'อนุทิน' กล่อม 'ลุงป้อม' หนุนเป็น นายกฯ 6 เดือน หาก 'แพทองธาร'ตกเก้าอี้
28 ส.ค.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.)เข้าพบ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)วันนี้ ก่อนศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิฉัยคดีคลิปเสียง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่า นายอนุทิน และพลเอกประวิตร นัดดพูดคุยเป็นระยะอยู่แล้ว มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตอลด มีการนัดกินข้าวกันหารือวันพรุ่งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะหาทางออกอย่างไร แต่ยอมรับว่าไม่ทราบใครนัดใคร ตนเป็นเพียงร่วมรับประทานอาหารพร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์
เรามีความเชื่อว่า ถ้านายกฯแพทองธาร ชินวัตรพ้นจากตำแหน่ง พรรคเพื่อไทยระส่ำระส่าย พรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากอยู่ต่อ รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาล ต้องยอมรับว่ารอบที่แล้วมีภท และพปชร โหวตให้นายกฯแพทองธาร แต่รอบนี้ไม่มี เสียงปริ่มน้ำ เกิดกึ่งหนึ่งประมาณ 10 เสียง สมมุติมีคนบางกลุ่มไม่โหวต เพราะไม่ได้ตำแหน่งที่ต้องการ ตกลงกันไม่ได้ มีโอกาสไม่ผ่านสูง เสียงปริ่มน้ำมาก หัวหน้าสองพรรคมาคุยกันแต่ไม่ลงรายละเอียด ยืนยันว่า หัวหน้าสองพรรคอยู่ด้วยกัน
"พรุ่งหลังศาลอ่านคำวินิฉัย หากผลออกมา นายกฯแพทองธารหลุดจากตำแหน่ง จะนัดพูดคุยกัน ทุกอย่างจะเกิดในวันพรุ่งนี้ วันนีแค่คุยดู ทุกพรรคการเมืองพร้อมจับมือทำงานอยู่แล้ว แต่ส่วนหนึ่งฟังเสียงประชาชน วันนี้นายกฯแพทองธาร ประชาชนมั่นใจไหม ดูจากโพล ประชาชนหมดความไว้วางใจไม่มีความเชื่อมั่นพรรคนี้แล้ว และทุกคนอยากเป็นขั้วอยู่แล้ว และเมื่อเปลี่ยนขั้วจะเดินหน้าได้นานแค่ไหน ถ้ามีพรรคประชาชนมาร่วมมีเงื่อนไขยุบสภาโดยเร็ว แก้ปัญหาระยะสั้น ทางออกที่ประชาชนสบายใจกว่าการที่จะให้รัฐบาลชุดเดิมอยู่ต่อ"
เช่นปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หากรัฐบาลชุดนี้ยังอยู่แก้ไขปัญหาไม่ได้ นายทักษิณ ชินวัตร ขัดแย้งกับสมเด็จฮุน เซน มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ทำให้แก้ปัญหาชายแดนไม่รายรื่น การจะให้ไทยสู้กับกัมพูชาได้เข้มแข็งต้องเปลี่ยนรัฐบาล ไม่ให้นายทักษิณ เข้ามาเกี่ยวข้อง
"ต้องให้เกียรตินายอนุทิน มีสส.70 คนมากที่สุด ให้ลองจัดตั้งรัฐบาล มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ต้องเข้าใจว่า นักการเมืองทุกพรรคต้องพูดคุยกันอยู่แล้วหากมีการจัดตั้งรัฐบาล ในขณะเพื่อไทย ต้องสร้างความแข้มแข็ง เพราะนางสาวแพทองธารเป็นหัวหน้าพรรค ต้องยืนหยัด ยังสู้ ยังแข็มแข็ง ถ้าถอย ก็พัง แต่ที่สู้แม้หลุดจากตำแหน่งเพื่อให้เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อในนามพรรคเพื่อไทย โดยมีนายทักษิณอยู่ข้างหลัง หวังทุกองคาพยพร่วมถึงพรรคร่วมรัฐบาลยังมัดกันอยู่"
นายชัยวุฒิ ยังเชื่อว่า ภายหลังการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และมีการนัดพบกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเหมือนที่รอบที่แล้ว ก็ไม่ง่ายเพราะเสียงปริ่มน้ำ ทำให้โอกาสโหวตไม่ผ่านสูง การต่อรองตำแหน่งสูง จัดตั้งรัฐบาลแบบเดิมไม่ได้แน่นอน
