Gaoii Store โชว์รูมเก้าอี้สุขภาพที่เจ้าของเป็นนักการยศาสตร์ สายออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะ
ยุคนี้ ไม่มีคนทำงานคนไหนไม่รู้จักโรคออฟฟิศซินโดรม
บางคนเป็นอยู่ บางคนรักษา บางคนป้องกัน เราต่างตามหาไอเทมมากมายมาทำให้การทำงานแต่ละวันของเราราบรื่นและไม่ปวดหลัง หนึ่งในนั้นคือเก้าอี้
ถ้าพิมพ์คำว่า ergonomic chair หรือเก้าอี้สุขภาพที่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) ในเสิร์ชเอนจิ้น สิ่งที่จะปรากฏขึ้นมาคือเก้าอี้หลากหลายรูปแบบที่แบรนด์ไทยแบรนด์เทศทำแข่งกันให้พรึ่บ เรนจ์ราคาเองที่กว้างมากตั้งแต่หลักพันไปจนเกือบๆ แตะหลักแสน บ่งบอกได้ดีว่าตลาดนี้แข่งขันกันดุดันแค่ไหน
ท่ามกลางแบรนด์เก้าอี้มากมาย Gaoii Store คือแบรนด์ที่นำเข้าเก้าอี้สุขภาพภาพระดับพรีเมียมที่ สยาม ธนาภรณ์ ก่อตั้งเมื่อ 10 ปีก่อน ด้วยสายตาที่มองเห็นโอกาสในเก้าอี้สุขภาพ ตั้งแต่ยุคที่คำว่า Ergonomics ยังไม่เป็นที่รู้จัก (และขายได้) มากเท่ายุคนี้
จุดเริ่มต้นจากการอยากได้เก้าอี้สุขภาพสักตัวไว้นั่ง ต่อยอดให้เขาสนใจจนเรียนต่อเป็นนักการยศาสตร์ สายออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะ สุดท้ายก็ตัดสินใจทำธุรกิจนำเข้าเก้าอี้เพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม จนสร้างช็อป GAOII Store ในซอยทองหล่อ 20 ที่ทุกวันนี้กลายมาเป็นที่พึ่งทางกาย (และทางใจ) สำหรับคนที่อยากรักษาและป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม
แค่ก้าวเท้าเข้าไป สยามก็จะประเมินไลฟ์สไตล์ แนะนำเก้าอี้สุขภาพที่เหมาะสม และอาจเปลี่ยนวิถีการทำงานของผู้ใช้ไปตลอดกาล
สิ่งที่น่าสนใจคือ Gaoii Store ไม่ใช่ช็อปที่เน้นเชียร์ให้ซื้อเก้าอี้สุขภาพราคาสูงๆ เพื่อขายให้ได้เยอะๆ แต่สยามยึดหลัก ‘ความจริงใจ’ กับลูกค้า และยึดถือประสบการณ์ที่ลูกค้าเป็นสำคัญ GAOII เชื่อในการคุยกันแบบตรงไปตรงมา ประเมินตามจริง เตือนกันได้ ถ้าลูกค้าไม่เหมาะกับเก้าอี้ตัวไหน หรือรีเควสต์ตัวที่ไม่เหมาะสมไป คนเป็นเจ้าของร้านก็จะไม่เชียร์ให้ซื้อ
“เป็นธุรกิจที่ฉีก ไม่เหมือนใคร และไม่ค่อยมีคนอยากทำหรอก” เขาบอกในวันที่เราเจอกัน
อะไรที่ทำให้เขาพูดแบบนั้น และการแข่งขันของเก้าอี้สุขภาพในวันนี้เป็นยังไง เราชวนฟังคำตอบในบรรทัดต่อจากนี้
ทำไมคุณถึงบอกว่า ในตลาดนี้ไม่ค่อยมีคนอยากทำธุรกิจแบบที่คุณทำ
หนึ่ง–ลงทุนสูง สอง–เจ้าของต้องเรียนเกี่ยวกับการยศาสตร์ เฉพาะด้านนั้นๆ สาม เมื่อเรียนแล้วได้ใบเซอร์ฯ มาแล้ว ก็ไม่มีใครอยากจะไปเป็นลูกน้องคนอื่น อยากจะทำเอง
