โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"เด็กสมบูรณ์" เผชิญวิกฤตรอบด้าน ปรับแผนรุกตลาดเอเชีย หนีภาษีทรัมป์

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายวสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ กรรมการบริษัท และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายในประเทศ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจว่าปีนี้เป็นปีที่ท้าทายที่สุดตั้งแต่ผมทำงานมา ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 เป็นช่วงที่ท้าทายที่สุดในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา แม้แต่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ยอดขายก็ยังเติบโตได้ถึง 7-8% แต่ปีนี้กลับต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว

นายวสุพล ระบุว่า สหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญของหยั่น หว่อ หยุ่น คิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 35% ของรายได้รวมของบริษัท โดยยุโรปยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 คิดเป็นกว่า 40% ขณะที่ตลาดเอเชียมีสัดส่วนเพียง 15% และบริษัทได้ส่งออกสินค้าไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก

รับมือภาษี "ทรัมป์" 36% เร่งชิงส่งสินค้า-ลดต้นทุนภายใน

สำหรับประเด็นภาษีนำเข้า 36% ของสหรัฐฯ ที่สร้างความกังวลในภาคการส่งออก นายวสุพลกล่าวว่า ขณะนี้ยังคงต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีข่าวดีว่าสินค้าในกลุ่ม Seasoning (เครื่องปรุงรส) อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงใน Tier แรกของมาตรการภาษี อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมและลดความเสี่ยง บริษัทได้เร่งดำเนินการล่วงหน้า โดยการส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ ในปริมาณที่สูงกว่าปกติถึง 4-5 เท่า หรือประมาณ 200 ตู้สินค้า มูลค่าราว 200 ล้านบาท ก่อนที่จะมีการประกาศใช้ภาษีอย่างเป็นทางการ เพื่อให้สามารถครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในตลาดนั้นได้ประมาณ 3-4 เดือนข้างหน้า

"เราพยายามพยุงราคาสินค้า และภายใต้คุณภาพมาตรฐานที่ดี สิ่งที่ต้องทำคือ เราพยายามหาวิธีการที่ทำให้ COGS (ต้นทุนขาย) ของเรา สามารถแข่งขันได้ในตลาด เราไม่พยายามผลักภาระในส่วนนี้ไปสู่ผู้บริโภค"

เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันและลดต้นทุนในระยะยาว บริษัทได้ลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการติดตั้งเครื่องจักรเซ็ตใหม่ มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 3-4 ปี ที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเป็นการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตในทุกไลน์สินค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

ผลงาน 7 เดือนแรกในประเทศชะลอตัว ตั้งเป้าโตแค่ 1-2%

แม้ว่าตลาดส่งออกจะเผชิญความท้าทาย แต่ตลาดในประเทศของหยั่น หว่อ หยุ่น ก็ยังคงทรงตัว ไม่ได้เติบโตในอัตราที่สูงเหมือนในปี 2567 โดย 7 เดือนแรกของปี 2568 ยอดขายในประเทศเติบโตในระดับ Single Digit หรือประมาณ 2-3% ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2567 ที่เติบโตในระดับ Double Digit (11%) นายวสุพลมองว่า สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจของไทยที่อยู่ในจุดที่ใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว และตลาดรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

"ปีนี้ถ้าเกิดว่าเราพยายามพยุงให้ยอดขายไม่ตกลงไป ผมถือว่าโอเคแล้ว ตลาดรวมเครื่องปรุงรสมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท ปีที่แล้วเรามีรายได้กว่า 5,000 ล้าน ซึ่งความท้าทายของปีนี้เป้าหมายการเติบโตที่เคยตั้งไว้ในระดับ Double Digit ทุกปี คงต้องปรับลง โดยคาดการณ์การเติบโตของยอดขายรวมสำหรับปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 1-2% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา แม้แต่ช่วงโควิด-19 ก็ยังโตได้สูงกว่านี้”

ปรับกลยุทธ์รุกตลาดใหม่-เน้นเทรนด์สุขภาพ-ดันสัดส่วนส่งออก 90%

เพื่อรับมือกับความท้าทาย นายวสุพลเผยถึงแผนการปรับตัวของบริษัท โดยจะหันมาโฟกัสในส่วนของ ตลาดเอเชียมากขึ้น พยายามดูประเทศอื่นๆ ที่ไม่มีประเด็นเรื่องภาษีนำเข้า ซึ่งปัจจุบันแม้สัดส่วนตลาดเอเชียจะยังน้อย แต่ก็มีบางประเทศที่เติบโตได้ดี เช่น อิสราเอล

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับ เทรนด์สุขภาพ ที่กำลังมาแรง โดยเริ่มศึกษาและพัฒนาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ลดปริมาณโซเดียมและน้ำตาล แม้ว่าตลาดพรีเมียมและตลาดสุขภาพจะยังคงเป็นสัดส่วนที่เล็กมาก เมื่อเทียบกับตลาด Mass ที่บริษัททำอยู่

ด้านการตลาด ได้ลงทุนในงบการตลาดประมาณ 1-2% ของรายได้รวม หรือประมาณ 50 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ "พีพี" เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขาย ซึ่งมั่นใจว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับแผนระยะยาวจะผลักดัน สัดส่วนรายได้จากการส่งออกให้เพิ่มขึ้นเป็น 90% ภายใน 10 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่ 35% โดยยังคงเป้าหมายที่จะเติบโตในตลาดในประเทศไปพร้อมๆ กัน

ในส่วนของวัตถุดิบหลักอย่างถั่วเหลือง นายวสุพลยืนยันว่า หยั่น หว่อ หยุ่น ได้รับวัตถุดิบทั้งจากในประเทศและยุโรป โดยมีปริมาณจากสหรัฐฯ น้อยมากจึงไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบในส่วนนี้มากนัก และบริษัทยังมีการทำข้อตกลงกับซัพพลายเออร์เพื่อตรึงราคาวัตถุดิบ ทำให้มีความเสถียรในด้านต้นทุนพอสมควร

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ทุนสำรองทองคำจากเหมืองในประเทศ หนุนเศรษฐกิจ–ท้าทาย Net Zero

24 นาทีที่แล้ว

พิกัด กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี ไฟฟ้าดับวันนี้ 18-20 ก.ค.นี้

34 นาทีที่แล้ว

สภาพอากาศวันนี้ -23 ก.ค.ไทยฝนฉ่ำ เตรียมรับมือฝนเพิ่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทักษิณ คอนเฟิร์ม "ผู้ว่าแบงก์ชาติ" คนใหม่ เข้า ครม.สัปดาห์หน้า

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

ทักษิณ แย้ม ครม.สัปดาห์หน้าเคาะ “ผู้ว่าฯ ธปท.” คนใหม่

อีจัน

ประชุม คกก. คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร เห็นชอบ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเก็บรักษาและแปรรูปลำไยด้วยการอบแห้งหรือรมด้วยก๊าซซันเฟอร์ไดออกไซด์

สวพ.FM91

Broker ranking 17 Jul 2025

Manager Online

“ทักษิณ” อุบชื่อผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ ยืนยันเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

PostToday

“ทักษิณ” ชี้ไทยยังไม่ไปไหนติดหล่มปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ

การเงินธนาคาร

BBL อวดกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 เติบโต 9.5% แตะ 24,458 ล้าน

PostToday

‘ทักษิณ’ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย ผุดใช้คริปโตซื้อของได้ ฝึกเทรนเอไอให้คนไทย

เดลินิวส์

ONYX ปรับอิมเมจโรงแรม “อมารี” ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่แตกต่าง

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...