‘Sandwich Marketing’ ทำความเข้าใจการตลาดเพื่อเข้าถึง Gen X ‘เดอะแบก’ ที่เริ่มมองหา ‘วันหยุดเพื่อฉัน’
ปัจจุบันมีหลายครั้งที่นักการตลาดแบรนด์ต่าง พยายามปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ Gen Z มากขึ้น แต่อาจจะลืมไปว่ามีเจเนเรชั่นหนึ่งที่กำลังซื้อและการตัดสินใจซื้อน่าสนใจ พวกเขาอยู่ในจุดที่พร้อมใช้จ่ายหากตอบโจทย์จริงๆ นั่นก็คือ ‘Gen X’ (กลุ่มคนวัย 43-59 ปี)
ข้อมูลเชิงพฤติกรรม (Yougov) เผยข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับคน Gen X ในยุคใหม่ ที่คิดต่างขึ้น ยบกตัวเองเป็น priority มากขึ้น ไม่ใช่อะไรๆ ก็ครอบครัว ลูก คู่ชีวิต แต่‘ตัวฉันเอง’ ก็สำคัญ
โดยข้อมูลสรุปของคน Gen X ดังนี้
61.4% ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่สนุกขึ้น
50.7% ไม่ชอบวางแผนระยะยาว เพราะมีเวลาจำกัด
60% ของ Gen X มักจะใช้วันหยุดเพื่อหนีจากความเครียด
[ Gen X ปลดล็อคตัวเองทำตามความต้องการ ]
Human Lab จาก สปา-ฮาคูโฮโด เผยว่า Gen X หรือคนที่อายุระหว่าง 43-59 ปี เป็นเดอะแบกในสายตาคนส่วนใหญ่ แต่วันนี้พวกเขาพร้อมที่จะ ‘กระโจน’ ออกจากกรอบชีวิตเดิมๆ เพื่อค้นหาอิสระ ความสุข และจุดหมายใหม่ที่เป็นของตัวเอง
คน Gen X เริ่มกลับมา prioritize ตัวเองมากขึ้น พร้อมใช้จ่ายเพื่อแลกกับสิ่งที่จะทำให้พวกเขาสะดวกขึ้น มีความสุขขึ้น และไม่กระทบกับหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ทั้งเรื่องงานและครอบครัว
สปา-ฮาคูโฮโด ชี้ว่า คน Gen X มีความเครียดสูงเพราะหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมไปถึงเป็นเจเนเรชั่นที่ถูก ‘ตั้งความหวังสูง’ จากคนรอบข้าง ทั้งยังถูกตัดสินง่าย เพราะด้วยอายุที่พร้อมในทุกๆ เรื่อง ตั้่งแต่ ตำแหน่งงาน, รายได้, การรับผิดชอบ และการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจาก Human Lab ด้วยว่า คนเจเนเรชั่นนี้ส่วนใหญ่ที่ทำงานประจำแทบไม่เปลี่ยนงาน ทำงานที่เดิมค่อนข้างนาน ไม่น้อยที่จะมีความคิดอยากเปลี่ยนงาน
แต่พฤติกรรม Gen X ยุคใหม่เริ่มเปลี่ยน เพราะพวกเขามีความคิดที่อยากจะเดินทางคนเดียวมากขึ้น หนีลูกๆ เที่ยวบ้าง และอยากโฟกัสที่ตัวเอง เช่น พัฒนาสกิลที่สนใจ, กลับมาดูแลตัวเอง หรือ ฮีลใจตัวเองเมื่อมีโอกาส
[ Sandwich marketing การตลาดที่จะครองใจคน Gen X ]
ด้วยหน้าที่รับผิดชอบหลายๆ อย่าง ทำให้ สปา-ฮาคูโฮโด แนะนำว่า กลยุทธ์ที่จะใช้ในการเข้าหากลุ่มนี้คือ ‘Sandwich marketing’ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะมาช่วยเสนอสินค้าหรือบริการที่ทำให้ Gen X ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ลดภาระที่ดูแลออกไปบ้าง เพราะ Gen X เป็นMultigeneration care provider คนที่ต้องดูแลสมาชิกครอบครัว ซึ่งมีหลายเจเนเรเชั่น และมีความเชื่อต่างกัน
โดยธุรกิจที่จะตอบโจทย์คน Gen X อย่างเช่น home hybrid security หรือ parenting resources จะช่วยให้แบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตกลุ่ม Gen X ได้ง่ายขึ้น
รวมถึงการทำ เวชศาสตร์ป้องกัน (preventive care) ในรูปแบบ subscription model ที่สามารถทำให้คนกลุ่มนี้กลับมาดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้น คล้ายว่ามีคนมาช่วยวางแผนให้
อีกธุรกิจที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการวางแผนครอบครัว เช่น กลุ่มวางแผนการมีบุตรและการเจริญพันธุ์ (Fertility clinic) เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้
ส่วนในพาร์ทที่คน Gen X หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ใส่ใจความต้องการของตัวเอง ดังนั้น คอร์ส workshops และ platforms ต่างๆ ที่สามารถเข้ามามีส่วนกับการเรียนรู้ใหม่ของพวกเขาได้ รวมถึงช่วยเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ให้มากขึ้นจะได้รับความสนใจ
นอกจากมุมของการ up-skill หรือ re-skill กลุ่มคน Gen X ยังโหยหาที่จะเจอเพื่อนๆ โหยหาอิสรภาพ และอยากไปไหนคนเดียว หรือกลุ่มเพื่อน ดังนั้น การวางแผนท่องเที่ยวเพื่อคลายเครียดระยะสั้นจะตอบโจทย์มากกว่าระยะยาว
ผลวิจัยชี้ด้วยว่า 67.5% คน Gen X พร้อมที่เปย์ ถ้าจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ หรือบริการอะไรก็ตาม