนและฮ่องกงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็น 3.56 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ แม้เวียดนามจะได้เปรียบเรื่องภาษี แต่ก็ต้องเผชิญความท้าทายใหม่เมื่อรัฐบาลจีนไม่พอใจที่ซัพพลายเออร์ขยายกิจการออกไปนอกประเทศ ทำให้การเคลื่อนย้ายผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์การผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังต่างประเทศทำได้ยากขึ้น

เวียดนาม ศูนย์กลางการผลิตโลก

เวียดนามได้ก้าวพ้นจากภาพลักษณ์ประเทศเกษตรกรรมสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยข้อตกลงการค้ากว่าสิบฉบับและแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดการลงทุน เช่น แรงงานราคาถูกและมีคุณภาพ เสถียรภาพทางการเมือง การพัฒนาด้านโลจิสติกส์ ข้อได้เปรียบด้านภาษี

เจฟฟรีย์ เพิร์ลแมน ซีอีโอของ Warburg Pincus ยืนยันว่า "ไม่ใช่แค่บริษัทจีนเท่านั้น" ที่กำลังย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนาม แต่ยังรวมถึงบริษัทอเมริกัน เกาหลี และญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงการหลั่งไหลของการลงทุนจากหลากหลายประเทศทั่วโลก

เวียดนามกลายเป็นฐานผลิตที่ขาด ‘จีน’ ไม่ได้

แม้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก แต่เวียดนามยังคง พึ่งพาจีนใน “ห่วงโซ่อุปทาน” โดยการนำเข้าสินค้าจากจีนของเวียดนามในช่วงครึ่งแรกของปีนี้พุ่งสูงถึงเกือบ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน และคิดเป็นเกือบ 40% ของการนำเข้าทั้งหมด ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตสินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม

Trinh Nguyen นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Natixis ชี้ว่า แม้เวียดนามจะกลายเป็นฐานการผลิตที่น่าสนใจสำหรับหลายประเทศทั่วโลก แต่การผลิตสินค้าสำคัญเพื่อการส่งออกของเวียดนามอย่างโทรศัพท์และสิ่งทอนั้น เองยังคงต้องพึ่งพาวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบต่างๆ ที่นำเข้าจากประเทศจีนเป็นหลัก

สิ่งที่น่าสนใจคือสงครามการค้าที่ทรัมป์เริ่มขึ้น ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อลดการพึ่งพาจีน กลับส่งผลให้ผู้ผลิตจำนวนมากย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนามแทน ทำให้ช่องว่างทางการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐขยายตัวขึ้นไปอีก เวียดนามจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลก แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่าเวียดนามต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากจีนมากขึ้นกว่าที่เคย ซึ่งหมายความว่าสินค้า "Made in Vietnam" ส่วนใหญ่ในวันนี้ยังคงพึ่งพาส่วนประกอบจากจีนเป็นหลัก

Tseng จาก Bloomberg Intelligence ให้ความเห็นว่าความพยายามของทรัมป์ที่พยายามแยกประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม ออกจากจีน ซึ่งเห็นได้จากภาษีนำเข้าสินค้าขนถ่ายสินค้าสูงถึง 40% แต่ความพยายามดังกล่าว "จะยังคงไม่มีประสิทธิผล เนื่องจากจีนยังคงเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของส่วนประกอบต่างๆ มากมาย"

อ้างอิง Bloomberg

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

‘จระเข้’โตแรงสวนตลาดก่อสร้างติดลบ! เล็งตั้งโรงงาน‘เวียดนาม’

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เศรษฐกิจสหรัฐโตสูงกว่าคาดแตะ 3% ในไตรมาส 2 ทรัมป์ร้องลดดอกเบี้ย

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รองนายกฯ เวียดนามพบ'มาริษ'หารือข้อราชการ ยินดีหยุดยิง

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรัมป์ประกาศภาษี 'อินเดีย' 25%' ลงดาบเจรจาไม่ลงตัว-เมินคำเตือนซื้อพลังงานรัสเซีย

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

แฟนคลับช็อก! นางเอก AV ชื่อดัง "มิโฮะ นานะ" วัย 22 ปี ประกาศอำลาวงการแล้ว

sanook.com

Malaysia seeks clarity on Cambodian troops in Thai custody

Thai PBS World

เศรษฐกิจสหรัฐโตสูงกว่าคาดแตะ 3% ในไตรมาส 2 ทรัมป์ร้องลดดอกเบี้ย

กรุงเทพธุรกิจ

Microsoft เผย 40 อาชีพ "AI" ทำแทนไม่ได้ และ 40 อาชีพเสี่ยงโดนแทนมากที่สุด

sanook.com

พ่อแม่ตาย พี่น้องฟ้องแย่งมรดก 13 ล้าน เพิ่งรู้ความจริง ช็อกกลางศาล

Thaiger

กัมพูชา-ไทย ยืนยันทำตาม 'ข้อตกลงหยุดยิง' ในที่ประชุมไตรภาคีกับจีน

สวพ.FM91

กูรูไต้หวัน เตือน! 5 เมนูปลา กินแบบผิดๆ เสี่ยงสารพิษตกค้าง-พยาธิเพียบ

sanook.com

รองนายกฯ เวียดนามพบ'มาริษ'หารือข้อราชการ ยินดีหยุดยิง

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...