สนาม DPU คึกคัก! เปิดศึกบอลนักเรียน 18 ปี ก.-16 ปี ก. “เดลินิวส์-กรมพลฯ” ผนึกดันสู่เวทีอาชีพ
จากการที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลระหว่างโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2568 รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประเภท ก ชิงถ้วยพระราชทาน โดยนัดเปิดสนามแข่งขันที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา และคู่อื่น ๆ ทำการแข่งขันที่สนามภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ส่วนในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะทำการแข่งขันที่สนามศุภชลาศัย เพื่อส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยให้ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ พร้อมปลูกฝังคุณลักษณะของนักกีฬาที่ดี ความมีน้ำใจนักกีฬา และทักษะการทำงานเป็นทีม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้เปิดสนามอย่างเป็นทางการต้อนรับการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ก. และรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก. ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมพลศึกษาและหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยคู่แรกของวันนี้ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา พบกับ โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ต่อด้วยคู่ที่ 2 โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม พบกับ โรงเรียนท่าข้ามพิทยาคม
นายอรรคพงษ์ ไมตรีจิตต์ นักพัฒนาการกีฬาชำนาญการพิเศษ ผู้แทนกรมพลศึกษา กล่าวว่า การแข่งขันนัดแรกที่สนามมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ในวันนี้ ตนรู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่ DPU เปิดพื้นที่ให้ใช้สนามในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ก. และรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก. ซึ่งถือเป็นความร่วมมือสำคัญในการยกระดับคุณภาพของการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนไทยในปีนี้ ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่เอื้อเฟื้อสถานที่สนามฟุตบอลในการจัดการแข่งขัน ตลอดจนการดูแลทีมงานและนักเรียนที่เข้าแข่งขัน
“สนามแข่งขันที่ดีมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาฟุตบอลระดับเยาวชน ทั้งในด้านทักษะ ระบบทีม รวมถึงการวางแผนการเล่นในระดับที่สูงขึ้น เมื่อเรามีสนามคุณภาพ และมีสนามแข่งขันในหลายพื้นที่ ก็ยิ่งเอื้อต่อการจัดโปรแกรมให้เหมาะสม และช่วยให้นักกีฬาได้พัฒนาเต็มศักยภาพ” นายอรรคพงษ์ กล่าว
ด้านนายกานต์ พึ่งกัน หัวหน้าข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนในปีนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมพลศึกษาและหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ซึ่งดำเนินการจัดต่อเนื่องมาในปีที่ 2 โดยปี 2568 นี้ จัดการแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ก. และรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก. ภายใต้แนวคิดการกระจายสนามแข่งขันไปยังหลายพื้นที่ เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของโปรแกรมการแข่งขันให้นักกีฬาไม่ต้องลงเตะต่อเนื่องเกินไปจนเสียสมรรถภาพ
“เราอยากให้การแข่งขันเป็นไปอย่างมีคุณภาพ สนามที่ใช้จึงต้องมีความพร้อมหลายด้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม อัฒจันทร์ พื้นสนาม และบรรยากาศที่ส่งเสริมให้นักเตะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับสนามอาชีพ และเมื่อทางเดลินิวส์ประสานไปยังมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ก็ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ทางมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจพัฒนาพื้นที่สนามให้พร้อมอย่างเต็มที่ เราจึงขอขอบคุณในนามของเดลินิวส์ รวมถึงแทนนักกีฬาทุกคนที่ได้ใช้สนามแห่งนี้เป็นเวทีในการแสดงศักยภาพ”
นายกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สนามของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ถือเป็นหนึ่งในสนามที่มีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศยอดเยี่ยม นักกีฬาเยาวชนไม่เพียงได้ลงสนามที่มีมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสบรรยากาศของการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วยจุดประกายความฝันในการศึกษาต่อในอนาคต
จากประสบการณ์ของนายกานต์ที่ติดตามการแข่งขันมายาวนาน พบว่ารูปแบบการฝึกซ้อม การสอน และการลงทุนในฟุตบอลระดับโรงเรียน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในยุคปัจจุบัน โรงเรียนจำนวนมากทุ่มงบประมาณหลายล้านบาทต่อปีในการพัฒนานักฟุตบอล ทั้งเรื่องโค้ช มืออาชีพ ทีมงาน และการดูแลด้านสวัสดิการ ซึ่งส่งผลให้คุณภาพของการแข่งขันสูงขึ้นตามลำดับ
การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนรายการนี้ ถือเป็นเวทีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ในหมู่การแข่งขันระดับมัธยมปลาย โดยเฉพาะรุ่น 18 ปี ก. ที่เปรียบได้กับ “พรีเมียร์ลีก” ของนักเรียน เนื่องจากรวมเอานักเตะตัวท็อปจากแต่ละสถาบันมาแข่งขันกันในระบบที่เข้มข้นและมีมาตรฐาน
“หากทุกฝ่ายช่วยกันสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสนาม บรรยากาศ กองเชียร์ การถ่ายทอดสด หรือการบริหารโปรแกรมอย่างมีคุณภาพ ก็จะส่งผลให้นักเตะมีความตั้งใจ พัฒนาตัวเอง และยกระดับจากระดับนักเรียนไปสู่นักกีฬาอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ” หัวหน้าข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ กล่าว
สำหรับการแข่งขันในสนาม DPU เริ่มต้นวันแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 โดยมีการแข่งขันวันละ 2 คู่ เริ่มเวลา 15.00 น. และ 17.00 น. ซึ่งจะจัดขึ้นสัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันจันทร์และวันศุกร์ ต่อเนื่องจนจบรอบการแข่งขัน
ในส่วนของรุ่น 18 ปี ก. มีทีมเข้าร่วมทั้งสิ้น 16 ทีม แบ่งออกเป็น 2 สาย สายละ 8 ทีม แข่งขันแบบมินิลีกพบกันหมดในสาย ทีมละ 7 นัด จากนั้นคัดเลือกทีมอันดับ 1-4 ของแต่ละสายเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย และแข่งขันต่อเนื่องจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 29 สิงหาคม 2568
หลังจากจบการแข่งขันรุ่น 18 ปี ก. จะต่อด้วยการแข่งขันในรุ่น 16 ปี ก. ซึ่งมีรูปแบบการแข่งขันที่แตกต่างออกไป โดยแบ่งทีมออกเป็น 4 สาย ได้แก่ สาย A, B, C และ D สายละ 4 ทีม แข่งขันรอบแรกแบบพบกันหมดในสาย ทีมละ 3 นัด คัดทีมอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละสายเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากนั้นแข่งขันรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ โดยจะจบการแข่งขันภายในปลายเดือนกันยายน 2568