แต่เมืองไทยพอทำเองแล้วใช้ทุนสูง เพราะเก้าอี้ ergonomics ที่นี่ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 15,900 ไปจนถึง 70,000 บาท แต่พอทำธุรกิจนี้ ไม่ใช่ว่าเราจะมาเชียร์ขายเก้าอี้แพงกับลูกค้า มันขึ้นอยู่กับสรีระของเขาด้วย บางคนอยากจะได้เก้าอี้ตัวละ 40,000 กว่าบาท แต่ได้ตัวละ 16,000 กลับบ้านไป และราคาเหล่านี้จะถูกปรับขึ้นไปในแต่ละปี
ย้อนกลับไป ทำไมคุณถึงชอบการยศาสตร์และอยากทำธุรกิจด้านนี้
ระหว่างเรียนปริญญาตรี ผมเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ตอนนั่งทำงานวิจัยผมก็นั่งนานมาก เพราะต้องอ่านเปเปอร์เป็นปึกๆ พอนั่งนานก็เริ่มเมื่อยหลัง เลยหาอ่านเกี่ยวกับเก้าอี้ที่ทำให้ไม่ปวดหลัง ซึ่งเกือบ 20 ปีก่อนมันก็มีไม่กี่แบรนด์ เช่น Steelcase, Herman Miller ผลิตที่อเมริกา ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 50,000-80,000 บาท
ตอนนั้นยังเรียนอยู่ผมก็ไม่มีปัญญาซื้อแน่นอน ไม่รู้ทำยังไงก็พยายามค้นหาเก้าอี้ ergonomics ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นแทน พอดีตอนนั้นมีเก้าอี้มือสองบางตัวที่ถูกส่งมาขายเมืองไทย ถ้าคนทั่วไปอาจจะดูไม่ออก แต่ผมดูเป็น ก็เสร็จผมเลย ผมขับรถไปที่นนทุบรี ซื้อเก้าอี้มือสองที่ราคาเต็ม 80,000 ในราคา 1,000 บาท นั่นคือเก้าอี้ตัวแรกที่ผมซื้อ
หลังจากนั้น ผมมีโอกาสไปเรียนที่อเมริกา และเริ่มเข้าสู่โลกของเก้าอี้ ergonomics อย่างเต็มตัว พอกลับมาก็ทำงานประจำเป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โดยมีงานเสริมเป็นการนำเข้าเก้าอี้สุขภาพ ที่อยากทำเพราะย้อนกลับไปวันแรกๆ ราคาเก้าอี้ตัวละ 80,000 ยังติดอยู่ในใจ ผมคิดว่าถ้าเราทำให้ตัวเลขนั้นลดลงมาสักครึ่งหนึ่ง คนที่จับต้องได้คงมีมากขึ้น
ณ เวลานั้น ตลาดเก้าอี้สุขภาพในเมืองไทยยังไม่บูมเท่าทุกวันนี้ คุณทำยังไงให้ลูกค้าสนใจ
ใช่ ที่เมืองไทยยังไม่มีใครทำแบบนี้เลย ช่วงแรกเริ่ม ผมนำเข้าเก้าอี้มือหนึ่งมาก่อน แต่ด้วยระยะเวลาที่กว่าจะเดินทางมาถึงก็หลายเดือน สั่งเยอะเงินก็ไปจม
บังเอิญว่าตอนนั้นมีสำนักกฎหมายแห่งหนึ่งที่อยากขายเก้าอี้ต่อติดต่อผมมาพอดี ผมไปดูแล้วเห็นว่าราคาเต็มน่าจะราวๆ 60,000 แต่เขาขายตัวละ 1,000 บาท ผมเลยขอเหมามาให้มากที่สุด แล้วขายลดราคาลงมาประมาณ 27,900 บาท
