ฟิทช์มองหนี้สาธารณะ สหรัฐฯ พุ่งไม่หยุด แม้รายได้จากภาษีเพิ่ม
ฟิทช์ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของ สหรัฐฯ ที่ AA+ แต่ยังคงจับตาปัญหาหนี้สาธารณะที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 127% ของ GDP ในปี 2570 ชี้การเพิ่มขึ้นของรายได้จากภาษีศุลกากรอาจช่วยได้เพียงระยะสั้น แต่ยังไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ขณะที่สถานะของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองโลกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ
23 ส.ค. 68 ฟิทช์ (Fitch) ประเมินว่า หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะกลาง ซึ่งอาจทำให้ประเทศเผชิญความเปราะบางต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจในอนาคต แม้ในปีนี้คาดว่าการขาดดุลงบประมาณทั่วไปจะลดลงจาก 7.7% ของจีดีพีในปี 2567 เหลือ 6.9% ในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นที่ฟื้นตัว และรายได้จากภาษีศุลกากรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 2.5 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ จาก 7.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ฟิทช์ประเมินว่าในระยะยาว การขาดดุลจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีมีโอกาสแตะระดับ 127% ภายในปี 2570 จาก 114.5% ณ สิ้นปีที่แล้ว โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญยังคงเป็นค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการที่เพิ่มสูงขึ้นจากโครงสร้างประชากรสูงวัย
เมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.) ฟิทช์ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ไว้ที่ AA+ โดยชี้ถึงความท้าทายจากการขาดดุลการคลังและหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น แต่ก็เน้นย้ำถึงขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ รายได้ที่สูง และความยืดหยุ่นทางการเงินจากสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลก ซึ่งยังคงครองสัดส่วน 58% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ
ฟิทช์ยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ ยังไม่ได้ดำเนินมาตรการสำคัญเพื่อลดการขาดดุลและควบคุมภาระหนี้ ขณะที่การเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจช่วยลดการขาดดุลลงได้ในปีนี้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะจัดการปัญหาเชิงโครงสร้างด้านการคลัง
การยืนยันอันดับเครดิตครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) คงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ไว้ที่ AA+ เช่นกัน โดยมองว่ารายได้จากภาษีศุลกากรอาจช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านการคลังจากการลดภาษีและกฎหมายใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะที่ในปีที่ผ่านมา มูดี้ส์ (Moody’s) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ลงหนึ่งขั้นเช่นกัน ทำให้สหรัฐฯ สูญเสียอันดับเครดิตสูงสุดจากทั้งสามสถาบันจัดอันดับ
ทั้งนี้ ฟิทช์เคยปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐฯ ลงหนึ่งขั้นจากระดับ AAA ในปี 2566 เนื่องจากกังวลต่อฐานะการคลังที่ถดถอยและปัญหาการเจรจาเพดานหนี้ที่ยืดเยื้อ แต่ปัจจุบันยังคงให้อันดับเครดิตสหรัฐฯ อยู่ในแนวโน้มที่มีเสถียรภาพ