CBG ส่วนแบ่งตลาดพุ่ง New High เปิดเกมรุกเมียนมา–จีน–ตะวันออกกลาง
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 18.42 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - CBG ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าในการประชุมนักวิเคราะห์ของ CBG เมื่อวันที่ 14 ส.ค.68 ผู้บริหารยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มตลาดในประเทศโดยเน้นว่าส่วนแบ่งตลาดของเครื่องดื่มคาราบาวแดงในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของไทยกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง
หลังทรงตัวที่ระดับ 25-26% มาตั้งแต่เดือนก.ย. 67
ขณะที่ข้อมูลของ Nielsen แสดงให้เห็นว่าส่วนแบ่งตลาดด้านปริมาณการขายของ CBG ทำสถิติใหม่ที่ 26.5% ในเดือนมิ.ย.68 และแม้ว่าการแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้เป้าหมายเดิมของบริษัทที่ยอดขาย 1.2 พันล้านขวดในปี 68 ดูเป็นเรื่องท้าทาย แต่ผู้บริหาร CBG ยังคงคาดการณ์ว่าปริมาณการขายจะแตะ 1.0-1.1 พันล้านขวด ซึ่งสูงกว่าประมารณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯที่ 950 ล้านขวดมาก รวมทั้งสูงกว่า 858 ล้านขวดในปี 67 ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความยืดหยุ่นของแบรนด์
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ปะทุขึ้นรอบใหม่ ส่งผลให้ CBG ปรับรูปแบบการจัดส่งสินค้าไปกัมพูชาจากทางบกเป็นทางทะเล เพื่อแก้ปัญหาคอขวดด้านโลจิสติกส์ อย่างไรก็ตาม ยอดขายในกัมพูชาหดตัวเร็วกว่าคาดการณ์ไว้ โดยผู้บริหารคาดว่ายอดขายไตรมาส 3/68 จะลดลงราว -20% qoq เทียบกับประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ที่ -15% qoq เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากกระแสการคว่ำบาตรสินค้าไทยในประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม โรงงานของ CBG ในกัมพูชาจะยังมีกำหนด เปิดในเดือนพ.ย. 68 และเปิดดำเนินงานเต็มที่ในเดือนธ.ค.68 แต่ฝ่ายวิเคราะห์ฯมองว่าตลาดสำหรับสินค้าของ CBG ในกัมพูชาจะยังอยู่ภายใต้แรงกดดันในครึ่งหลังปี 68
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า โรงงานแห่งใหม่ในเมียนมาของ CBG ซึ่งเปิดดำเนินงานในเดือนก.ค.68 น่าจะช่วยเพิ่มทั้งปริมาณการขาย โดยรวมและความสามารถในการทำกำไร โดยผู้บริหารประมาณการว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากการจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังจะเพิ่มขึ้น ~200bp จากระดับ 40% ในไตรมาส 2/68 จากการประหยัดต้นทุนขนส่ง อย่างไรก็ตาม margin
น่าจะยังไม่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง 68 เนื่องจากการดำเนินงานในช่วงแรกยังประสบปัญหาเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบ แต่ฝ่ายวิเคราะห์ฯเชื่อว่าปี 69 จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ CBG มีความได้เปรียบด้านต้นทุนอย่างยั่งยืน
CBG มีแผนจะรุกตลาดจีนในไตรมาส 4/68 และตลาดตะวันออกกลางในครึ่งปีแรก 69 ด้วยการขายหัวเชื้อและการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (licensing model) ซึ่งถึงรายได้น้อยในการขายหัวเชื่อไม่มาก แต่ด้วยอัตรากำไรที่ค่อนข้างสูงจากการขายหัวเชื้อ รวมถึงค่าธรรมเนียมในการใช้สิทธิ ทำให้ผู้บริหารเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อกำไรอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้บริษัทจะประกาศชื่อตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ในจีนเดือนก.ย. 68
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการ EPS ในปี 68-70 ลง 3.4-4.2% เนื่องจากยอดขายในกัมพูชามีแนวโน้มอ่อนตัว ส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลงมาอยู่ที่ 67.50 บาท ขณะที่เชื่อว่าราคาหุ้นในปัจจุบันน่าจะรับรู้ปัจจัยลบจากกัมพูชาแล้ว แต่ยังไม่สะท้อน margin ที่อาจเพิ่มขึ้นจากเมียนมาหรือตลาดใหม่ตั้งแต่ปี 69 จึงยังแนะนำ “ซื้อ” CBG โดยมองว่า downside risk จะมาจากยอดขายที่อ่อนตัวต่อเนื่องในกัมพูชาและ margin ถูกกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนปัจจัยบวกจะมาจากกลยุทธ์การเติบโตใหม่หรือการซื้อกิจการ รวมทั้งยอดขายที่เร่งตัวขึ้นในเมียนมา