ประกอบกับผมเน้นขายออนไลน์ ผมสอนคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จึงทำเว็บไซต์ของร้านขึ้นมาได้อย่างอลังการ ทำให้ลูกค้าคิดว่า โห ร้านเก้าอี้แบบนี้ก็มีเว็บไซต์ ทำให้ร้านเริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นมา
แล้วคุณเปิดแบรนด์ Gaoii Store ขึ้นมาตอนไหน
เมื่อ 10 ปีก่อน คือหลังจากขายเก้าอี้มือสองได้สิบปีกว่าๆ ผมก็เปิดแบรนด์ Gaoii Store ขึ้นมา
คอนเซปต์ของแบรนด์นี้คือ ‘มาที่เดียวจบ’ เพราะอยากให้ที่นี่มีเก้าอี้สุขภาพทุกรุ่น มีทุกแบรนด์ที่อยู่ในระดับไฮเอนด์ สิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างคือผมอยากกลับไปขายเก้าอี้มือหนึ่งด้วย และตัดสินใจว่าจะขายมือหนึ่งอย่างเดียวเลย เพราะถ้าขายเก้าอี้มือสองด้วย คนอาจจะคิดว่ากลัวว่าจะเอามาผสมกับเก้าอี้มือหนึ่งหรือเปล่า มันเลยต้องชัดเจน ส่วนเก้าอี้มือสองที่อยู่ในร้านนี้ก็กลายเป็นเก้าอี้ที่ให้ลูกค้าลองนั่งไป
เมื่อ 10 ปีก่อน ในเมืองไทยมีแบรนด์ที่ขายเก้าอี้เพื่อสุขภาพสำหรับกลุ่มพรีเมียมแค่ 2 เจ้าใหญ่ๆ คือ Modernform ที่ขาย Steelcase และ CHANINTR ที่นำเข้า Herman Miller ผมไม่คิดอะไรมาก สองบริษัทที่ว่ามาเขาเป็นบริษัทมหาชน ผมขอเป็นเบอร์สามก็ได้ แต่มันไม่ง่ายนะครับ
ไม่ง่ายยังไง
การจะขายแบรนด์พรีเมียมเหล่านี้ได้ มันไม่ใช่ว่าเราไปขอเขามาขายแล้วได้เลย อย่าง Steelcase ที่ผมดีลมาขายที่นี่ได้เพราะเป็นพาร์ตเนอร์กับ Modernform อยู่ เขารู้ว่าไลน์ธุรกิจของผมไม่ได้ทับกันกับเขาแถมยังช่วยเหลือเขาอีก เพราะลักษณะธุรกิจของเขาคือเน้นให้คนเดินเข้าช็อปแล้วช้อปปิ้งเหมือนไปช้อปปิ้งในห้าง
แต่ธุรกิจของผมคือ เน้นให้คนเข้ามาขอคำปรึกษาว่าควรจะปรับอะไรในท่านั่งบ้าง แล้วค่อยเลือกเก้าอี้ให้ลูกค้า เพราะแบบนี้เราจึงเป็นพาร์ตเนอร์กันได้
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Gaoii Store คือกลุ่มไหน และตลาดของเก้าอี้สุขภาพเติบโตขึ้นบ้างไหมในปัจจุบัน
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานออฟฟิศ ไปจนถึงระดับผู้บริหารที่สนใจเรื่อง health & wellness ถ้าจะให้แบ่งอาจจะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่อยากเปลี่ยนเก้าอี้เฉยๆ ร่างกายไม่ได้เป็นอะไร กลุ่มที่แพนิก เห็นคนอื่นเจ็บป่วยแล้วไม่อยากรอให้พัง เกิดเห็นความสำคัญของสุขภาพขึ้นมา กลุ่มสุดท้ายคือร่างกายพังเรียบร้อยแล้ว
ส่วนตลาดเก้าอี้สุขภาพแบบพรีเมียมตอนนี้ คู่แข่งของเราก็ยังถือว่าน้อยมาก แต่คู่แข่งแต่ละคนก็มีทุนสูงแบบที่เราสู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว กฎของการรบของผมคือสู้ไม่ได้ก็เป็นเพื่อนกัน (หัวเราะ)
