CPG เปิดกลยุทธ์พลิกอัตลักษณ์ท้องถิ่น สู่สินค้าที่โลกต้องการ
“โลกกำลังหาสิ่งที่เรามี แต่เราต้องพร้อมให้เขาเจอ”
ภายในงาน The Secret Sauce Business Weekend อีสาน 2025 ดร.เอกชัย ตั้งรัตนาวลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ซีดดิ้ง โซเชียลอิมแพคท์ จำกัด ได้มอบกรอบความคิดที่ทรงพลังบนเวทีเสวนา ‘Scaling Framework: From Local Roots to Global Reach – พลิกอนาคต SME ไทย ด้วยแพลตฟอร์มแห่งโอกาส’ เพื่อจุดประกายการพลิกธุรกิจท้องถิ่นให้ก้าวไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น
🟡 เมืองไทยมีของดีที่ต้องโชว์
SME ไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน มีของดีอยู่ในมือ สิ่งที่ขาดไปคือการนำอัตลักษณ์มาสร้างความแตกต่าง ไม่ใช่แค่การใส่เรื่องราวลงบนแพ็กเกจจิ้ง แต่เป็นการสร้างคุณค่าในระดับแบรนด์
🔸ตีความใหม่:ดร.เอกชัย ยกตัวอย่างตลาดปลาร้าที่มีนับพันยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่เหมือนกันหมด การสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในมิติของสินค้าหรือการสื่อสารก็สามารถพลิกเกมได้
🔸สร้างความผูกพันทางอารมณ์:หากสินค้าสามารถตอบโจทย์ความรู้สึกของลูกค้าได้ จะเกิดเป็นความรักในแบรนด์ (Brand Love) ที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและบอกต่อ
🔸ใช้ความจริงใจเป็นจุดขาย:เรื่องราวที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์คือสิ่งที่ทรงพลัง ดร.เอกชัย ยกตัวอย่างผู้ประกอบการที่นำเสนอสินค้าของตนว่ามีคุณลักษณะเหมือนคนอีสานคือ ‘ซื่อสัตย์ อึด และไม่ยอมแพ้’ ซึ่งกลายเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งและน่าจดจำ
🟡คิดการใหญ่ ก้าวต่อไปสู่ตลาดโลก
แม้แต่ในตลาดที่ยากอย่างประเทศจีนก็มี SME ไทยประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่การจะไปสู่จุดนั้นได้ต้องเข้าใจว่า ‘มันคือโจทย์ใหม่’ ที่มีกรอบความคิดและกลไกแตกต่างจากตลาดในประเทศโดยสิ้นเชิง
🔸มาตรฐานและกฎเกณฑ์ที่แตกต่าง:แต่ละประเทศมีมาตรฐานสินค้าและกฎเกณฑ์ทางการค้าที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาและทำให้ผ่านมาตรฐานของประเทศเป้าหมายให้ได้
🔸โครงสร้างราคาที่ซับซ้อนกว่า: การไปตลาดโลกต้องเผชิญกับโครงสร้างต้นทุนที่หนักและซับซ้อนกว่าการขายในประเทศมาก เพราะมีปัจจัยเรื่องการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ การขนส่ง และค่าการตลาดในต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง
🔸การเลือกพาร์ตเนอร์คือหัวใจสำคัญ:การเลือกพันธมิตรทางธุรกิจที่ ‘ใช่’ ในแต่ละประเทศเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด พาร์ตเนอร์ที่ดีต้องไม่ใช่แค่รับซื้อของแล้วจบไป แต่ต้องสามารถให้ข้อมูลที่แน่นอนแก่เราได้
🟡 5 Frameworks พิชิตตลาด Global
SMEs มักตกหลุมพรางความคิดว่า ‘อยากขายของให้ทุกคน’ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ หากอยากเข้าสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน ควรเดินอย่างมีกลยุทธ์ภายใต้กรอบความคิด ดังนี้
🔸1. Market Fit (ตอบโจทย์ตลาด):สินค้าต้องแก้ปัญหาให้ใครสักคนได้จริงๆ และจะไปอยู่ในตลาดที่คนกลุ่มนั้นอยู่ได้อย่างไร
🔸 2. Standard (ผ่านมาตรฐาน):สินค้าต้องมีมาตรฐานที่จำเป็นครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น อย., มอก. หรือมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
🔸3. Differentiation (สร้างความแตกต่าง):ต้องตอบให้ได้ว่าจะแข่งกับสินค้าที่วางอยู่บนชั้นวางข้างๆ ได้อย่างไร หากยังหาไม่เจอ อย่าเพิ่งเข้าตลาด
🔸4. Brand Recognition (สร้างการรับรู้):ต้องทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ว่าสินค้าของเราดี, มีคุณภาพ, และแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร
🔸5. Flexible Pricing (โครงสร้างราคาที่ยืดหยุ่น):ต้องเตรียมแผนราคาและกำไรไว้หลายระดับ (Plan A, B, C) เพื่อให้สามารถปรับตัวสู้กับคู่แข่งในตลาดได้
การนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในยุคนี้ต้องเริ่มจากการยอมรับความจริงที่โหดร้ายของตลาด การเติบโตไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เกิดจากการเตรียมตัวและความพร้อมที่จะให้โลกได้ค้นพบสิ่งดีๆ ว่าเรามี SME ไทยมีศักยภาพที่จะไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ เพียงแค่ต้องเริ่มต้นอย่างเข้าใจและก้าวเดินอย่างมีกลยุทธ์