พร้อมทั้งยืนยันว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะดึง ภท.และ พปชร.กลับมาร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม แต่คงกลับไปยาก เพราะหักกันขนาดนี้ ความรู้สึกทำงานร่วมกันยากในวาระสภานี้ ที่สำคัญความรู้สึกของประชาชนที่ไม่อยากให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อ เขาหมดหวัง ย้ำว่า ภท.และ พปชร. ไม่เข้าร่วมรัฐบาลชุดนี้ เพื่อโหวตให้นายชัยเกษม นิติศิริ และถึงแม้ว่า พรรคเพื่อไทยจะอาศัยเสียงพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน ก็ไม่ง่าย เพราะมีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล และคลื่อนใต้น้ำในพรรคเพื่อไทย พรรคกระแสตก สส.พร้อมจะย้ายพรรค และที่สำคัญที่ผ่านมา สส.อาวุโสหลายจังหวัด ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีและไม่ได้มีบทบาททางการเมือง โดยข้ามหัวไปกี่คน จะอยู่ต่อหรือไม่ ในอดีตมีงูเห่า วันนี้เรื่องปกติพรรคเพื่อไทยต้องโดนบ้าง คนแบบร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า จะต้องเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย
นายชัยวุฒิ ยังยอมรับว่า มีหลายกลุ่มพรรคเพื่อไทย พร้อมจะแยกออกมาทำงาน การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เราไม่ได้มองที่ตัวนายชัยเกษม แต่มองที่นายทักษิณ ที่ไม่ได้อยู่ในสถานะขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทยได้เข้มแข็งเหมือนอดีต สมาชิกพรรครู้สึกพรรคเพื่อไทยไปต่อไม่ได้ ดังนั้นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยแท็กทีมกันแน่นจัดตั้งรัฐบาลต่อยากมาก คนในพรรคตัวเองเอาไม่อยู่ ก็ไม่ต้องพูดถึงพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า พลเอกประวิตร ได้มีการพูดคุยกับบางกลุ่มในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อย่าให้พูด ก็มากันเรื่อยๆ
"เราพูดแค่คนในวงการการเมือง และคนในพรรคเรา ส่วน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเป็นองคมนตรีแล้ว ไม่ได้พูดถึงท่าน แต่เรื่องการเมืองอะไรจะเกิดขึ้น คงตอบไม่ได้ และเชื่อว่าท่านจะไม่กลับมา และเราจะหาทางออกได้"
นายชัยวุฒิ ย้ำว่า หากพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เป็นหน้าที่พรรคการเมืองอื่น โดยสมการแรก มีพรรคประชาชนร่วม และเติมด้วยพรรคอื่นๆ พลิกกลับขั้วมา แต่หากพรรคประชาชนไม่โหวตให้ ก็ต้องมาหาเสียงจากพรรคเพื่อไทย อาจจะไม่ได้มาจากนายทักษิณ เห็นชอบ แต่ได้มาจากแตกออกมากลุ่มใหญ่ๆกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการเมืองแบบนี้ในอดีตเคยมี เพื่อให้เกิดการพลิกขั้ว ให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เดินหน้าไปได้ เป็นความจำเป็นรัฐสภาาทางออก
"หากเทียบกันนายอนุทิน ดีกว่านายชัยเกษม เพราะเป็นตัวหลัก เป็นหัวหน้าพรรคในการขับเคลื่อนการเมืองหลายปี มีประสบการณ์ มีความพร้อม"
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ในระหว่างการพบกัน นายอนุทิน ได้พูดคุย พลเอกประวิตร กรณีหากนางสาวแพทองธารหลุดจากตำแหน่ง ขอให้พลเอกประวิตร ช่วยโหวตสนับสนุนให้เป็นนายกฯ พร้อมจัดตั้งรัฐบาลและใช้เวลา 6 เดือน แก้ปัญหาประเทศก่อนยุบสภา