แต่ถ้ามองในยังตลาดเก้าอี้สุขภาพโดยรวม ผมเห็นว่ามีหลายๆ แบรนด์เกิดขึ้นมา เป็นแบรนด์เก้าอี้สุขภาพที่ราคาจับต้องได้ ซึ่งตลาดนั้นน่าจะเป็น red ocean เรียบร้อยแล้ว
พอเป็นลูกค้ากลุ่มนี้ คุณมีเกณฑ์ในการเลือกเก้าอี้เข้าร้านไหม เก้าอี้แบบไหนที่จะเลือกมาขาย และเก้าอี้แบบไหนที่จะไม่เลือก
เก้าอี้ที่นี่จะต้องเป็นเก้าอี้สุขภาพ (ergonomics chair) แท้ๆ
คำว่าแท้ๆ หมายถึงเป็นเก้าอี้ที่ผ่านงานวิจัยมาแล้ว เขาจะมีดีไซน์และส่วนโค้งเว้าตามงานวิจัยเลย หากจะแบ่งเป็นประเภทก็แบ่งได้หลายแบบ
เราจะแบ่งเป็น hard edge เก้าอี้ขอบแข็ง กับ soft edge เก้าอี้ขอบอ่อนก็ได้ หรืออาจจะแบ่งเป็นเก้าอี้แบบโฟมกับเก้าอี้แบบตาข่ายก็ได้ แต่ละแบบก็จะเหมาะกับคนที่มีอายุและการใช้งานที่แตกต่างกัน
อย่างที่คุณบอกว่า แรกๆ คุณขายออนไลน์เป็นหลัก แต่ตอนนี้มีหน้าร้านแล้ว การมีหน้าร้านมันช่วยเสริมประสบการณ์ให้ลูกค้ายังไง
ธุรกิจของผมอาจจะแปลกอยู่อย่าง คือคนอื่นเขาเริ่มจากการสร้างหน้าร้าน แต่อยากลดต้นทุนเลยทำออนไลน์ แต่ของผมโตมาจากออนไลน์และอยากมีหน้าร้าน
การมีหน้าร้านช่วยให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่สิ่งที่ผมตั้งใจมากกว่านั้นคือ ที่นี่ไม่ได้ขายโปรดักต์ แต่ขายประสบการณ์ล้วนๆ
การที่คนมาที่นี่ แน่นอนว่าเขาจะได้เก้าอี้กลับไป แต่กว่าที่เขาจะได้กลับไป เขาจะได้ประสบการณ์ฟิตติ้งกับเก้าอี้ที่ตอบคำถามว่า ‘ถ้านั่งทำงานลักษณะนี้จะดีต่อเขาไหม’ เราจะเป็นตัวกลางที่บอกเขาว่าได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่แค่แนะนำเรื่องเก้าอี้ แต่แนะนำไปถึงเรื่องจอคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน ความสูงของที่รองเท้า เป็นต้น
10 ปีที่ผ่านมา อะไรคือแนวคิดทางธุรกิจที่อยู่กับ Gaoii มาตลอด
ความตรงไปตรงมา เพราะเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่ต่อรองไม่ได้ เหมือนเป็นเบาหวานแล้วต่อรองหมอว่าอยากกินเป๊ปซี่ หมอเขาคงไม่รู้จะแก้ยังไง เราก็ทำแบบเดียวกัน คอนเซปต์ทางธุรกิจของ Gaoii คือเราต้องขายความจริง ถ้าขายความจริงแล้วทำให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้น เดี๋ยวธุรกิจเราก็โตขึ้น
ก่อนหน้านี้ผมเคยคุยกับคุณพ่อ เขาสันนิษฐานว่าวันหนึ่งตลาดก็คงเต็ม ทุกคนคงมีเก้าอี้แบบนี้กันหมด ซึ่งไม่จริงเลย เพราะจริงๆ แล้วในชีวิตหนึ่งของคนเรา เราไม่มีทางใช้เก้าอี้แค่หนึ่งตัว ในใบประวัติลูกค้าของผม มีหลายคนที่กลับมาเจอกันทุก 3 ปี อาจเป็นเพราะหน้าที่การงานที่ขยับขยาย หรือบางคนมีงบที่เพิ่มขึ้นเขาก็กลับมาซื้อตัวใหม่
เพราะเราขายความจริงนี่แหละ ทำให้บางครั้งลูกค้ามาขอซื้อเก้าอี้บางตัวโดยไม่ให้วิเคราะห์อะไร แต่ถ้าเขาไม่เหมาะกับเก้าอี้ตัวนั้นผมก็ไม่ขายให้นะ หลายคนทักว่าทำอย่างนี้มันเสียโอกาส แต่ผมคิดว่าถ้าขายไปโดยที่ไม่รู้อะไรเลยว่าไลฟ์สไตล์เขาเป็นยังไง ผมอาจจะไม่ได้ให้ประสบการณ์ใหม่กับเขาเลย
สำหรับผม มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนเก้าอี้แค่ตัวเดียว แต่เปลี่ยนทั้ง work station ของเขาให้ถูกต้อง และอาจจะเป็นการเปลี่ยนแค่ครั้งเดียวในชีวิตของเขาก็ได้ เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากชัดเจนมากว่า มอนิเตอร์นี้เอาออก แล็ปท็อปขอไม่ให้ใช้เพราะกระดูกต้นคอเริ่มเสื่อม เราต้องปฏิเสธลูกค้าแบบนี้ได้
พอผมกล้าดุ กล้าเตือน กล้าบอกลูกค้า ผลลัพธ์มันจะมายิ่งกว่าเรายิงแอดออกไปเสียอีก
ในฐานะเจ้าของธุรกิจเก้าอี้สุขภาพ คุณคิดว่าทักษะที่คนทำธุรกิจต้องมีเพื่อให้อยู่รอดในตลาดนี้ได้คืออะไร
ความอดทน คุณจะต้องอึดจริงๆ แต่เชื่อเถอะว่า มันไม่มีพายุไหนที่อยู่ตลอดไป เดี๋ยววันหนึ่งฟ้ามันก็จะสาง แล้วพอคุณผ่านพายุมาได้คุณจะไม่กลัวอะไรอีกแล้ว แต่ความอดทนก็ต้องมีกึ๋นด้วยนะ ไม่ใช่ว่าขาดทุนแล้วทำแบบเดิมต่อไป
อีกอย่างคือ ถ้าคุณจะทำธุรกิจอะไร ผมคิดว่าควรจะมีความรู้เรื่องนั้นมากๆ ผมเองตอนทำธุรกิจนี้ก็อ่านหนังสือเยอะมากๆ เพราะมองว่าการทำการบ้านก่อนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็อย่าทำการบ้านเยอะจนกลัวไปหมด บางทีกลัวจนไม่ได้ลงมือทำ ความรู้และความไม่รู้ควรจะควบคู่กันไป แล้วเดี๋ยวระหว่างลงมือทำ เราก็จะรู้เอง
Good to Know
ท่านั่งที่ดีในมุมมองของนักการยศาสตร์
“ตามหลักการยศาสตร์แล้ว ท่านั่งที่ดีคือหลังต้องเอน 110 องศา แขนและเข่าตั้งฉาก 90 องศา แต่ถ้าเรานั่ง 90 องศาตลอด มันอาจจะเกร็งไป เขาเลยมีจุดยืดหยุ่นคือองศาที่เคลื่อนไปไม่เกิน 120 ยังอยู่ในมุมที่ปลอดภัยอยู่
“แต่สิ่งที่ยากสำหรับภารกิจนี้คือ การท้าทายนิสัยที่เราคุ้นชิน ตอนลูกค้ามาหาผม เขาสัญญาเป็นอย่างดีว่าจะนั่งให้ดีขึ้น แต่กลับบ้านไปก็นั่งเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นปัญหาเก่าๆ ก็ยังเป็นเหมือนเดิม มันเหมือนคนแขนหัก ถ้าคุณยังใช้แขนที่เจ็บเหมือนเดิม มันก็เกิดการอักเสบและเรื้อรังได้”