Be On Cloud ชี้แจงภาพยนตร์ บุปผา ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างเป็นภาคต่อ บุปผาราตรี
Be On Cloud ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการภาพยนตร์ บุปผา ที่ทางค่ายเพิ่งได้ส่งวิดีโอตัวอย่างที่เผยรายชื่อนักแสดงนำมากฝีมือมากมายอย่าง อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์, อิงฟ้า วราหะ, ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ และ แจ๊ส-ผดุง ทรงแสง ก่อนที่เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม) Be On Cloud จะออกแถลงการณ์ยืนยันว่าภาพยนตร์ บุปผา จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างเป็นภาคต่อ หรือนำภาพยนตร์ บุปผาราตรี มารีบูต
Be On Cloud ได้เผยว่าทางบริษัทได้สิทธิ์ตามกฎหมายการพัฒนาจากเจ้าของสิทธิ์ พร้อมย้ำเตือนว่าจะเตรียมดำเนินคดีกับคนที่กล่าวหาและทำให้โครงการภาพยนตร์ บุปผา เสียหาย โดยมีเนื้อหาดังนี้
“จากกรณีที่มีการกล่าวถึงและเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการพัฒนาโครงการภาพยนตร์เรื่อง “บุปผา (Buppha)” นั้น บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด ขอใช้พื้นที่นี้ในการชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อทุกฝ่าย บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า โครงการภาพยนตร์ “บุปผา (Buppha)” ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้สัญญาอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ในการซื้อเรื่องและเค้าโครงเรื่องอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้ทำขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรกับ บริษัท ฟิล์ม อาร์ อัส จำกัด ฝ่ายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยสัญญาดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายทุกประการ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีความตั้งใจและยึดมั่นในการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นสำคัญดังนี้
“ประเด็นแรก เรื่องการสื่อสารที่ชัดเจนว่า “ไม่ใช่ภาคต่อ” นั้น บริษัทฯ ตระหนักดีและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่า ภาพยนตร์บุปผาจะถูกนำเสนอในฐานะภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นใหม่โดยสมบูรณ์ และไม่ใช่ภาคต่อ (Sequel) ของภาพยนตร์ “บุปผาราตรี” แต่อย่างใด “ประเด็นต่อมา ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำแรงบันดาลใจจาก “ชื่อและเค้าโครงเรื่อง” ที่ได้รับอนุญาต มาตีความและสร้างสรรค์ผ่านมุมมองของผู้กำกับและทีมงานชุดใหม่ เพื่อให้เกิดเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการออกแบบอัตลักษณ์ของภาพยนตร์ขึ้นใหม่ทั้งหมด รวมถึงการใช้ตัวอักษร (ฟอนต์) ของชื่อเรื่องที่แตกต่างจากต้นฉบับอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนและเป็นการให้เกียรติผลงานเดิมตามเงื่อนไขในสัญญาที่ตกลงจะไม่นำลักษณะตัวหนังสือเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับบุปผาราตรีทั้ง 4 ภาค มาใช้ในการฉายใดๆ ทั้งสิ้น
“สำหรับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นจากสื่อหรือบุคคลภายนอกที่ใช้คำว่า “รีบูท” หรือ “ภาคต่อ” นั้น บริษัทฯ ขอยืนยันว่า มิได้เกิดขึ้นจากการสื่อสารอย่างเป็นทางการของบริษัทฯ และเมื่อรับทราบถึงความคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดต่อไปยังเพจดังกล่าวเพื่อขอให้มีการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องโดยเร็วที่สุด ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นดังกล่าว
“นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการนำเอกสารซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจรจาทางธุรกิจ อันเป็นสัญญาฉบับเก่าที่ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว มาเผยแพร่สู่สาธารณะ บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่สัญญาฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อโครงการนี้ การกระทำในลักษณะดังกล่าวจึงมีเจตนาให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อสาธารณชน ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและขัดต่อหลักการปฏิบัติทางธุรกิจที่ดี และเพื่อปกป้องสิทธิ์อันชอบธรรมและความไว้วางใจต่อสาธารณะต่อโครงการของเรา บริษัทฯ จึงสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม เพื่อระงับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
“บริษัทฯ ขอยืนยันว่า เราให้ความสำคัญและเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจเสมอมา การดำเนินการทุกขั้นตอนของโครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใสและข้อกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะมุ่งมั่นพัฒนาโครงการภาพยนตร์ “บุปผา” ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพสู่สายตาผู้ชม สุดท้ายนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นในการเจรจาอย่างมืออาชีพ และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสิทธิ์อันชอบธรรมของบริษัทฯ ต่อไป”.
อ้างอิง: