ฉากเด็ดของ "เมียตัวเอง" หนุ่มตามเทรนด์ย้อนอดีตผ่าน Google Maps เจอเซอร์ไพรส์ใจพัง!
“จับโป๊ะ” ภรรยานอกใจ จากภาพถนนในอดีตผ่าน Google Maps เทรนด์ท่องอดีตกลายเป็นฝันร้ายของชายคนหนึ่ง
กระแสใหม่ที่กำลังมาแรงในโซเชียลอย่างการ "ย้อนเวลา" ด้วย Google Maps ทำให้หลายคนเพลิดเพลินกับการหวนดูภาพถนน บ้าน หรือสถานที่ในอดีต แต่สำหรับชายคนหนึ่งในเวียดนาม การเข้าร่วมเทรนด์นี้กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวดในชีวิตแต่งงาน เมื่อเขาเผลอ "จับได้" ว่าภรรยากำลังนอกใจผ่านภาพ Street View ที่บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2022
ชายรายนี้เล่าว่า เขาตั้งใจเปิด Google Maps เพื่อตามกระแสย้อนอดีต โดยค้นหาบ้านเก่าในเมืองและบ้านพ่อแม่ในชนบท ซึ่งไม่มีภาพที่น่าสนใจมากนัก แต่เมื่อเขาค้นหาบ้านของตนเองที่อาศัยกับภรรยาในเมือง เขากลับพบภาพของบ้านในสองช่วงเวลาคือปี 2018 ช่วงก่อนที่เขาจะซื้อบ้านหลังนี้ และปี 2022 ซึ่งถ่ายหลังจากเขาและภรรยาได้ปรับปรุงบ้านใหม่แล้ว เขาตั้งใจดูความเปลี่ยนแปลงรอบๆ บ้าน แต่กลับต้องช็อกกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
หน้าบ้านของเขา ปรากฏภาพผู้หญิงในชุดเดรสลายจุด ยืนอยู่ข้างชายแปลกหน้าที่นั่งบนรถจักรยานยนต์สีแดง แม้ภาพจะไม่คมชัดแต่เขาจำชุดเดรสนั้นได้ดี เพราะเป็นชุดที่ภรรยายังใส่อยู่จนถึงปัจจุบัน และเมื่อซูมดูใกล้ๆ ก็ยิ่งชัดเจนว่าเป็นภรรยาของเขาจริงๆ โดยในภาพชายคนนั้นกำลังยื่นหมวกกันน็อกให้เธอ และได้รับจูบที่แก้มเป็นการตอบแทน ภาพที่ Google Street View บันทึกไว้โดยบังเอิญ จึงกลายเป็นหลักฐานสำคัญของการนอกใจที่เขาไม่เคยคาดคิด
เขาย้อนทบทวนช่วงเวลาในภาพนั้นว่าเป็นหน้าร้อนปี 2022 ตอนที่ภรรยาเพิ่งกลับมาทำงานหลังจากลาคลอดลูกคนแรก และช่วงนั้นบ้านก็ยังไม่มีการติดกล้องวงจรปิด อีกทั้งเพื่อนบ้านก็ไม่ได้สังเกตอะไรผิดปกติ นับตั้งแต่พบภาพนั้น เขาแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ และยังไม่ได้เผชิญหน้าหรือพูดอะไรกับภรรยา เพราะยังไม่รู้จะเริ่มต้นหรือจบเรื่องนี้อย่างไร เขาสงสัยว่าภรรยาจะเคยเปิดดูภาพบ้านตัวเองผ่าน Google Maps แล้วเจอภาพนี้หรือไม่ แต่ก็ยังไม่พบสัญญาณอะไรผิดปกติ ภรรยายังคงดูแลบ้าน พูดคุยกับเขาเป็นปกติ มีเพียงเขาเท่านั้นที่หัวใจสับสนวุ่นวาย
เขายอมรับว่า เคยเชื่อใจภรรยาอย่างหมดใจตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา ใช้ชีวิตร่วมกันผ่านความลำบาก จนมีบ้านและครอบครัวที่มั่นคง ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการนอกใจ นอกจากการทะเลาะกันตามปกติของคู่ชีวิตทั่วไป หลังจากพบเจอเรื่องนี้ เขาพยายามหาคำแนะนำจากโพสต์ในโซเชียลที่มีประสบการณ์คล้ายกัน แต่กลับรู้สึกว่างเปล่ามากกว่าเดิม ทุกความคิดเห็นยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวด และความลังเลว่าจะให้อภัยหรือยุติความสัมพันธ์นี้ดี
“ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร การนอกใจก็คือการนอกใจ” เขากล่าวในตอนท้าย พร้อมยอมรับว่าบาดแผลในใจครั้งนี้อาจไม่มีวันหายสนิท แม้จะยังไม่ตัดสินใจเรื่องอนาคตของชีวิตคู่ แต่เขาก็รู้ดีว่าอะไรบางอย่างได้เปลี่ยนไปตลอดกาล