หุ้น RS ควงคู่ XYZ บวกแรง หลังแจงแผนปลด ‘CB’ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Bitcoin
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 20.35 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - หุ้น RS ควงคู่ XYZ บวกแรงกว่า หลัง เพิ่มทุน 187 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ Bitcoin Treasury ตั้งเป้าถือครอง 3,333 BTC ภายใน 3 ปี พร้อมแจงแผนปลดเครื่องหมาย 'CB' เต็มกำลัง ผู้บริหารชี้แจง 3 แนวทางหลัก ทั้งการลดต้นทุน-ขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง-เจรจาหนี้ มั่นใจทุกอย่างจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 4 ปีนี้
นายวิทวัส เวชชบุษกร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งส่งผลให้บริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย "Caution Business" (CB) โดยบริษัทได้แสดงความคืบหน้าที่สำคัญในแผนฟื้นฟูทางการเงินและตั้งเป้าหมายว่าจะมีความชัดเจนในทุกประเด็นภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 อาร์เอส กรุ๊ป มีรายได้รวม 484.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 39.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิ 229.0 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนลดลง 16.6% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 392.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยผลประกอบการไตรมาสนี้รวมค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียว 28.1 ล้านบาทสำหรับค่าชดเชยพนักงาน
ความคืบหน้าแผนการแก้ไขปัญหาและปลดเครื่องหมาย CB ซึ่งจากการแถลงข้อมูลต่อนักลงทุน (Public Presentation) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 บริษัทได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหา 3 แนวทางหลัก ดังนี้
1. การบริหารจัดการต้นทุนและเสริมสภาพคล่อง บริษัทได้ดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มข้นและเห็นผลเป็นรูปธรรม:
• ปรับโครงสร้างองค์กร: ลดตำแหน่งงานที่ซ้ำซ้อนและปรับโครงสร้างทีมงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
• ลดพื้นที่สำนักงาน: ปรับขนาดการใช้พื้นที่สำนักงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยสามารถลดพื้นที่เช่าลงได้เกือบ 50%
• ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A): ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2568 สามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้ถึง 217 ล้านบาท หรือลดลง 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยควบคุมค่าใช้จ่ายการตลาดและการโฆษณาให้อยู่ในระดับ 10% ของยอดขายสินค้ารวม (ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน)
2. การจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก บริษัทกำลังอยู่ในกระบวนการจำหน่ายธุรกิจย่อยที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มธุรกิจหลัก โดยมุ่งเน้นไปที่ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพหลายราย และคาดว่าจะมีความชัดเจน ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2568
3. การปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในการเจรจากับสถาบันการเงิน:
• สถานะหนี้บริษัทแม่ (RS): หนี้สินที่เข้าข่ายอาจถูกเรียกคืนตามสัญญา ลดลงจาก 1,771.52 ล้านบาทในสิ้นไตรมาส 1 เหลือ 1,393.12 ล้านบาทในสิ้นไตรมาส 2
• สถานะหนี้บริษัทย่อย: หนี้สินที่เข้าข่ายอาจถูกเรียกคืนตามสัญญา 1,103.80 ล้านบาท ในสิ้นไตรมาส 1 สามารถเจรจาหนี้เงินกู้ระยะสั้นมูลค่า 225.23 ล้านบาทได้สำเร็จแล้ว และกำลังเจรจาหนี้ส่วนที่เหลืออย่างต่อเนื่อง
ผู้บริหารตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงทั้งหมดกับสถาบันการเงิน และได้ข้อสรุปเรื่องการจำหน่ายสินทรัพย์ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 เพื่อให้บริษัทสามารถชำระคืนเงินกู้และมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างยั่งยืน
พร้อมบริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) (RSXYZ, SET Ticker: XYZ / XYZ.BK) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 170 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) จำนวน 5 ราย ในราคาหุ้นละ 1.10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 187 ล้านบาท (ประมาณ 5.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้จะถูกจัดสรร โดยประมาณ 90% ใช้สำหรับการเพิ่มการถือครองบิตคอยน์ ภายใต้กลยุทธ์ Bitcoin Treasury ของบริษัทฯ และอีกประมาณ 10% จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนโครงการใหม่ๆ ด้านการพัฒนาเกี่ยวกับบิตคอยน์ Web3 และธุรกิจโทเคน
นอกจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 170 ล้านหุ้นแล้ว คณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบ General Mandate จำนวน 163 ล้านหุ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการระดมทุนในอนาคตและเสริมความแข็งแกร่งของฐานเงินทุน ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่ RSXYZ วางไว้ในการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีการถือครองบิตคอยน์สูงสุด โดยตั้งเป้าหมายถือครอง 3,333 BTC ภายใน 3 ปี
สำหรับนักลงทุนบุคคลในวงจำกัดทั้ง 5 ราย เป็นผู้ลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับ และมีวิสัยทัศน์ร่วมกับ RSXYZ ในการมองว่า บิตคอยน์คือทุนดิจิทัลเชิงกลยุทธ์และเป็นเสาหลักของอนาคตบริษัท ได้แก่ นายโสรัตน์ วณิชวรากิจ นายเฉลิมโชค ล่ำซำ นายวีรพัฒน์ พูนศักดิ์อุดมสิน นายธีรศักดิ์ พื้นงาม และนางไพรินทร์ อินทะสุข
การเพิ่มทุนดังกล่าวจะถูกนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ในวันที่ 30 กันยายน 2568 ต่อไป ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ XYZ ได้ทาง www.rsxyz.com และ https://x.com/XYZ_thailand