รัฐบาลทรัมป์ไม่แคร์ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) สั่งคว่ำบาตรฐานโจมตี "เอกราชของสหรัฐฯ"
เบื้องหลังข่าว
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้มีคำสั่งฝ่ายบริหารที่ 14203 ชื่อเรื่อง "การคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ" เเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 คำสั่งนี้กำหนดบทลงโทษต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ คำสั่งดังกล่าวรวมถึงข้อจำกัดด้านวีซ่าและบทลงโทษทางการเงินสำหรับผู้ที่ช่วย ICC สืบสวนพลเมืองสหรัฐฯ และพันธมิตรของสหรัฐฯ
- ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) สามารถดำเนินคดีกับบุคคลทั่วโลกในข้อหาอาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มี 125 ประเทศเป็นสมาชิกของศาล แต่ทั้งสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลไม่ได้เลือกที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่ออัยการสูงสุดของ ICC คือ ฟาตู เบนซูดา และหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องของเธอ เพื่อเป็นการลงโทษสำหรับการสืบสวนอาชญากรรมสงครามที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
- ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และโยอัฟ กัลลันต์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล อิสราเอลและสหรัฐอเมริกาคัดค้านการตัดสินใจดังกล่าว ในสัปดาห์ก่อนหน้าคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับนี้ พรรครีพับลิกันซึ่งเป็นเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้พยายามออกมาตรการคว่ำบาตร ICC แต่ถูกขัดขวางโดยวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต แต่ทร์มป์ก็ประกาศคำสั่งคว่ำบาตร ICC ในที่สุด แต่มันยังไม่จบแค่นั้น
ล่าสุด Agence France-Presse (AFP) รายงานว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ประณามมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ต่อศาลระหว่างประเทศแห่งนี้ โดยสหรัฐฯ ได้สั่งคว่ำบาตรที่มีต่อผู้พิพากษาและอัยการอีก 2 คน โดยระบุว่าบุคคลดังกล่าวกระท "การโจมตีอย่างโจ่งแจ้ง" ต่อเอกราชของสหรัฐฯ
บุคคลากรของ ICC ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย ผู้พิพากษานิโคลัส กิลลู แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประธานพิจารณาคดีที่มีการออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล
ผู้พิพากษาคิมเบอร์ลี พรอสต์ แห่งแคนาดา และรองอัยการนาซฮัต ชามีม ข่าน แห่งฟิจิ และมาเม มันเดียเย เนียง แห่งเซเนกัล ก็ถูกโจมตีเช่นกัน
พรอสต์ มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีที่อนุญาตให้มีการสอบสวนอาชญากรรมที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำระหว่างสงครามในอัฟกานิสถาน ซึ่งรวมถึงการกระทำโดยกองกำลังสหรัฐฯ
ศาลกล่าวในแถลงการณ์ว่า "มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้เป็นการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งต่อความเป็นอิสระของสถาบันตุลาการที่เป็นกลาง"
ICC ระบุว่า ICC "ยืนหยัดอย่างมั่นคงเคียงข้างบุคลากรและเหยื่อของความโหดร้ายที่ไม่อาจจินตนาการได้"
ICC กล่าวว่าจะ "ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปโดยไม่ย่อท้อ" และ "โดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัด แรงกดดัน หรือการข่มขู่ใดๆ"
ผู้พิพากษาอีก 4 ท่านและอัยการศาลถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้
Photo by Mandel NGAN / AFP