“สรวงศ์” คืนงบ 10 ล้านบาท ไม่ใช้พัฒนาแอปฯ
ว่าที่ร้อยตรี สมชาติ เตชถาวรเจริญ สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ถามกระทู้ถามสดในเรื่อง โครงการจัดซื้อจัดจ้าง ทำเว็บไซต์เพื่อลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง และอยากทราบถึงเม็ดเงินในการลงทุนเพื่อทำโครงการนี้เป็นจำนวนเงินกี่บาท รวมถึงมาตรการการป้องกันการทุจริตของโครงการและผู้ที่จะออกมารับผิดชอบที่ของระบบหากเกิดการทุจริตขึ้น
โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าขอใช้เวทีสภาแห่งนี้ แสดงคำขอโทษต่อพี่น้องประชาชน โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เป็นนโยบายที่ออกมาเพื่อกระตุ้นไทยเที่ยวไทย คนที่ใช้สิทธิ์ได้ต้องมีบัตรประชาชนคนไทยเท่านั้น ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเองยังมีคดีค้างกับผู้ประกอบการที่ได้รับหมายในเรื่องของการทุจริตกว่า 1,300 คดี สิ่งที่อยากให้ทำและอยากให้เกิด ต้องมีฐานข้อมูลของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทยเพื่อการวางแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน
การถามว่าทำไมถึงไม่ใช้แอปพลิเคชันเก่า หรือฐานข้อมูลจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งณปัจจุบันธนาคารกรุงไทยไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว การจะไปผูกพันกับธนาคารใดธนาคารหนึ่งถือเป็นการปิดกั้นธนาคารต่างๆที่เป็นธนาคารพาณิชย์ด้วยกันเอง
ในการเปิดลงทะเบียนวันแรก ประชาชนยังสับสนซึ่งตนได้มีการตำหนิและตั้งคณะกรรมการสอบขึ้นมาแล้วว่าทำไมประชาชนจึงสับสน เพราะโครงการนี้ไม่ได้เหมือนกับโครงการที่ผ่านมา เราเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ 5 แสนสิทธิ์ ปิดการลงทะเบียนทันที และต้องมีการจองภายในสามวันหากไม่จองถือว่าหมดสิทธิ์ แต่ครั้งนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆและต้องการให้คนที่มีแผนพร้อมที่จะเที่ยวได้มีการซื้อ จอง และจ่ายเงิน 5 แสนสิทธิ์ลอยอยู่ในอากาศ ตนได้มีการบอกกับทาง ททท.ไปด้วยซ้ำว่า หากใช้ระบบนี้ประชาชนไม่ต้องเสียเวลามานั่งลงทะเบียน แสดงตัวตนกับสิทธิ์ หรือเข้าระบบเลยด้วยซ้ำ ให้มาเน้นในเรื่องของปลายทางในผู้ประกอบการ และการจ่ายเงินของ ททท.ไปให้ผู้ประกอบการ เพราะคนไทยทุกคนควรมีสิทธิ์ทุกคนมีบัตรประชาชนอยู่แล้วแต่สิ่งที่มีคดีค้างอยู่กว่า 1,300 คดี ทุกหน่วยงานต้องการปกป้องหน่วยงานตัวเอง และไม่ให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าทำไมจึงต้องลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD
ในวันที่มีการลงทะเบียน แอปพลิเคชัน ThaiD ล่มตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซึ่งทางระบบเปิดให้ลงทะเบียน 8 โมงเช้า เมื่อรู้ปัญหาก็สั่งให้บายพาสทันที ทำให้ประชาชนที่จองโรงแรมสามารถยืนยันสิทธิ์ได้ภายหลัง จากนั้นก็มีปัญหาเรื่องของการส่ง OTP กลับทางอีเมล โดยเฉพาะผู้ใช้ Gmail เพราะทางกระทรวงไม่ได้แจ้งกับ Gmail ว่าจะมี Traffic เข้าไปเยอะขนาดนี้ จึงต้องมีการป้องกันระบบและค่อย ๆ ทยอยปล่อยออกมาเรื่อย ๆ วันแรกมีผู้ที่ใช้ Gamil สามารถลงทะเบียนได้เพียง 10,000 คน วันที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนคน จนสุดท้ายจึงมีการสั่งการด้วยตนเองเพื่อปิดระบบการลงทะเบียนณวันที่ปิดมีคนลงทะเบียนแล้วประมาณ 1.4 ล้านคน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถแก้ปัญหาหลังบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ Cloud ให้ประชาชนเข้าได้มากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ที่ลงทะเบียนแล้วได้รับสิทธิ์ยืนยันประมาณ 1.88 ล้านคน มีผู้ที่จองแล้วและชำระเงินแล้ว 1.6 ล้านคน ทางรัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเที่ยวได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม
ซึ่งจริงๆแล้วโครงการนี้จะต้องเริ่มตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา แต่มีความล่าช้าในการของบประมาณ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการเสร็จก็มีการประกาศโครงการทันที
สำหรับโครงการนี้ได้มีการของบประมาณไปทั้งสิ้น 1,750 ล้านบาท เพื่อดูแลประชาชน 5 แสนสิทธิ์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง แต่ละคนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์สามารถไปท่องเที่ยวได้โดยใช้ 5 สิทธิ์ มีทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ส่วนเรื่องการจองสิทธิ์และระบบมีการปฏิเสธทำให้คนนั้นเสียสิทธิ์ใช้เที่ยวไทยคนละครึ่ง จะรับเรื่องไปตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ยังเหลืออีก 3 แสนสิทธิ์ สามารถลงทะเบียนใช้สิทธิ์ได้
สำหรับงบประมาณที่ใช้จัดทำแอปพลิเคชัน ในเอกสารระบุไว้จำนวน 10 ล้านบาท แต่ด้วยความล่าช้าของการอนุมัติงบและโครงการ ททท. ซึ่งมีพันธมิตรและสามารถทำโครงการนี้ได้พอสมควรจึงทำเองก่อนโดยงบ 10 ล้านบาท ได้แจ้งต่อสำนักพบว่าจะไม่ขอใช้งบ