“อินทรวรมันที่ 1” กษัตริย์ขอมยุคก่อนเมืองพระนคร ผู้แผ่อำนาจเหนือลุ่มแม่น้ำ “มูล-ชี”
พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 กษัตริย์ขอมยุคก่อนเมืองพระนคร ผู้ทรงแผ่อำนาจเหนือลุ่มแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ในพื้นที่ภาคอีสานและลาวตอนใต้
หลังจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 2(ครองราชย์ พ.ศ. 1345-1393) สถาปนาลัทธิ “เทวราช” ผนวกบ้านเมืองกัมพูชาโบราณ ที่เคยแตกแยกเป็นเจนละบกกับเจนละน้ำให้เป็นปึกแผ่นอีกครั้ง เป็นรากฐานให้อาณาจักรขอมแห่งเมืองพระนครในเวลาต่อมา พระองค์จึงถือเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรขอม
เสถียรภาพทั่วดินแดนภายใต้พระราชอำนาจชัยวรมันที่ 2 ได้รับการต่อยอดโดยกษัตริย์ขอมรุ่นถัด ๆ มา ดังมีหลักฐานว่า อำนาจจากลุ่มทะเลสาบเขมรได้แผ่เข้ามาถึงลุ่มแม่น้ำมูล-ชี ในสมัย “อินทรวรมันที่ 1” ซึ่งครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1420-1432
รัชสมัยพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1
พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ทรงสืบราชสมบัติจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 3 (ครองราชย์ พ.ศ. 1393-1420) พระองค์ประทับ ณ เมืองหริหราลัย ทางเหนือของทะเลสาบเขมร ห่างจากเมืองเสียมราฐราว 15 กิโลเมตร หลักฐานต่าง ๆ ชี้ให้เห็นว่า พระองค์ทรงมีพระประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะสร้างราชธานีหริหราลัยให้งดงาม และพัฒนาบ้านเมืองให้รุ่งเรืองทุกด้าน
เพื่อตระเตรียมแหล่งน้ำประจำเมืองและชลประทานทั่วพื้นที่ในชนบท พระองค์โปรดให้สร้างบารายขนาดใหญ่ทางทิศเหนือของเมืองใน พ.ศ. 1420 ทรงให้นามบารายแห่งนี้ว่า “อินทรตฏากะ”จากพระนามของพระองค์เอง
ภายในตัวเมืองหริหราลัย พระองค์โปรดให้สร้างศาสนสถานขึ้น 2 แห่งเมื่อ พ.ศ. 1422 และสร้างปราสาทอีก 6 หลัง ณ ปราสาทพระโค เพื่ออุทิศถวายพระราชบุพการี ในจำนวนนั้นรวมถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 และพระมเหสีด้วย
พ.ศ. 1424 พระองค์โปรดให้สร้าง ปราสาทบากองซึ่งเกี่ยวข้องกับลัทธิเทวราช ประดิษฐานเทวรูปพระอิศวรและพระอุมา เทวสถานนี้ตั้งอยู่บนฐานเป็นชั้นขนาดใหญ่ที่ก่อด้วยศิลาทราย
อีกบทบาทสำคัญของกษัติย์ขอมพระองค์นี้คือ ทรงฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับดินแดนโดยรอบ ได้แก่ จีน ชวา และจาม นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดความแตกแยกภายในอาณาจักรในพุทธศตวรรษที่ 13 (ยุคเจนละ) ทำให้ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ขอมผู้ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่ง
ราชอาณาจักรของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ยังแผ่ขยายออกไปถึงบริเวณแม่น้ำมูล-ชี ในพื้นที่ซึ่งปัจจุบันคือจังหวัดอุบลราชธานี ไปถึงโชดก (โชดึก) แถบปากแม่น้ำโขง ปลายแหลมอินโดจีน
ทั้งนี้ เพราะที่อำเภอมหาชนะชัย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอุบลราชธานี มีการพบจารึกเนื่องในพุทธศาสนา ตรงกับ พ.ศ. 1429 กล่าวถึงพระนามพระเจ้าอินทรวรมันว่ากำลังทรงครองราชย์อยู่
เมื่อพระเจ้าอินทรวรมันสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 1432 ทรงได้พระนามหลังจากนั้นว่า “อีศวรโลก”มีการสถาปนาราชอาณาจักรเขมรโบราณขึ้นพร้อม ๆ กับการสร้างเมืองพระนคร (Angkor) ในสมัย พระเจ้ายโศวรมันที่ 1(ครองราชย์ พ.ศ. 1433-1453) เหลือเพียงแคว้นภวปุระที่เป็นแคว้นเจนละเดิมแล้วยังเป็นอิสระอยู่ ราชอาณาจักรค่อนข้างเป็นเอกภาพ และราชธานีโบราณหริหราลัยก็ยังปรากฏร่องรอยโบราณสถานสำคัญหลงเหลือมาตราบถึงปัจจุบัน
การสร้างสระน้ำขนาดใหญ่ของเมืองหริหราลัยแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะเก็บกักน้ำแบบที่อาณาจักรฟูนันเคยทำมาก่อน และเป็นพื้นฐานเทคโนโลยีด้านชลประทานขนาดใหญ่ในศตวรรษต่อ ๆ มาด้วย
ศิลปะเขมรโบราณเจริญควบคู่กับการปกครองของราชอาณาจักรเขมรสมัยโบราณ ศิลปะในพุทธศตวรรษที่ 14 สะท้อนยุคสมัยหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างศิลปะเขมรสมัยก่อนเมืองพระนคร (ฟูนัน-เจนละ) กับสมัยเมืองพระนคร ตลอดพุทธศตวรรษข้างต้น ศิลปะทั้งสองแบบค่อย ๆ มีพัฒนาการสืบต่อกันลงมาตามลำดับ
เพื่อจำแนกความแตกต่าง นักประวัติศาสตร์ศิลปะนิยามชื่อศิลปะยุคนั้นตามชื่อโบราณสถานที่โดดเด่น โดยเรียกศิลปะในรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ว่า ศิลปะแบบกุเลนและเรียกศิลปะในรัชกาลพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ว่า ศิลปะแบบพระโค
สถาปัตยกรรมยุคพระโค
ศิลปะแบบพระโค มีปราสาทสำคัญ 2 แห่งคือ ปราสาทพระโคสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1422 และปราสาทบากอง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1424 ทั้งนี้ ยังมีอีกปราสาทที่เป็นรูปแบบศิลปะใกล้เคียงกัน แต่สร้างโดยพระราชโอรสของพระเจ้าอินทรวรมัน (พระเจ้ายโศวรมันที่ 1) นั่นคือ ปราสาทโลเลย
โบราณสถานเหล่านี้สร้างด้วยอิฐเป็นหลัก แต่องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมบางอย่าง เช่น กรอบประตู เป็นศิลาทราย (หินทราย) มีทับหลังรองรับด้วยเสาประดับกรอบประตู 2 ต้น เป็นศิลาสลักแผ่นใหญ่วางอยู่เหนือกรอบประตู
ที่ปราสาทพระโค ทวารบาลและเทพธิดาของศาสนสถานถูกสลักลงบนแผ่นศิลาทราย ซึ่งฝังติดผนังตัวปราสาท บันไดทางขึ้นก็สร้างด้วยศิลาทรายเช่นกัน ส่วนปราสาทบากองตั้งอยู่บนฐานเป็นชั้นที่ก่อด้วยศิลาทราย ถือเป็นศาสนสถานแห่งแรกที่มีการใช้ศิลาทรายเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง
เทคโนโลยีด้านสถาปัตยกรรมในช่วงรอยต่อนี้เอง เป็นรากฐานของการสร้างปราสาทหินขนาดใหญ่มากมายทั่วราชอาณาจักรในยุคพระนคร
อ่านเพิ่มเติม :
- พิมาย เมืองพุทธ-มหายาน เก่าแก่สุดในลุ่มน้ำโขง ต้นแบบ “ปราสาทนครวัด”
- เรารู้ได้ไงว่า “พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2” เป็นผู้สถาปนา “นครวัด” ทั้งที่ไม่มีจารึกบอก?
- “อาณาจักรเจนละ” รัฐแรกเริ่มอุษาคเนย์ ศูนย์กลางที่อุบลฯ-ยโสธร ต้นเค้าขอมเมืองพระนคร
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์, รศ. ดร. ม.ร.ว. อินทรวรมัน ผู้แผ่อำนาจเหนือลุ่มแม่น้ำ “มูล-ชี”.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกรกฎาคม พ.ศ. 2537.
มาดแลน จิโต ; ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล แปล. (2566). ประวัติเมืองพระนครของขอม.กรุงเทพฯ : มติชน.
สุภัทรดิศ ดิศกุล, ม.จ. อาณาจักรขอม. วารสารเมืองโบราณ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 มกราคม-มีนาคม พ.ศ. 2520.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 สิงหาคม 2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “อินทรวรมันที่ 1” กษัตริย์ขอมยุคก่อนเมืองพระนคร ผู้แผ่อำนาจเหนือลุ่มแม่น้ำ “มูล-ชี”
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com