‘คลัง‘ ถกหน่วยงานเกี่ยวข้อง สรุปแผนเยียวยารับมือภาษีสหรัฐ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่ประเทศไทยมีความชัดเจนแล้วว่าสหรัฐอเมริกาจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 19% และรับทราบผลกระทบเบื้องต้นแล้ว ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบ จะต้องเร่งยื่นของบประมาณสนับสนุนการเยียวยามายังกระทรวงการคลัง ภายในเดือนส.ค.นี้ เพื่ออนุมัติงบประมาณให้ทันภายในเดือนก.ย.68 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2568 โดยขณะนี้วงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ราว 24,000 ล้านบาท
"แต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปสหรัฐฯ จะรู้แล้วว่าผู้ส่งออก ผู้ผลิต ภาคแรงงาน ภาคเกษตร ได้รับผลกระทบอย่างไร ดังนั้นกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องเร่งจัดทำรายละเอียดมายังกระทรวงการคลัง เพื่อเข้าสู่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนเสนอคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ต่อไป"
นายลวรณ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการกำหนดการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content) รวมถึงประเด็น การกำหนดสัดส่วนมูลค่าการผลิตในภูมิภาค (Regional Value Content: RVC) นั้น เป็นเรื่องใหม่ ซึ่งหลายประเทศ ก็ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นต้องลงรายละเอียด ประเภทสินค้าแต่ละรายการ เชื่อว่าต้องใช้เวลาในการพิจารณาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากการได้มาซึ่งภาษีอัตรา 19% เป็นก้าวแรกเท่านั้น ต้องมีรายละเอียดเจรจากันอีกหลายขั้นตอน
“เรายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่ต้องคุยกับสหรัฐ ทั้งในเรื่องสัดส่วน RVC และขณะนี้กรอบยังไม่ได้กำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จเมื่อใด”
อย่างไรก็ตามในวิกฤตภาษีสหรัฐฯ 19% นั้น ถือเป็นโอกาสของประเทศไทย ที่ต้องปฏิรูปโครงสร้างภาคเกษตรของไทยทั้งระบบ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หากไม่ดำเนินการใดๆ ภาคเกษตรไทยอาจไปไม่รอดในอนาคต เพราะคู่แข่งสินค้ามีหลายราย
ส่วนเรื่อง การซื้อเครื่องบินโบอิ้ง ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อีก 35 ลำนั้น เป็นเพียงข้อเสนอทางเลือกมายังประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากก่อนนี้ การบินไทย ได้ทำสัญญาซื้อเครื่องบินโบอิ้งไปแล้ว 45 ลำ แล้วจะทยอยส่งมอบเครื่องบินในปี 69 ดังนั้นการซื้อเครื่องบิน ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการเจรจาภาษี เป็นเพียงข้อเสนอการจัดซื้อเท่านั้น ซึ่งการบินไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติม